ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

ตราบเท่าที่ศาลยังไม่ตัดสิน พระยังคงบริสุทธิ์ มีสิทธิ์โดยชอบธรรมตามกฎหมาย การจับพระสึกเป็นการ "ฆ่าความเป็นพระ" สมควรหรือ?? ฝากให้คิด....

ตราบเท่าที่ศาลยังไม่ตัดสิน พระยังคงบริสุทธิ์ มีสิทธิ์โดยชอบธรรมตามกฎหมาย
การจับพระสึกเป็นการ "ฆ่าความเป็นพระ" สมควรหรือ?? ฝากให้คิด....

ฝากให้คิด..
ควรศึกษาให้ดีด้วย คนที่จะตัดสินว่าพระรูปไหนสมควรหรือไม่สมควรเป็นพระต่อไป ใช่คุณไหม หรือทนายผู้พิพากษา หรือผู้มีอำนาจบ้านเมืองคนไหน รึเปล่า มันควรต้องพระด้วยกันเท่านั้นไม่ใช่เหรอ

สมควรไหม ถ้าคนเรายังเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย ในคนธรรมดายังบอกว่าตราบเท่าที่ศาลยังไม่ตัดสิน ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ยังมีสิทธิ์โดยชอบธรรม ตามกฎหมาย

และเหตุใดความเป็นพระ จึงไม่ได้รับการปกป้องให้เป็นพระอยู่จนกว่าจะได้รับการพิพากษาตัดสินว่าทำผิดจริง ค่อยสึกล่ะ

ในเมื่อ เจ้าของบริษัท หรือเป็นนายทหารมียศใหญ่ ที่อยู่ๆ หากมีคนมาฟ้องหาว่าทำผิดทางอาญา แล้วคนๆ นั้นจะต้องไปรายงานตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา

เจ้าของบริษัทคนนั้นในฐานะกรรมการผู้จัดการ หรือเจ้าของหรือหุ้นส่วนใหญ่ หรือในฐานะนายพลนายพัน แม้หากเป็นนายกฯ หรือ รมต.

ถ้าไม่ได้รับการประกันตัว แล้วต้องถูกคุมขัง เขาจะต้องถูกปลดออกจากตำแหน่งเจ้าของบริษัทเลยไหม ต้องถูกถอดยศเลยไหม

รมต. นายกฯ ต้องถูกให้ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีทันทีเลยไหมถ้าไม่ได้ให้รับการประกันตัว แม้ยังไม่ได้ขึ้นศาลพิสูจน์ว่าผิดจริงเลย

หรือถ้าคุณเป็นหมอ จะหมอด้านอะไรก็ตาม เป็นครู เป็นด๊อกเตอร์ เป็นเจ้าของบ้าน เป็นคุณพ่อของบ้าน มีลูกมีเมีย แล้วพอคุณโดนคดีอาญา คนเขาใส่ร้ายฟ้องหาว่าคุณทำผิดทางอาญา เวลาคุณไปรายงานตัว ถ้าเขาไม่ให้ประกันตัว ต้องฝากขังรอการไต่สวน..

เขาจะจับคุณปลดจากตำแหน่งนายแพทย์/นายสัตวแพทย์/ทันตแพทย์/หมอ /ดร./ศาสตราจารย์ /ครู/อาจารย์ / คุณพ่อ ในบ้านไหม ห้ามเป็นพ่อ ห้ามเป็นสามีของภรรยาต้องขาดจากตำแหน่งที่เป็นอยู่

ขอบคุณภาพ ทีวีพูล

ถ้าคุณว่าแบบนั้นมันไม่ยุติธรรม ไม่เกี่ยวกัน ความเป็นพระ ก็เหมือนกัน โดยเฉพาะพระที่มีตำแหน่งราชาคณะชั้นต่างๆ ต้องทำคุณูปการต่อประเทศชาติมากขนาดไหน ในระดับที่พระมหากษัตริย์ทรงมอบสมณศักดิ์ พัดยศให้ได้..

และคนที่ปฏิบัติหน้าที่พิพากษาพิจารณาคดีก็เหมือนกัน ต้องคิดให้ดี ไม่ว่าจะแค่ข้อกล่าวหา หรือต้องสงสัย ก็ไม่สามารถมาปลดมาถอดถอนตำแหน่งพระ ที่ได้รับความคุ้มครองด้วยพระธรรมวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้

และสมควรจะมีแต่การทำผิดพระธรรมวินัยเท่านั้นที่จะมาประหารความเป็นพระได้ ผู้เป็นผู้พิพากษา ควรหรือที่จะมองข้ามจุดนี้ไป หรือไม่พิจารณาในเรื่องนี้ จึงไม่ให้พระได้รับการประกันตัว ที่จะเป็นการรักษาสิทธิ์ความเป็นพระตามพระธรรมวินัยนั้นไว้ก่อน

จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ยังต้องพิจารณาว่าผิดพระธรรมวินัยในระดับที่จะต้องขาดจากความเป็นพระด้วยหรือเปล่าอีกต่างหาก ก็ในเมื่อความเป็นแพทย์ยังไม่อาจถูกคดีความถอดถอนได้ เว้นแต่เป็นคดีทำผิดจรรยาบรรณแพทย์

ยิ่งถ้าพระนั้น เป็นถึงพระราชคณะชั้นสูงระดับชั้นราช ชั้นเทพ ชั้นธรรม ชั้นพรหม และสูงกว่านั้น ทั้งหมด ที่พระราชาถวายให้ด้วยความโปรดปรานในคุณูปการที่มีต่อพระพุทธศาสนา ต่อสถาบันชาติ และต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

ซึ่งก็ไม่ต่างกับการได้รับมอบยศทหารตำรวจนายกฯ รมต.ใดๆ กับ ผู้มีคุณูปการอย่างนี้ ควรหรือ ที่จะเพียงแค่ข้อกล่าวหาของใครก็ได้ ถึงกับห้ามประกันตัว ให้จับถอดยศถอดตำแหน่งกันได้เลย ถอดจากความเป็นพระกันได้ง่ายๆ

ถ้าหากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือตำแหน่งรัฐมนตรี หรือ นายพลนายพันใดๆ จนถึงนายแพทย์ทันตแพทย์หรือสัตวแพทย์ศาสดาจารย์ดอกเตอร์ใดๆ ไม่ต้องถูกถอดถอนจากตำแหน่ง แม้จะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร้าย จนถึงแม้ศาลตัดสินว่าผิดจริง

เห็นตำแหน่งก็ยังติดตัวจนตาย แม้เป็นนักโทษประหาร หรืออาชญากรแผ่นดิน แบบนั้น ทำไมยังไม่แตะต้องได้ แล้วความเป็นพระ คือชีวิตที่เสียสละและทุ่มเททำความดีขัดเกลากิเลสในตัว ไม่ได้เบียดเบียนใครแท้ๆ

ในเมื่อการถอดถอนตำแหน่งใครก็ตาม จัดเป็นการละเมิดสิทธิ์ ถ้าใครทำ ทางกฏแห่งกรรมยังไม่นับว่าได้บาป แต่การจับพระสึก เป็นการ "ฆ่าความเป็นพระ" ทำได้เฉพาะผิดตามพระธรรมวินัยเท่านั้น

แต่เป็นการละเมิดสิทธิ์ของพระ เมื่อพระยังไม่ได้ทำผิดพระธรรมวินัยใดๆ ผู้ถอดถอน หรือจับพระสึก มีแต่ได้บาป และยิ่งพระนั้นฝึกตนมีความบริสุทธิ์ภายในใจมากเท่าไหร่ บาปนั้นย่อมตกหนักแก่ผู้ทำให้สิ้นความเป็นพระระดับขุมนรกอเวจี...

และบาปก็ตกแก่ผู้ประโคมข่าวไปมากๆ ที่ไปทำลายความศรัทธาของผู้คนต่อพระรูปนั้น ทำลายศรัทธามากเท่าไหร่บาปหนักมากเท่านั้น ที่อาจพาไปตกมหานรกขุมโลกันต์เลยทีเดียว แค่เข้าใจผิดตามๆ กันหรือพลอยยินดี

คิดกันให้ดีๆ ทำกันให้ดี ทำกันให้เหมาะสม ทำกันในสิ่งที่ถูกที่ควรเท่านั้นเถอะ อย่าให้ความไม่รู้หรืออคติใดๆ มาบดบังดวงปัญญา จนมองไม่ออก แยกไม่ได้

มองไม่เห็นว่าความเป็นพระกับ ความเป็นหมอต่างๆ ครูอาจารย์ ยศถาบรรดาศักดิ์ในแบบทหาร ไม่ต่างกัน ถ้าถอดความเป็นพระออกจากตัวพระในขั้นตอนแค่ถูกกล่าวหาทางคดีอาญาได้ ก็ต้องถอดตำแหน่งใดๆในโลกนี้

ทั้งหมดออกจากทุกคนด้วยสิ จึงจะยุติธรรม แต่ถ้าทำไม่ได้ เพราะรู้สึกว่าไม่สมควรทำ รู้สึกไม่เกี่ยวกัน ไม่ยุติธรรม ฯลฯ ก็ควรจะมองความเป็นพระด้วยว่า ยิ่งไม่สมควรทำให้พระต้องสึกขาดจากความเป็นพระเพียงเพราะมีคนกล่าวหา เช่นกัน

Cr : Symphony D-Yoh!

8 ความคิดเห็น

  1. ขอถวายกำลังใจท่านเจ้าคุณทุกรูปเจ้าค่ะ ท่านโดนกล่าวหา ว่าร้าย ท่านยังไม่ได้มีโอกาสชี้แจงสิ่งใด ถือว่าท่านยังบริสุทธิ์อยู่ ตราบใดที่ศาลท่านยังไม่ตัดสิน การจาบจ้วงล่วงเกินพระผู้ใหญ่ เป็นวจีกรรม เป็นบาปมากค่ะ

    ตอบลบ
  2. ช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาด้วยการประพฤติปฏิบัติธรรม ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เคารพในพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ ไม่หูเบาเชื่อคนพาล ที่มาทำร้ายพระพุทธศาสนา

    ตอบลบ
  3. อยากให้เกิดความถูกต้องยุติธรรม ศาลผู้สถิตความยุติธรรม
    ขอให้รักษาความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพเชื่อถือของประชาชน...สมกับชื่อ ที่ได้รับคือผู้รักษาความยุติธรรม

    ตอบลบ
  4. กรุณาแก้กฎหมายเพือความเป็นธรรมกับพระและพระพุทธศาสนาดว้ยเถิด ความปรองดองจะได้เกิดขึ้นจริงๆเสียที

    ตอบลบ
  5. เป็นแค่ข้อกล่าวหาพระเท่านั้น ยังไม่มีการฟ้องร้องต่อศาลเพื่อพิสูจน์หลักฐานที่กล่าวหา แต่กลับยกกำลังตำรวจไปวัดมากมายเพื่อควบคุมตัวพระ ซึ่งเป็นมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ไปสึกจากความเป็นพระ? พร้อมกับประโคมข่าวแทบทุกสื่อ มีเจตนาใดแอบแฝงอย่างไรหรือไม่ครับ?
    "กฏแห่งกรรม ไม่เคยลืมผู้กระทำ"

    ตอบลบ
  6. เรา ไม่ต้องการให้ฆราวาสมีอำนาจ​เหนือพระมหาเถระ
    พวกอนาคต เปรตอสุรกาย ขอมืงจงหมดอำนาจเร็ววัน

    ตอบลบ
  7. จิตสำนึก เป็นสิ่งที่ช่วยในการตัดสินใจก่อนกระทำการสิ่งใดๆ การเป็นพระย่อมมีจิตสำนึกสูงกว่าบุคคลธรรมดา เพราะมีธรรมะสูงกว่า ดังนั้น ใครผู้ใดย่อมรู้แก่ใจตนเอง

    ตอบลบ