ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

กุสินารา ราชธานีแห่งแคว้นมัลละในครั้งพุทธกาล

กุสินารา ราชธานีแห่งแคว้นมัลละในครั้งพุทธกาล คือเมืองที่พระบรมศาสดาเลือกใช้เป็นสถานที่เสด็จมาดับขันธปรินิพพาน เหตุผลที่ทรงเลือกเมืองนี้ ก็เพราะแคว้นมัลละยุคนั้น อ่อนแอที่สุดในชมพูทวีป เมื่อพระองค์ทรงปรินิพพานไปแล้ว เวลาแคว้นอื่นมาขอแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ แคว้นมัลละย่อมยินดีแบ่งให้โดยง่าย เพราะไม่มีกองกำลังที่มีแสนยานุภาพยิ่งใหญ่พอจะครอบครองไว้เพียงผู้เดียว

แต่หากพระองค์ทรงเลือกเสด็จไป
ปรินิพพานที่แคว้นใหญ่อย่างเช่น มคธ โกศล วังสะ อวังตี ซึ่งเป็นสี่แคว้นมหาอำนาจของยุคนั้น การปรินิพพานของพระองค์อาจเป็นต้นเหตุให้เกิดสงคราม 16 แคว้น แย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุขึ้นมาได้ ขึ้นชื่อว่าสงครามย่อมไร้ความปรานี ไม่ว่าคนชรา เด็ก และสตรีย่อมถูกเข่นฆ่าไม่เว้น

การเลือก
ปรินิพพานในแคว้นที่อ่อนแอที่สุด จึงเป็นการตัดไฟสงครามแต่ต้นลม เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน อีกทั้งการรบกันเองของลูกศิษย์เพื่อแย่งอัฐิของอาจารย์นั้น ย่อมเป็นการทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของพระธรรมคำสอนของพระองค์ พระพุทธศาสนาย่อมพลอยอายุสั้นไปด้วย เราจะเห็นได้ว่าขึ้นชื่อว่า "พระบรมครู" ของชาวพุทธนั้น ทรงกระทำการทุกอย่างด้วยความรอบคอบ แม้แต่การปรินิพพานก็ไม่ทิ้งปัญหาสงครามโลกไว้ข้างหลัง อันที่จริง แคว้นมัลละในยุคนั้น มีคนเก่งชนิดสะเทือนแผ่นดินอยู่หลายคน แต่ละคนมีความรู้ความสามารถเกินพอจะทำให้แคว้นมัลละกลายเป็นแคว้นที่ยิ่งใหญ่เหมือนในอดีตได้ ท่านแรกคือ พระทัพพมัลลบุตร ผู้เป็นเลิศด้านจัดเตรียมภัตตาหารและเสนาสนะไว้ต้อนรับพระสงฆ์ ท่านที่สองคือ พันธุละ มหาเสนาบดีแห่งแคว้นโกศล ผู้ค้ำจุนราชบัลลังก์และราชอาณาจักรให้แก่พระเจ้าปเสนทิโกศล ลำพังท่านแรกซึ่งเป็นพระอรหันต์ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ด้วยบุญของท่านเพียงรูปเดียว ก็เกินพอจะทำให้แคว้นมัลละคืนสู่ความยิ่งใหญ่ มีเศรษฐกิจกับจิตใจเจริญรุ่งเรืองไปพร้อมกันได้ ส่วนท่านที่สองนั้น ลำพังชื่อเสียงและผลงานที่ไปปรากฏอยู่ในแคว้นโกศล ก็เกินพอที่จะทำให้แคว้นเล็กๆ อย่างแคว้นมัลละกลายเป็นแคว้นมหาอำนาจได้ไม่ยาก 
แต่เพราะสภาพบ้านเมืองในแคว้นมัลละนั้น มีข้อเสียบางอย่างที่ทำให้เกิดการขัดแข้งขัดขากันเอง จนคนเก่งอยู่ได้ยาก หรืออยู่ไม่ได้ หรืออยู่ได้ก็ต้องตกตายกันไปข้างหนึ่ง

ข้อเสีย

1. หมู่ญาติแตกความสามัคคี แก่งแย่งชิงดี แบ่งฝักแบ่งฝ่าย จ้องจับผิดคิดร้ายต่อกัน

2. ชอบใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อสุรุ่ยสุร่าย อวดร่ำอวดรวยว่าใครมีมากกว่ากัน
3. ชอบยกตนข่มท่าน กดผู้อื่นให้ต่ำลง
4. ชอบสุมหัวนินทา ริษยาใส่ร้าย ไม่อยากเห็นใครดีกว่าพวกตน
5. ชอบรวมหัวกลั่นแกล้งคนที่เก่งกว่าจนอยู่ไม่ได้ 

 เมื่อสภาพบ้านเมืองเป็นแบบนี้ คนดีอยู่ยาก คนเก่งอยู่ไม่ได้ จึงเป็นเหตุให้แคว้นมัลละกลายเป็นแคว้นที่อ่อนแอที่สุด แต่กระนั้นพระพุทธองค์ก็ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จไปดับขันธปรินนิพพานและประทานปัจฉิมโอวาทที่แคว้นนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่จะได้เป็นการทำบุญครั้งสุดท้ายกับพระพุทธองค์
1. ถือโอกาสเติมบุญให้ชาวเมือง
2. ถือโอกาสเติมบุญให้แคว้นมัลละ 

 ด้วยบุญใหญ่ครั้งสุดท้ายนี้ แคว้นมัลละจะได้รอดพ้นจากการถูกบดขยี้จากแคว้นอื่นๆ แม้ว่าสภาพบ้านเมืองจะตกอยู่ในสภาพอ่อนแอไร้คนเก่งบริหารบ้านเมืองก็ตาม นี่คือพระบรมครูของชาวพุทธเรา แม้แต่การเลือกสถานที่ปรินิพานก็ยังใช้เติมบุญให้ชาวโลกได้ อีกทั้งยังวางยุทธศาสตร์ป้องกันสงคราม 16 แคว้นชิงพระบรมสารีริกธาตุได้เด็ดขาดตั้งแต่ยังไม่ดับขันธปรินิพพานอีกด้วย เราชาวพุทธควรภูมิใจที่มีพระสัมมาสัมพุทธเป็นพระบรมครูผู้ชี้ทางอันประเสริฐให้ชีวิตของเรา

Cr ; Ptreetep Chinungkuro 

ไม่มีความคิดเห็น