ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

ฟังความลับ-ความจริง จากมิติซ้อนมิติ : เมืองถ้ำ ขุนน้ำนางนอน พระครูบาบุญชุ่ม ญาณวํสโร ย้ำว่า กรรมในอดีตมีจริง?

กรรมในอดีตมีจริง ฟังความลับ-ความจริง จากมิติซ้อนมิติ : เมืองถ้ำ ขุนน้ำนางนอน
พระครูบาบุญชุ่ม ญาณวํสโร ย้ำว่า กรรมในอดีตมีจริง?
............................................



พระครูบาบุญชุ่ม ญาณวํสโร เมตตาเล่าถึงเรื่องราวต่างๆและเหตุผลที่ท่านต้องเดินทางไปประกอบพิธีกรรมถอนขึดและแผ่เมตตาที่บริเวณหน้าถ้ำและในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนถึงสามครั้งสามคราให้บรรดาสานุศิษย์ใกล้ชิดที่เข้ากราบนมัสการที่บริษัท โอ เค เฮิร์บ เมื่อค่ำวันที่ 8 กรกฏาคมที่ผ่านมาว่า ก่อนจะเดินทางไปแสดงธรรมที่ประเทศสิงคโปร์คในวันอังคารนี้
“ทุกคนได้ช่วยกันช่วยชีวิต ให้รอดพ้นปลอดภัย ตั้งแต่วันสองวันที่พวกเขาไปติดถ้ำ แต่วันที่เท่าไรจำไม่ได้แล้ว(23 มิถุยายน2561) เราก็ไปตั้งสามครั้ง ไปขออ้อนวอน อาจจะเป็นไปได้ว่า มีมิติวิญญาณ เมืองลับแล เมืองถ้ำ เมืองบังบด เราก็ไม่อาจจะรู้ได้ เพราะว่าเราก็ต้องเอาธรรมะไปช่วย ก็ช่วยกันทุกวัดทุกวา อย่ามาโกรธครูบาบุญชุ่มคนเดียว (ท่านคงหมายถึงผู้ที่ออกมาโจมตีทางโลกโซเชียลมีเดียส์/เอก อัคคี) เออ....ดังอย่าไปเด่น ถูกเขาเขม่นทั้งเมือง
เรานี่ไม่ใช่อยู่มาเพื่อดัง เราอยู่มาเพื่อดับ ทุกวันนี้เราต้องดับกิเลสในใจของเรา ดับความโลภ ดับความโกรธ ดับความหลง ใครอยากจะดังก็ดังไปเราเกิดมาเพื่อดับ ดับความทุกข์ให้สัตว์โลก จำไว้นะดับความทุกข์ความโศก วันหนึ่งเราก็ต้องดับชีวิตลง เมื่อเรายังไม่ดับชีวิตนี้ เราต้องใช้ชีวิตให้มีค่าที่สุด
วันเวลาจะมีค่าต้องรู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ ห้านาทีสิบนาทีที่ผ่าน ไม่ผ่านไปเปล่าๆ มันใกล้ความตาย ความเจ็บ ความไข้ของเรานั้น เราไม่ได้สัญญาเอาไว้ว่า เราจะตายวันไหน เราจะป่วยวันไหน เหตุอาเพศบ้านเมืองจะเกิดอย่างไร วันไหน ใครสามารถจะพยากรณ์ได้บ้าง เหมือนกับพยากรณ์ฟ้าฝน ลม ทิศทางจะมาทางไหนนี่พยากรณ์ได้

แต่พยากรณ์บ้านเมืองนี้นอกจากผู้มีญานทิพย์ พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ พระผู้มีเมตตาเท่านั้น เหตุทุกอย่างที่เกิดในโลกปัจจุบัน ไม่ใช่ประเทศไทยอย่างเดียว หลับตาไปลึกๆทุกคน...ไม่ใช่ธรรมดา(ท่านหลับตานิ่ง) ไม่ใช่ธรรมดานะโลก ยิ่งคิดมากยิ่งปวดหัว ยิ่งเป็นบ้ากับโลก อย่าไปคิดมาก ถ้าคิดมากจะร้อนใจ นอนไม่หลับทั้งวันทั้งคืน ทุกข์กับโลก ทุกกับความคิดนะมนุษย์ทุกวันนี้
เราอย่าไปทุกข์ โลกก็เป็นโลก มันต้องเกิดตัองดับอยู่แล้ว แต่เราอยู่ในโลก เราจะแก้ปัญหาอย่างไรในปัจจุบัน ต้องรู้ แก้ปัญหาให้ถูก ถามตัวเองให้ถูกว่า เราเกิดมาทำไม เกิดมาเป็นมนุษย์เพื่ออะไร เราทำสิ่งใดให้เป็นประโยชน์แก่ชาวโลกบ้าง ถามตัวเอง
...............................................


จากนั้นท่านก็เล่าถึงเรื่องราวต่างๆอีกมากมายก่อนจะวกกลับมาที่ที่มาที่ไปของเหตุผลในการเดินทางไปยังถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนว่า.....
“.....ฉันก็กลับไปๆมาๆประเทศพม่า ประเทศภูฏาน ไปถึงเมืองจีนสิบสองปันนา ที่เป็นต้นตระกูลของพระแม่นางนอน อยู่สิบสองปันนาโน่น ประเทศจีน เมืองยูนาน ที่ว่าตามตำนานมาตายที่แม่สาย จะเท็จจริงแค่ไหนเราไม่รู้
เพราะตำนานมันผ่านมานานแล้ว แต่เป็นที่น่าแปลกว่า ก่อนที่จะมาฉันก็อธิษฐาน ไม่ใช่ว่าอยู่เฉยๆฉันจะมา ไม่ใช่ มาเข้านิมิต ฉันนอนไม่หลับ3คืน ต้องนั่งสมาธิ ปวดหัวข้างเดียวตั้ง3วัน ฉันไปเข้ากรรมฐานอยู่ที่เจดีย์เก่าอายุพันกว่าปี ฉันก็เข้านิมิต เห็นเหมือนฉันเข้าไปในโพรงถ้ำใหญ่ๆ
แต่...เห็นอะไรที่มันแปลกๆที่เราไม่รู้เคยเห็น ไม่อยากคุยให้ฟัง มันมีของแปลกๆอยู่ในนั้น ไม่ได้กลับไปช่วยอะไรสักอย่างในนิมิตนั้น
พอออกจากกรรมฐานแล้ว ฉันก็มีธุระ ยังไม่ทราบเลยว่า เด็กติดอยู่ในถ้ำ ไปธุระยกยอดฉัตรเจดีย์ วันที่27มิถุนายน 2561 แต่เด็กๆไปติดถ้ำตั้งแต่วันที่23 แล้ว เรายังไม่ทราบเลย
แต่ทราบในนิมิตว่า ต้องเกิดอะไรสักอย่าง ฉันไปยกยอดฉัตรเจดีย์ที่พระธาตุดอยยอน เป็นเกศาพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ชื่อพระธาตุดอยยอนคำ วันที่28 ก็ข้ามไปประเทศลาวไปสร้างเจดีย์ ไปหยาดน้ำให้ชาวลาว ที่เมืองชิง เมืองลอง ชื่อเมืองชิงกก ตรงสะพานพม่าที่เขาสร้างตรงชายแดนจีน
ไปที่โน่นก็พักลาวคืนหนึ่ง พอทราบข่าวเดือดร้อน มานับดู ฉันก็โอ้...มีลูกหลานเราที่เป็นชาวไทลื้อ ไทยอง ไทใหญ่ มีอยู่7 คน ที่มาเกิดอยู่แม่สาย มาติดถ้ำ เราก็ไม่อยากมา แต่ในกรรมฐานนิมิต เขาขอร้อง ไปขอร้องให้ผู้หญิงคนหนึ่งฝันขอให้ครูบาบุญชุ่มมาโปรดเน้อ แต่จะนิมนต์ไม่นิมนต์ฉันก็ต้องมา เพราะเป็นบ้านเกิดของฉัน แม่สายนี่ ต้องรีบไป ที่ประเทศลาวตื่นเช้ามาก็ให้ศีลให้พรชาวบ้าน
ฉันก็เดินทางต่อเข้าประเทศพม่า มาถึงฝั่งไทยตอนค่ำ ไปโปรดเมตตาให้เขา ไปเข้านิมิตไปต่อรองขอพรหยาดน้ำกลางคืน แปดโมงเก้าโมงกลางคืน(20-21 นาฬิกา) โปรดเมตตาให้เขา ขอพรเจ้าที่เจ้าทางให้ปลดปล่อย โดยปลอดภัย ฉันก็อธิษฐานจิตในนิมิตว่า เออ เด็กอาจจะมีชีวิตอยู่
ไม่ใช่ว่าเรารู้เราเห็นว่ามีหูทิพย์ตาทิพย์ เด็กอาจจะมีชีวิตอยู่ แต่คงเหนื่อยมาก ไม่ได้กินข้าวหลายวัน คงผอมมาก อยู่ในถ้ำนี่แหละ แต่เด็กปลอดภัยไม่ได้อยู่ในน้ำ ก็ญาติพ่อน้องเขาก็เป็นญาติของครูบานี่แหละ เป็นคนไทลื้อ ไทยอง เหมือนกัน เขาก็ดีใจ
เขาถามว่าจะอีกกี่วัน เราก็ไม่รู้ เออ อาจวันสองวันจะพบจะออกมาล่ะ เออ ก็ว่าแค่นี้ แต่คนมาบอกว่าวาจาศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ เราพูดแบบธรรมดานี่แหละ เออ เหตุการณ์ก็เป็นไปตามนั้น เขาก็ไปเจอ ฉันก็ไปนั่งภาวนาอยู่ในกลางสระน้ำที่เวียงแก้ว วันสองวันผู้ว่าก็ประกาศว่าเจอเด็กแล้ว หน่วยซีลย์ ชาวอังกฤษไปเจอไปพบยังมีชีวิตอยู่ทุกคนปลอดภัย
ทุกคนดีใจฮือฮากันใหญ่ว่า
ครูบาบุญชุ่มวาจาศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่หรอกเป็นเหตุบังเอิญ
เป็นที่สอนคนประเทศไทยเราว่า บุญบาปมีจริง กรรมในอดีต มีจริง เด็กพวกนั้นอาจจะมีกรรมอะไรสักอย่าง หรืออาจจะมีกรรมกับถ้ำหลวงนางนอน อาจจะผูกพันกับครูบาบุญชุ่มก็ได้ หรืออาจจะคนทั้งประเทศ ต้องสื่อฮือฮามารู้จักกับครูบาบุญชุ่ม เออ ที่จริงๆฉันอยู่ไปๆมาๆอย่างนี้ เราก็ไม่อยากได้หน้า หน้าก็มีหน้าเดียว ขี้เกียจล้าง บางคนเอาหน้า บางคนเอาหนี้ บางคนจะเอาทั้งหนี้เอาทั้งหน้า หนี้กรรมนะ หนี้กรรมสำคัญที่สุด หนี้กรรม ไม่ใช้ไม่ได้ ไม่ใช้ก็ต้องไปใช้ในนรก ไปใช้ในอบาย

ฉะนั้นเราท่านทั้งหลายนึกดูเราก็ทำให้ดีที่สุด ให้กำลังใจ ผู้ว่า ข้าราชการทุกคน วันนี้(8 กรกฏาคม) แม่บ้านของพลตำรวจตรีมนตรี ยิ้มแย้ม บอกว่า คืนสองนี้(8-9 กรกฏาคม) เขาจะลำเลียงเด็กออกแล้ว เด็กก็หายใจแข็งแรง เราก็ชื่นใจหน่อย เออ ได้กลับไปหาญาติพี่น้อง เลยทำให้คนรู้จักถ้ำนางนอนไปทั่วโลก ก็เป็นไปตามเหตุหนึ่ง......”
............................................
และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากคำบอกเล่าของท่านที่ผมถอดเทปออกมาเท่านั้น ยังมีรายละเอียดอีกมาก เพราะท่านพูดละเอียดและครอบคลุมไปถึงเรื่องเหตุน่าสลดใจที่เกิดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ตและการจากไปของ จ.อ.สมาน กุนัน นักรบหน่วยซีลย์ผู้สละชีวิตในภารกิจกู้ชีพ 13 ชีวิต ที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนด้วย
ติดตามอ่านได้ในหนังสือเล่มใหม่ที่ผมกำลังเขียนอยู่...เร็วๆนี้
.......................................
เอก อัคคี
๐๙-๐๗-๖๑
ห้องหนังสือคนโง่
บ้านเสาธงหิน

ไม่มีความคิดเห็น