ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

ย้อนหลังดูข้อเขียนเมื่อหลายเดือนก่อน โดย ดร.บรรจบ บรรณรุจิ "สถานะของชาวพุทธที่ตกต่ำทั้งในด้านศักดิ์ศรี และในด้านสิทธิตามกฏหมาย สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ จะไม่คิดกอบกู้บ้างเลยหรือ ?

ย้อนหลังดูข้อเขียนเมื่อหลายเดือนก่อน โดย ดร.บรรจบ บรรณรุจิสถานะของชาวพุทธที่ตกต่ำทั้งในด้านศักดิ์ศรี และในด้านสิทธิตามกฏหมาย สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ จะไม่คิดกอบกู้บ้างเลยหรือ ?


ย้อนหลังดูข้อเขียนเมื่อหลายเดือนก่อน โดย ดร.บรรจบ บรรณรุจิ
"สถานะของชาวพุทธที่ตกต่ำทั้งในด้านศักดิ์ศรีที่เป็นศาสนิกของศาสนาของคนส่วนใหญ่และในด้านสิทธิตามกฏหมายที่พึงได้
สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ จะไม่คิดกอบกู้บ้างเลยหรือ ?
ฤาจะเอาแต่ไล่บี้วัดพระธรรมกาย ?
ระวัง ! ทำอะไรผลีผลาม จะถูกไล่บี้เอาบ้าง แล้วจะหาว่าไม่เตือน"
+×÷=+×÷=
@ เห็นการทำงานของสำนักพุทธฯ แล้วหนักใจ ไม่มีอะไรทึ่ชาวพุทธจะพึ่งได้เลย นอกจากทำงานตามสั่งแล้ว ผอ.คนปัจจุบัน ยังกระตือรือร้นผิดลู่ผิดทาง เข้ามาแลัวก็เห็นมีแต่กระตือรือร้นจะสั่งพระรูปเดียว แต่เมื่อนึกถึงทึ่มาที่ไปของท่านแล้วก็เห็นใจ เพราะท่านมาตามใบสั่ง และไม่ใช่ใบสั่งเดียว มีหลายใบสั่งเหลือเกิน สั่งกันไปสั่งกันมาจนกระทั่งใบสั่งชนกันเอง น่าหัวเราะ



@ เห็นได้จากการที่ท่านเข้ามาปุ๊บก็รีบเร่งให้มหาเถรสมาคมใช้กฏนิคหกรรม ๒๑ เล่นงานลงโทษพระธัมมชโยคือประกาศให้สึกเลย เล่นเอาผู้สื่อข่าวต่างงงกันเป็นทิวแถว เพราะในกฏ ฯ ๒๑ มีแต่ลงโทษ แต่ไม่ระบุความผิด ซึ่งเขาอยากรู้กันว่าผิดเรื่องอะไรบ้าง ? และร้ายแรงระดับไหน ? ในที่สุดเจ้าคณะพระสังฆาธิการระดับจังหวัดท่านต้องออกมาชี้แจงว่าทำไม่ได้
@ พอไม่ได้เรื่องนั้น ตาลีตาลานมาทำเรื่องใหม่ ออกหนังสือสั่งให้เจ้าคณะพระสังฆาธิการระดับต่างๆรวมเป็นคณะกรรมการบริหารวัดพระธรรมกาย ซึ่งตามขั้นตอนมันยังทำไม่ได้ เพราะวัดเขามีเจ้าอาวาสมีรองเจ้าอาวาส แต่จะให้ทำให้ได้ นัยว่าเรื่องนี้ได้รับคำแนะนำจาก"พระเจ้าปัญญา" วัดอ้อน้อย ซึ่งตอนนี้ปัญญาแตกฉานทั้งด้านพระธรรมวินัยด้านกฏหมายและศาสตร์อื่นๆจนคุมไม่อยู่ ต้องออกมาตระเวนถ่ายเทปัญญาให้หน่วยงานต่างๆรับปฏิบัติ เช่น ศาล ดีเอสไอ ตำรวจและกองทัพ ขนาดเรียกได้ว่า หน่วยราชการของรัฐต้องหงอให้ ไม่เว้นแม้กระทั้งสำนักพุทธฯที่รักของผมก็ต้องหงอให้ ไม่หงอได้ไง ถึงขนาดโทรสั่ง ผอ.สำนักพุทธฯให้ทำโน่นทำนี่ได้ แถมโพสต์ให้ดูซะเลย จะได้รู้กันไปเลยว่า ฉันคือใครในยามนี้ ? 
บทบาทนี้ขนาดกรรมการมหาเถรรูปใดรูปหนึ่งยังไม่กล้าใช้ ทั้งที่มีอำนาจทำได้เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาตามกฏหมาย แล้วใครล่ะจะแน่กว่ากัน ? ถามหน่อย


 ความจริงสำนักพุทธฯมีเรื่องต้องทำเพื่อดูแลพระพุทธศาสนาเยอะมาก ถ้านึกไม่ออกก็น่าจะไปสำนักงานกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ถือดอกไม้ไปด้วยไป"กราบ" เขาแล้วให้เขาสอนดูซิว่าเขาใช้ "รัฐบาล ๒ ป." คือ ประยุทธ+ประวิตร ทำอะไรให้เขาบ้าง ? มัสยิดถึงขึ้นเป็นดอกเห็ด ถามเขาดูซิว่า รัฐบาล "ประยุทธ+ประวิตร" เปิดทางยังไง ถึงให้พระราชบัญญัติอิสลามไหลออกมาเป็นเทน้ำเทท่า และลองให้เขาติวให้ดูซิว่า ทำไมอิสลามทำอะไรถึงง่ายไปหมด ? แต่พุทธขยัยอะไรไม่ได้เลย ติดกึกกัก ขนาดพระอยู่ป่ายังอยู่ไม่ได้ พุทธสถานถูกทุบทิ้ง แต่มัสยิดสร้างในวนอุทยานแห่งชาติได้ ถามเขาซีว่า เขาทำยังไง ?
@ ถ้านึกด้วยตัวเองไม่ออกก็ลองเสนอเรื่องไปกราบเรียนพระมหาเถระทั้งหลายในมหาเถรสมาคมช่วยพิจารณา เพราะนี่คือความรับผิดชอบของมหาเถรสมาคม ซึ่งผมอยากเปลี่ยนเป็น"มหาเถรสภา" อยู่ครามครัน
@ หลังรัฐธรรมมนูญประกาศใช้ แม้ผมจะยังไม่พอใจในเนื้อหานัก แต่ก็ต้องเคารพกติกา ส่วนที่ดีก็มีอยู่ คือจะปลุกคณะสงฆ์ให้ตื่นรับรู้ภัยง่ายขึ้น เพราะรัฐธรรมมนูญฉบับนี้เปิดทางให้ชาวบ้านเข้าถึงเรื่องของพระง่ายขึ้น โดยเฉพาะทรัพย์สินของวัด ซึ่งได้ทราบว่าตอนนี้ สองพยัคฆ์ คือ ไพบูลย์ นิติตะวัน กับ มโน หรืออดีตเมตตานันโท "ศิษย์รัก" ของวัดพระธรรมกายกำลังสบัดหัวใสแยกเขี้ยวยิงฟันใส่ เชื่อว่าวัดแต่ละวัดที่มั่งคั่งกำลังร้อนๆหนาวๆกันอยู่
@ ผมเชื่อว่า ตอนนี้พระกำลังตกใจตื่น และตื่นจริงๆ เพราะภัยมาถึงตัว เมื่อก่อนปลุกยากมาก แม้จะบอกว่า"ท่านครับ พระพุทธศาสนามีภัย" ท่านก็ไม่ขยับ ดีไม่ดีด่าพวกผมอีก หาว่าสร้างเรื่องอยากเป็นนักการเมืองชาวพุทธจึงเอาภัยศาสนามาบังหน้า 
เดชะบุญพวกผมทำใจได้ว่าที่ยอมเสี่ยงทำกันนั้นไม่ได้ทำเพื่อพระสงฆ์รูปใดรูปใดรูปหนึ่งหรือเพื่อพระกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ในภาพรวมทำเพื่อพระพุทธศาสนาเพื่อพระพุทธเจ้า และดีที่ยังมีพระสังฆาธิการระดับล่างๆจากมหาเถรสมาคมตอบรับบ้าง (แต่มหาเถรสมาคมของเราเงียบกริบรักษาภาพลักษณ์ของสมณะผู้สงบไว้ดียิ่ง) จึงไม่ท้อแท้ แต่ตอนนี้ผมไม่ต้องปลุกแล้ว ไพบูลย์กับคุณหมอมโนสองเกลอสมองใสช่วยปลุกให้ ขอบคุณนะ


@ เชื่อผมเถอะสำนักพุทธฯก็หมดท่าช่วยพระอีกเช่นเคย ดีไม่ดีกุลีกุจอเปิดทางให้การตรวจสอบไปง่ายขึ้นโดยอ้างว่าต้องปฏิบัติตามกฏหมาย คณะสงฆ์เองกำลังภูมิใจกับกฏหมายที่คนมีกิเลสร่างให้มากกว่าพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ให้ ความจริงพระพุทธเจ้าให้พระธรรมวินัยไว้เพื่อคุ้มครองคณะสงฆ์ แต่คณะสงฆ์ไม่สนใจเอง (กลับไปใช้"สิ่ง" ที่"ให้"ได้ก็"เรียกคืน" ได้เป็นหลักในการบริหารหมู่คณะ) ในที่สุดก็หมดความสง่างามในการปกป้องตนเองปกป้องสถาบันพระพุทธศาสนา พึ่งตัวเองไม่ได้ จึงไม่มีที่พึ่งแท้จริง ได้แต่เก็บอาการประคองตัวให้รอด
จะทำอย่างไรได้เล่า? ในเมื่อลดตัวลงไปเล่นตามกติกาที่คนภูมิธรรมต่ำกว่าร่างให้ก็ย่อมถูกคนที่ต่ำกว่าใช้บีฑาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ...เปิดทางให้เขาเอง
@ แต่ถึงยังไงผมก็ยังรักคณะสงฆ์ เพราะเป็นบุคลากรในศาสนาของเรา จึงอยากแนะนำท่านให้หาทาง"สู้" บ้าง ไม่ใช่เอาแต่ตั้งรับแบบ"นั่งปลง" รอวันถูกเชือด
ลองคิดดูเถิดครับว่า ไม่เคยมีนักอะไรต่อมิอะไรตรวจสอบการใช้งบของทหารได้เลย โดยเฉพาะ"งบลับ" ถ้าใครเสียงแข็งอวดดีจะเอาให้ได้ ไม่ช้าเดียวก็เงียบเสียง เพราะอะไร ? ทหารเขาทำได้ยังไง ? ลองบิณฑบาตถามทหารดู (เพราะที่เห็นมีทหารล้อมหน้าล้อมหลังก็หลายรูปอยู่) หรือไม่ก็กระซิบสั่งให้ ผอ.สำนักพุทธฯซึ่งก็มาจากตำรวจสายเดียวกับทหารไปถามทหารดูที บทบาทของท่านจะได้เข้าตาชาวพุทธว่าทำเพื่อพระพุทธศาสนาบ้าง
@ ทำเถอะครับ พระคุณเจ้า ทำเถอะครับ ผอ.สำนักพุทธ ฯ ช่วยพระพุทธศาสนาบ้าง พระพุทธศาสนาจะได้ช่วยท่าน ไม่งั้นถูกไล่ไม่รู้ด้วยนะ

ไม่มีความคิดเห็น