ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

เรื่องเงินทอนวัด ปปป.-พศ. จ่อสอบทุจริตเงินทอนวัด เฟต3 อีก 100 วัด จะเกิดอะไรขึ้น พระจะถูกจับสึกอีกไหม ?


เรื่องเงินทอนวัด ปปป.-พศ. จ่อสอบทุจริตเงินทอนวัด เฟต3 อีก 100 วัด
จะเกิดอะไรขึ้น พระจะถูกจับสึกอีกไหม ?


#เรื่องเงินทอนวัด เจ้าอาวาสวัดที่กำลังจะถูกตรวจสอบในล๊อตต่อๆ ไปอีกเป็นร้อยวัด จะเกิดอะไรขึ้น พระจะถูกจับสึกอีกไหม ? ผมคิดว่าพระสังฆาธิการทั่วไปท่านเข้าใจ กันมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นกรมการศาสนา ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นสำนักพุทธฯ เมื่อถึงฤดูกาล จัดสรรเงินอุดหนุนถวายวัดต่างๆทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่รัฐจะเป็นผู้มาดำเนินการทั้งหมด เพียงแจ้งเรื่องมาให้วัดต่างๆ ทำเรื่องขอ แล้วแต่จะสร้างอะไร จะขอจำนวนเท่าไร (และรู้กันทั่วไปว่า ยังไงก็ไม่ได้ตามจำนวนเงินที่ขอไปนั้น แล้วแต่ทางรัฐจะพิจารณาให้ เพราะวัดมีนวนมาก เงินไม่พอแบ่งกัน ถึงได้ก็ไม่กี่หมื่นบาท)



ผมจะขอเล่าเมื่อครั้งผมยังบวชอยู่ที่โคราช ครั้งหนึ่งมีเจ้าหน้าที่จากกรมมาติดต่อหลวงพ่อเจ้าอาวาส ว่าจะจัดเงินอุดหนุนการศึกษา พระปริยัติธรรมมาให้จำนวนเท่านี้ แต่ทางวัดจะต้องคืนกลับให้กรมเท่านี้ เพราะยังต้องเอาไปแบ่งถวายวัดอื่นๆ ซึ่งเขาไม่ได้ทำเรื่องของบเหมือนสำนักวัดใหญ่ๆ แต่หลวงพ่อท่านตอบว่า... ยังงั้นอาตมาไม่ขอรับเงินนี้ ไม่พอใช้หรอกแค่นี้ เอาไปจัดให้แก่วัดเล็กๆ ที่เขายังลำบากอยู่กว่าเถอะ หลวงพ่อยังพอหาเองได้ (รู้สึกดีใจย้อนหลังที่หลวงพ่อท่านไม่แปดเปื้อนเรื่องนี้แม้ท่านจะมรณภาพไปแล้ว)

นี่คือเรื่องจริงที่ผมได้รู้เห็นมา และวัดต่างๆ ที่เคยได้รับเงินอุดหนุน ผมก็คิดว่าท่านเหล่านั้น ก็เข้าใจตรงกันเช่นนี้ ที่ท่านต้องทอนคืนให้นั้น เพราะ จนท.รัฐบอกว่าจะเอาไปเฉลี่ยแบ่งวัดอื่นๆ ที่เดือดร้อนอีกด้วย และทั่วประเทศมีวัดมากกว่าสามหมื่นวัด ในจังหวัดหนึ่งก็จะได้ไม่กี่วัด และจะได้ เพราะวัดที่ส่งเรื่องขอเงินอุดหนุนไปโดยมี จนท. ของรัฐแนะนำตามระเบียบการขอ ความจริงเจ้าอาวาสทุกวัดท่านไม่รู้หรอกว่า เงินทอนวัดนั้น คือการทุจริตของเจ้าหน้าที่ ท่านจึงไม่ได้สมรู้ร่วมคิดใดๆ และไม่เคยคิดสงสัย เลยแม้แต่นิด ด้วยจิตที่เมตตาเห็นใจว่าเพื่อจะนำไปแบ่งให้วัดอื่นๆ ด้วย ตามที่เจ้าหน้าที่รัฐมาบอกเล่า ท่านจึงยอมคืนให้ตามนั้น

และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำเงินมาถวายหรือโอนให้เท่าไรพระก็รับเท่านั้น ไม่ได้จู้จี้ขอ เขาบอกขอคืนท่านก็คืนให้ ตามวิสัยของพระ เพราะเชื่อใจไว้วางใจ เจ้าหน้าที่รัฐที่คอยทำหน้าที่สนับสนุนพระ ย่อมไม่โกหกพระ ขอเพียงแค่ได้เงินมาสมทบก่อสร้างบ้าง ท่านก็อนุโมทนาสาธุการกับเจ้าหน้าที่รัฐเป็นอย่างมากแล้ว ไม่ได้คิดเอ๊ะใจว่า มันจะกลับกลายมาเป็นโทษภัยแก่ตนเองในภายหลังเช่นนี้ และอย่าลืมว่าการที่วัดจะสร้างอาคารแต่ละหลัง หรือการจัดการ ศึกษาสงฆ์นั้นมันยากลำบากยิ่ง ไม่ได้เสร็จปุ๊บปั๊บ ทันตาภายในปีเดียวเหมือนโครงการของรัฐ แต่ละวัดกว่าที่จะสร้างอะไรสำเร็จได้ต้องอาศัยเงินศรัทธาบริจาคเป็นหลัก ส่วนเงินที่เจ้าหน้าที่รัฐ นำมาถวายนั้นเป็นส่วนแค่สมทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น (กรณีวัดทั่วไป) เมื่อได้เงินมาวัดเอาไปสร้างอะไรใช้อะไรบ้าง ทุกวัดที่ได้รับเงินก็จะต้องรายงานส่งให้เจ้าหน้าที่รัฐ (พศ.) ทราบภายหลังจากการใช้เงินอีกโดยมีภาพถ่ายประกอบส่งไปด้วย จึงขอเล่าเป็นอุทาหรณ์ และขอให้ทุกท่านมั่นคง
ศรัทธาได้ช่วยกันดูแลอุปถัมภ์บำรุงวัดทุกวัดในพระพุทธศาสนาสืบต่อไปครับ🙏

Cr : พระอิสระภาพ อาจารสมฺปนฺโน

ไม่มีความคิดเห็น