คำวินิจฉัยศาลปกครองสะเทือนถึงคดีวัดพระธรรมกาย (ตอนที่ 2) ที่มา http://www.manager.co.th คดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เริ...
คำวินิจฉัยศาลปกครองสะเทือนถึงคดีวัดพระธรรมกาย (ตอนที่ 2)
คดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เริ่มต้นที่การบริหารผิดพลาดโดยความประมาท และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายแม้แต่น้อย หากย้อนดูคำวินิจฉัยของศาลปกครองแล้ว จะพบว่าความเสียหายของสหกรณ์นั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากความผิดพลาดของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่ไม่ตักเตือนผู้บริหารสหกรณ์ซึ่งกระทำการโดยประมาท โดยปล่อยเงินกู้เกินวงเงินหมุนเวียน จนเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง
จากคำวินิจฉัยดังกล่าวของศาลปกครอง หากพินิจพิเคราะห์ให้ดี จะเห็นถึงนัยสำคัญ ในการใช้กฎหมายปกครองแบบมองภาพรวม เพื่อให้เกิดความถูกต้องชอบธรรมแก่ทุกฝ่าย ด้วยความระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย จนกลายเป็นความแตกตื่นตกใจของประชาชน จนนำไปสู่ความล่มสลายของสหกรณ์ 8,000 แห่ง และภาคการเกษตรทั้งหมดของประเทศไทย นัยสำคัญในทางการปกครองที่ซ่อนอยู่นั้น เริ่มตั้งแต่
1. ความเสียหายในคดีสหกรณ์นั้น เป็นการบริหารที่ผิดพลาดของผู้บริหาร ไม่ใช่การมีเจตนาฉ้อโกงสหกรณ์ แต่เป็นการปล่อยเงินกู้ด้วยความประมาท จนเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง
2. เมื่อเป็นการบริหารผิดพลาดโดยประมาท สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน จึงยังไม่อยู่ในสถานะล้มละลาย
ทำให้ยังมีความน่าเชื่อถือว่า ยังมีศักยภาพเพียงพอ จะฟื้นฟูระบบการบริหารขึ้นมาใหม่ได้ ทำให้ธุรกรรมการเงินต่างๆ ยังดำเนินต่อไปได้
ทำให้ยังมีความน่าเชื่อถือว่า ยังมีศักยภาพเพียงพอ จะฟื้นฟูระบบการบริหารขึ้นมาใหม่ได้ ทำให้ธุรกรรมการเงินต่างๆ ยังดำเนินต่อไปได้
3. เมื่อสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนยังไม่ล้มละลาย สมาชิกสหกรณ์ก็มีหวังจะได้เงินคืน การฟื้นฟูกิจการก็จะมีหวังว่าจะเป็นไปได้ เจ้าหนี้ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนก็ยังมีหวังจะได้เงินคืน
4. การวินิจฉัยของศาลปกครอง ย่อมต้องทำด้วยข้อมูลหลักฐานที่รอบคอบ เพราะหากวินิจฉัยโดยไม่มีมูลความจริง ก็จะส่งผลให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนต้องล้มละลาย ความเสียหายจะไม่เกิดแก่สมาชิกสหกรณ์เท่านั้น แต่จะส่งผลกระทบเทือนแบบโดมิโน่ไปยังสหกรณ์อื่นๆ ที่เป็นเจ้าหนี้พ่วงต่อกันมาเป็นทอดๆ อีกด้วย
5. ผลกระทบแบบโดมิโน่ต่อสหกรณ์ที่เป็นเจ้าหนี้นั้น อาจก่อให้เกิดปัญหาขาดสภาพคล่องต่อเนื่องกันไป
เป็นโดมิโน่ทั้งวงการสหกรณ์ที่มีอยู่ 8,000 แห่ง ซึ่งผูกพันกันด้วยสภาพเงินหมุนเวียน แบบเจ้าหนี้ลูกหนี้ในวงการสหกรณ์
เป็นโดมิโน่ทั้งวงการสหกรณ์ที่มีอยู่ 8,000 แห่ง ซึ่งผูกพันกันด้วยสภาพเงินหมุนเวียน แบบเจ้าหนี้ลูกหนี้ในวงการสหกรณ์
6.ผลกระทบแบบโดมิโน่ย่อมทำให้ สมาชิกสหกรณ์ทั้ง 8,000 แห่งเกิดความตกใจ ความตกใจนั้นเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ จากเดิมที่ควรจะเสียหายน้อยก็กลายเป็นเสียหายมาก และนั่นก็จะกลายเป็นจุดจบของวงการสหกรณ์แห่งประเทศไทย
7. ภาคการเกษตรของประเทศหล่อเลี้ยงด้วย ระบบเงินกู้ยืมของสหกรณ์ทั้ง 8,000 แห่ง เมื่อระบบสหกรณ์ล่มสลาย ภาคการเกษตรก็ล่มสลาย กลายเป็นความเสียหายใหญ่หลวง กับระบบการปกครองและความมั่นคงของประเทศ
ดังนั้น การวินิจฉัยของศาลปกครอง จึงมีน้ำหนักที่น่าเชื่อถือ เพราะเป็นการวินิจฉัยที่ประกอบด้วย
1. การตรวจสอบข้อมูลจริง
2. การมองภาพรวมการบริหารงานของระบบสหกรณ์
3. การมองภาพการทำงานร่วมกันของภาครัฐและประชาชน
4. การมองถึงความอยู่รอดของระบบสหกรณ์
5. การมองเห็นสภาพค้ำจุนกันระหว่าง
ระบบสหกรณ์กับภาคการเกษตรของประเทศไทย
6. มีความระมัดระวังในการใช้กฎหมาย เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุบานปลาย จนอาจกลายเป็นการล้มละลายแบบโดมิโน่ ทั้งระบบสหกรณ์และภาคการเกษตรไทย การที่หน่วยงานรัฐอื่นๆ จะมาท้วงติงการวินิจฉัย ของศาลปกครองที่ระมัดระวังการใช้กฎหมายปกครองนั้น จึงทำไม่ได้ เพราะเป็นการวินิจฉัยที่ไม่ขัดแย้ง กับปรัชญาการปกครองและเจตนารมณ์พื้นฐาน ของการใช้กฎหมายเพื่อประโยชน์แห่งการอยู่ร่วมกัน อย่างสงบสุขของประชาชนในสังคมไทย ผลพวงจากคำวินิจฉัยของศาลปกครองในครั้งนี้ก็คือ
2. การมองภาพรวมการบริหารงานของระบบสหกรณ์
3. การมองภาพการทำงานร่วมกันของภาครัฐและประชาชน
4. การมองถึงความอยู่รอดของระบบสหกรณ์
5. การมองเห็นสภาพค้ำจุนกันระหว่าง
ระบบสหกรณ์กับภาคการเกษตรของประเทศไทย
6. มีความระมัดระวังในการใช้กฎหมาย เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุบานปลาย จนอาจกลายเป็นการล้มละลายแบบโดมิโน่ ทั้งระบบสหกรณ์และภาคการเกษตรไทย การที่หน่วยงานรัฐอื่นๆ จะมาท้วงติงการวินิจฉัย ของศาลปกครองที่ระมัดระวังการใช้กฎหมายปกครองนั้น จึงทำไม่ได้ เพราะเป็นการวินิจฉัยที่ไม่ขัดแย้ง กับปรัชญาการปกครองและเจตนารมณ์พื้นฐาน ของการใช้กฎหมายเพื่อประโยชน์แห่งการอยู่ร่วมกัน อย่างสงบสุขของประชาชนในสังคมไทย ผลพวงจากคำวินิจฉัยของศาลปกครองในครั้งนี้ก็คือ
ทำให้เกิดความชัดเจนขึ้นมากมายในคดีวัดพระธรรมกาย
1. ความเสียหายของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนั้น ไม่ได้เกิดจากวัดพระธรรมกาย
2. ศิษย์วัดพระธรรมกายเป็นผู้ช่วยเหลือเพียงรายเดียว ที่ช่วยให้สหกรณ์ไม่ล้มละลาย ด้วยการมอบกองทุน เพื่อฟื้นฟูกิจการสหกรณ์เกือบ 1 พันล้านบาท
3. คดีนี้เป็นปัญหาการบริหารในสหกรณ์ ไม่ใช่คดีอาญาแผ่นดิน สหกรณ์ยังไม่ได้ล้มละลาย
แผ่นดินยังไม่เป็นผู้เสียหาย
แผ่นดินยังไม่เป็นผู้เสียหาย
4. วงเงินความเสียหาย 12,000 ล้าน ที่ดีเอสไอตั้งขึ้น ไม่ตรงกับวงเงินความเสียหาย 3,000 ล้าน ที่เป็นข้อมูลในศาลปกครอง ทำให้เกิดความสงสัยว่า มีการตั้งยอดมูลค่าความเสียหายเกินความจริงหรือไม่ ?
5. เมื่อหลวงพ่อวัดพระธรรมกาย ไม่ได้เป็นผู้ทำให้สหกรณ์เสียหาย องค์ประกอบคดีจึงไม่ครบ การตั้งข้อหาฟอกเงินและรับของโจร จึงไม่มีมูลฐานความผิดในข้อหานี้โดยปริยาย
6. การสั่งฟ้องเป็นคดีความได้ จะต้องมีองค์ประกอบคดีครบถ้วน คือ
1) ต้องมีเอกสารสำนวนสอบสวนครบถ้วน ตามองค์ประกอบของข้อหาที่จะฟ้อง
2) ต้องมีผู้เสียหาย และ 3) ต้องมีผู้ต้องหา มาแสดงตนต่อหน้าศาล แต่เมื่อหลวงพ่อวัดพระธรรมกาย
มิได้เป็นผู้ทำให้สหกรณ์เสียหาย มิหนำซ้ำลูกศิษย์ของท่าน ยังเป็นผู้ค้ำจุนสหกรณ์ไม่ให้ล้มละลายด้วยกองทุนเกือบพันล้าน จึงไม่มีเงื่อนไขใดๆ เลยที่ครบถ้วนและมีน้ำหนักเพียงพอ จะสั่งฟ้องท่านด้วยข้อหาฟอกเงินและรับของโจร
1) ต้องมีเอกสารสำนวนสอบสวนครบถ้วน ตามองค์ประกอบของข้อหาที่จะฟ้อง
2) ต้องมีผู้เสียหาย และ 3) ต้องมีผู้ต้องหา มาแสดงตนต่อหน้าศาล แต่เมื่อหลวงพ่อวัดพระธรรมกาย
มิได้เป็นผู้ทำให้สหกรณ์เสียหาย มิหนำซ้ำลูกศิษย์ของท่าน ยังเป็นผู้ค้ำจุนสหกรณ์ไม่ให้ล้มละลายด้วยกองทุนเกือบพันล้าน จึงไม่มีเงื่อนไขใดๆ เลยที่ครบถ้วนและมีน้ำหนักเพียงพอ จะสั่งฟ้องท่านด้วยข้อหาฟอกเงินและรับของโจร
7. เมื่อไล่ดูเส้นทางการเงินและเส้นทางรับบริจาค ยิ่งไม่พบว่ามีหลักฐานใดๆ ที่เชื่อมโยงเข้ากับองค์ประกอบ ในข้อหาฟอกเงินและรับของโจร ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า การสั่งฟ้องหลวงพ่อวัดพระธรรมกาย โดยที่เอกสารการสอบสวนไม่ครบถ้วน ไม่มีหลักฐานว่าทำให้สหกรณ์เสียหาย และยังเป็นผู้ช่วยเหลือเพียงรายเดียว ที่ค้ำจุนสหกรณ์ไม่ให้ล้มละลายอยู่ในเวลานี้ มันเป็นความถูกต้องชอบธรรมหรือไม่
มันเป็นการกลั่นแกล้งประชาชนที่ไม่มีความผิดให้มีความผิดหรือไม่ ?
มันเป็นการใช้กฎหมายโดยเสมอภาคหรือไม่ ?
มันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ?
CR: Ptt Cnkr
ถูกต้องครับ ไม่มีหลักฐาน แล้วจะกล่าวหาว่าผิดได้อย่างไร เมืองไทยก็เป็นซะแบบนี้ กล่าวหาว่าผิดโดยไม่มีหลักฐาน แต่ฝ่ายถูกกล่าวหากลับต้องหาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง
ReplyDeleteถ้าผู้พิจารณาใช้กฏหมายให้รอบคอบด้วยเหตุและผลที่พิสูจน์ได้ อธิบายได้เช่นนี้ ปัญหาความวุ่นวายในสังคมจะไม่เกิดอย่างปัจจุบัน. แต่ถ้าจะยังคงยัดเยียดอะไรต่อมิอะไรไม่รู้จบเพื่อเอาชนะให้ได้คงต้องเหนื่อย(ใจ)กันต่อไปจนกว่าผู้กล่าวหาจะวิบัติไปด้วยภัยที่ตนเองสร้างขึ้นมา
ReplyDeleteสุดยอด ความยุติธรรมยังมีอยู่ในสังคม
ReplyDeleteสาธุ ค่ะ
Deleteมีคนตั้งธงจัดการวัดพระธรรมกายให้ได้ อีกไม่นานคงจะได้รับผลกรรมนั้น
ReplyDeleteจากข้อมูลเหล่านี้ อยากถามซ้ำว่า
ReplyDeleteมันเป็นการกลั่นแกล้งประชาชนที่ไม่มีความผิดให้มีความผิดหรือไม่ ?
มันเป็นการใช้กฎหมายโดยเสมอภาคหรือไม่ ?
มันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ?
หาแพะมารับผิดชอบ แต่อีก 30 กว่ารายรับบริจาคเหมือนกัน ทำไมเงี๊ยบเงียบ ไม่ไปตามเงิน 13,000 ล้านคืนอีกด้วยนะ ส่วนของวัดพระธรรมกาย เร่ง รัด ยัดเยืยด ข้ามขั้นตอนบุกจับ
ReplyDeleteการทำงานของDSI.ภายใต้เงื่อนงำ ชวนให้สงสัยน่าติดตาม คิดทำลายวัด คิดทำลายพระเจอกับตัวบ้างนะคนพาล
ReplyDeleteเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจรังแกพระผู้บริสุทธิ์
ReplyDeleteศาลปกครองพิจารณาถูกต้องและแม่นยำค่ะ
ReplyDelete👍👍👍
ReplyDeleteอยากจะดันทุรังก็แล้วแต่. ในเมื่อเค้าสร้างอุปสรรคมาให้เราฟันฝ่าเราก็จะทำ
ReplyDeleteจัดไป เอาความชอบธรรมเป็นหลัก แล้วประเทศจะสงบค่ะ
ReplyDeleteกฏหมาย ที่ไม่ได้ใช้ไปเพื่อเอาผิดกับ ฝ่ายที่อยู่ตรงข้าม และตัดสินตามบรรทัดฐาน ถือว่าเป็นการใช้กฏหมายได้ตรงตามนิติรัฐ ของจริง และความสงบสุขของชาติบ้านเมืองก็จะเกิดขึ้นตามมาครับ
ReplyDeleteทำดีได้ดี
ReplyDeleteDSI โปรดทำตามขั้นตอนกฏหมายด้วย เราเชื่อศาลปกครองดูแล้วถูกตามขั้นตอนเพราะเป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา DSI ไม่มีสิทธิ์มาทำคดีนี้ด้วยซ้ำ
ReplyDeleteตอนนี้หลักฐานในมือ DSI อ่อนมาก ยังไม่เพียงพอในการตัดสินความผิด จึงต้องเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปอีก เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่ยิ่งหาก็ยิ่งพบว่า เส้นทางการเงินของวัดพระธรรมกายนั้นเป็นไปอย่างถูกต้อง สะอาดบริสุทธิ์ ก็เลยไม่รู้จะเอาอะไรมาเป็นหลักฐานเอาผิดเพิ่มเติม แต่ด้วยเกรงว่า จะเสียชื่อ ก็เลยต้องเลื่อนกันต่อไปอีกเรื่อยๆ หาที่ลงว่า จะลงอย่างไร เสือจะไม่กัดเอา ขอให้โชคดีกันทุกท่านนะคะ ท่าน DS อายยย!!!
ReplyDeleteDsi ทำผิดกฎหมายเสียเอง
ReplyDeleteเชื่อมั่นศาลปกครองมีความยุติธรรมแน่นอน
ReplyDeleteเชื่อมั่นศาลปกครองมีความยุติธรรมแน่นอน
ReplyDeleteแหมดีจังเลย พอได้อ่านมาเป็นตอนที่สองแล้ว เห็นทางที่หมุ่คณะเราจะชนะฝ่ายคนพาลอย่างใส ๆ แล้ว
ReplyDeleteDSIยังด้านหน้า หน้าด้านทำต่ออ้างข้างๆๆคูๆ ทำเพื่อ???
ReplyDeleteจงตั้งมั่นในความยุติธรรมไม่ลำเอียง
ReplyDeleteหยุดเสียเพราะมันยังไม่สายเกินไป
ReplyDeleteDSI ทำอะไรอยู่ย่อมรู้แก่ใจ
ReplyDeleteวิบากกรมนำแพะบูชายัน นั้น เป็นอย่างไร หนอ
ReplyDeleteและถ้าสรรหาเลือกผู้บริสุทธิ์มาเป็นแพะ แล้ว
วิบากกรรม ส่งผลแบบรวดเร็วทันใจแน่นอน
DSI ต้องฟังคำวินิจฉัยของศาลและต้องทำตามวินิจฉัยนี้
ReplyDeleteมาอ่านอันนี้แล้วถึงเข้าใจว่าทำไมอัยการถึงเลื่อนสั่งฟ้องหลวงพ่อธัมมชโยและวัดพระธรรมกายหลาย ๆ ครั้ง เพราะที่ผ่านมา ดีเอสไอ ไม่มีหลักฐานหรืออะไรเลยที่จะชี้ให้เห็นว่าหลวงพ่อธัมมชโยท่านผิด เพราะท่านทำถูกต้องทุกอย่าง แต่ที่มาเล่นงานวัดเพราะอะไรไม่รู้ หรือว่านายสั่งมา
ReplyDeleteเขาพยายามสร้างความเท็จ ทำลายวัดทำลายพระพุทธศาสนา ไม่มีความผิด ก็พยายามยัดเยียดให้ผิด สังคมไทยคนดีถูกรังแก พวกเขาขายยาบ้า
ReplyDeleteขอบพระคุณศาลปกครองที่ยังมีความเที่ยงธรรมอยู่ค่ะ
ReplyDeleteพระพุทธศาสนากำลังถูกทำร้าย ขอให้ชาวพุทธช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนา
ReplyDeleteพระพุทธศาสนากำลังถูกทำร้าย ขอให้ชาวพุทธช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนา
ReplyDeleteเรามิได้เลือกที่จะเชื่อคำสั่งศาลเฉพาะที่เป็นประโยชน์กับเรา
ReplyDeleteแต่เราวินิจฉัยแล้วว่า
น่าเชื่อถือเพราะศาลปกครองมีกระบวนการไตร่ตรองที่รอบคอบ, คำนึงที่ข้อมูลบนพื้นฐานความเป็นจริงและยังคำนึงถึงส่วนรวมเป็นหลักอีกด้วย
ปกป้องพระพุทธศาสนาอย่าให้ใครมาทำลาย
ReplyDeleteชัดเจนว่าไม่ผิดก็ยังจะปรักปรำกันให้ผิด...มันสมควรรึ..
ReplyDeleteDSI ควรยุติการสอบสวนโดยพลัน เพราะไม่มีใครได้ประโยชน์จากสิ่งที่ท่านทำ
ReplyDeleteความเสียหายของบ้านเมือง และคนไทยทั้งชาติ พระพุทธศาสนาถูกย่ำยี้ คนดีๆถูกกล่าวร้าย
ReplyDeleteน่าเสียดาย น่าสงสาร. คนไทยด้วยกันคงไม่ยำกันขนาดนี้. น่าสงารประเทศไทย
ความเสียหายของบ้านเมือง และคนไทยทั้งชาติ พระพุทธศาสนาถูกย่ำยี้ คนดีๆถูกกล่าวร้าย
ReplyDeleteน่าเสียดาย น่าสงสาร. คนไทยด้วยกันคงไม่ยำกันขนาดนี้. น่าสงารประเทศไทย
การสั่งฟ้องหลวงพ่อธัมมชโย โดยที่เอกสารการสอบสวนไม่ครบถ้วน ไม่มีหลักฐานว่าทำให้สหกรณ์เสียหาย และยังเป็นผู้ช่วยเหลือ เพียงรายเดียว ที่ค้ำจุนสหกรณ์ไม่ให้ล้มละลายอยู่ในเวลานี้ ขอถามและใครก็ได้ช่วยตอบหน่อย
ReplyDelete1. มันเป็นความถูกต้องชอบธรรมหรือไม่?
2. มันเป็นการกลั่นแกล้งประชาชนที่ไม่มีความผิดให้มีความผิดหรือไม่ ?
3. มันเป็นการใช้กฎหมายโดยเสมอภาคหรือไม่ ?
4. มันเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ?
ผู้ใช้กฏหมายต้องรักษาความยุติธรรมอย่างเที่ยงธรรมนะคะ
ReplyDelete#เพราะเร่งรัด ยัดเยียดข้อหา ออกหมายจับวุ่นวายจริงนา..#หลวงพ่อไม่ผิดแต่ดันทุรังจะให้ผิดให้ได้
ReplyDelete..เพราะใบสั่งเร่งรัดมากระนั้นหรือ..?
เพราะว่ามีอคติงัยคะ
Delete#ถึงเวลาแล้วนะชาวพุทธ..#.."เรื่องส่วนตัวให้วางอุเบกขา.
ReplyDelete#.เรื่องพระศาสนาให้เอาอะเบกขาวางแล้วลุกขึ้นมาช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนากันเถิด.
.#ก่อนที่ไทยจะเป็นอดีตเมืองพุทธ
👍👍👍
ReplyDeleteจะเอาแต่เรื่อง ใส่แต่เรื่อง ไอ้พวกนี้
ReplyDeleteเขาคงทำตามผู้บ่งการ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถ้ารีบหยุด กรรมจะผ่อนลง อยากจะบอกว่าใครกล่าวหาวัด ว่าร้ายพระ กรรมหนักและแรงมากเอย.
ReplyDeleteบทความนี้ควรแชร์ไปเยอะๆ..เพราะมีหลักฐานคำวินิจฉัยของศาลปกครองมายืนยัน..และเชื่อมโยงกับบทความที่แล้ว..ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลมีน้ำหนัก..สมเหตุสมผลดีจริงๆ..สุดยอด.
ReplyDeleteกรรมใดไครก่อกรรมนั้นตอ้งตอบสนองไม่ช่าก็เร็วค่ะ
ReplyDeleteสองมาตรฐาน
ReplyDelete" ระบบการกล่าวหา จะใช้เป็นบรรทัดฐานในทางกฎหมายได้จริงหรือ??? "
ReplyDelete"คำวินัยฉัยของศาลปกครองดังกล่าว ให้ความรู้ ความเข้าใจ และความจริง ตามตัวบทกฎหมาย ตรงไปตรงมา อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน"
ดังนั้น กรณีข้อกล่าวหาว่า " ทางวัดพระธรรมกาย ฟอกเงิน และรับของโจร? " จึงมีคำถามที่เคลือบแคลงสงสัยว่า :
1. เป็นการกลั่นแกล้งประชาชนที่ไม่มีความผิดให้มีความผิดหรือไม่ ?
2. เป็นการใช้กฎหมายโดยเสมอภาคหรือไม่ ?
3. เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ?
ดีเอสไอ ใช้อำนาจในทางมิชอบ เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อธัมมชโย
ReplyDeleteเจ้าหน้าที่ อย่าแกล้งวัด และทำร้ายพระ
ReplyDeleteเจ้าหน้าที่อย่า 2 มาตรฐาน
เจ้ากน้าที่ ฝึกนั่งสมาธิให้มากๆน่ะ
เจ้าหน้าที่ อย่าแกล้งวัด และทำร้ายพระ
ReplyDeleteเจ้าหน้าที่อย่า 2 มาตรฐาน
เจ้ากน้าที่ ฝึกนั่งสมาธิให้มากๆน่ะ
สาธู ยังมีหน่วยงานที่พ่อค้ายาบ้าแทรกซึมไม่ได้และทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอยู่ อยากให้ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ออกมาปกป้องพระศาสนา จะให้คนพาลรื้อวัดไปจนหมดหรือไร ตอนนี้โดนไปหลายร้อยวัดแล้ว ไปตรวจสอบข้อมูลดูได้
ReplyDeleteได้แต่ร้องเพลงรอ รอวันความเป็นธรรมกลับคืนมา
ReplyDeleteอธิบายได้ดีมาก
ReplyDeleteอธิบายได้ดีมาก
ReplyDeleteขอความยุติธรรมจงกลับคืนสู่พระและวัดที่ถูกกล่าวหา และคนในสังคมไทย
ReplyDeleteองค์กรและหน่วยงานที่รับบริจาคมึตั้งมากมาย แต่ทำไมต้องมาหาเรื่องวัดพระธรรมกายที่เดียว
ReplyDeleteกระจ่างนะคะเลิกหาเรื่องวัดพระธรรมกายได้แล้ว แล้วก้อรีบเร่งไปตามเงินอีกหมื่นล้านมาคืนสมาชิกด้วยนะคะ สมาชิกสหกรณ์เค้ารอดูน้ำยาพวกท่านอยู่ค่ะ อย่าเก่งแต่หาเรื่องพระ
ReplyDeleteผมว่ายิ่งนานวัน ข้อมูลต่างๆ มันเริ่มไหลเข้ามามากขึ้น มันยิ่งเห็นความไม่ชอบมาพากลมากขึ้น ความชัดเจนของความไม่ถูกต้องของกล่าวหา หลวงพ่อธัมมชโยของวัดพระธรรมกาย มันเริ่มมีกลิ่นแปลกๆ ออกมามากขึ้นนะครับ ผมว่า คนที่ยังมีใจรักพระพุทธศาสนา และอยากรู้ความจริง เริ่มตั้งคำถามกลับไปยังเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่นี้แล้วหละครับ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteดีใจครับที่อย่างน้อยศาลปกครองยังมีความยุติธรรม เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องไรกับหลวงพ่อ หรือแม้แต่วัดพระธรรมกายเลย หลวงพ่อเป็นเพียงพยาน
ReplyDeleteขอบคุณนะคะที่มีความยุติธรรม จริงๆ
ReplyDeleteผู้บริสุทธิ์ ย่อมเป็นผู้บริสุทธิ์
ReplyDeleteเจตนาจงใจที่จะทำร้ายพระผู้บริสุทธิ์ชัดเจน...แต่พวกคุณไม่มีทางทำอะไรท่านได้หรอก???เพราะ...
ReplyDeleteธรรมะย่อมคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรม...
บริสุทธิ์จริง กราบอนุโมทนาบุญ
ReplyDeleteปักธงไม่สวยแต่แรกเริ่มแล้ว dsi
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteยุติธรรมไม่กลัว กลัวไม่ยุติธรรม
ReplyDeleteเป็นการกลั่นแกล้งกันชัดๆ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteหลวงพ่อท่านบริสุทธฺ์ ไม่ได้ผิดอะไรเลย
ReplyDeleteRead carefully
ReplyDeleteโอ...ยังมีความยุติธรรมหลงเหลืออยู่...สาธุ
ReplyDeleteดีเอสอายควรหยุดได้แล้ว
ReplyDeleteท่านชี้เเจงได้ชัดเจนมาก ดีเอสไอควรทบทวนบทบาทตนเองเสียใหม่
ReplyDeleteทำดีไดัดีทำชั่วไดัชั่วธรรมะย่อมชนะอธรรมคะ
ReplyDeletedsi ถ้าหาเวลานั่งธรรมะ สัมมา อะระหัง บ้างนะ ใจจะได้ใส ใส รู้ เห็น อะไรตรงความเป็นจริงยิ่งๆ ขึ้นไป
ReplyDeleteผู้มีปัญญาย่อมมองเห็นโลกเป็นไปตามความเป็นจริงอย่างนั้นเอง
ReplyDeleteฝากถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมือง จะทำอะไรให้คิดให้ดีถูกก็ว่าถูก ใครผิดก็ว่าผิดอย่าทำกลับกัน ไม่งั้นประชาชนจะสับสน
ReplyDeleteอัยการไม่ฟ้องไปสองครั้ง ศาลปกครองตัดสินว่าหลวงพ่อไม่ผิดเลยไม่เกี่ยวด้วย แล้วฝ่ายสอบสวนยังจะยื่นข้อผิดให้อีกหรือ มาตรา 157 คงไม่ได้มีไว้เล่นๆนะ
ReplyDeleteผ่านจากครูอังคณา ไปถึงศาลปกครองแล้ว เอางัยดี
ReplyDeleteมันหลวมมากเลย
ทั้งโลก ความจริงต้องเป็นอย่างนี้ ธงของดีเอสไอพยายามฝืนกระแสโลก ยัดเยียดความผิด
ReplyDeleteความพยายามยัดเยียดข้อหาและกลั่นแกล้งประชาชนผู้บริสุทธิ์ ด้วยการใช้อำนายรัฐ เป็นการกระทำที่น่าละอายใจและสมควรจะมีบทลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง
ReplyDeletedsi อย่าทำให้สังคมสับสน !!!
ReplyDeleteเจ้าค่ะ
ตั้งแต่เกิดเรื่อง ยังไม่เคยได้เห็นหลักฐานจาก DSI เลย
ReplyDeleteทำงานกันแบบนะ ไม่อยากเชื่อว่าเรียนมา ห่วยมาก ออกเหอะ ทำให้เดือดร้อนกันไปทั่ว อะไรดีชั่ว ไม่ตรวจสอบ ออกเหอะ
ReplyDeleteสาธุ. สุดยอด. แล้วจะทำอย่างไรต่อละ
ReplyDeleteพฤติกรรมส่อเจตนา กรรมจำแนกสัตว์
ReplyDeleteยุคถิ่นกาขาว โมฆบุรุษใจบาป ได้ครองเมือง
พฤติกรรมส่อเจตนา กรรมจำแนกสัตว์
ReplyDeleteยุคถิ่นกาขาว โมฆบุรุษใจบาป ได้ครองเมือง