หากบุคคลนั้นทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ในที่ดิน หรือปล่อยที่ดินให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า เกินกำหนดเวลาให้ถือว่าเจตนาสละสิทธิ (ประมวลกฎหมายที่ดิน ประกาศใช้เมื่อปี 2497)

ประมวลกฎหมายที่ดิน (ประกาศใช้เมื่อปี 2497)

-------------------------

มาตรา 6 นับตั้งแต่วันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใช้บังคับ บุคคลใดมีสิทธิในที่ดินตามโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หากบุคคลนั้นทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ในที่ดิน หรือปล่อยที่ดินให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า เกินกำหนดเวลาดังต่อไปนี้

(1) สำหรับที่ดินที่มีโฉนดที่ดินเกินสิบปีติดต่อกัน
(2) สำหรับที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ เกินห้าปีติดต่อกัน

ให้ถือว่าเจตนาสละสิทธิในที่ดินเฉพาะส่วนที่ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือที่ปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่า เมื่ออธิบดีได้ยื่นคำร้องต่อศาล และศาลได้สั่งเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าว ให้ที่ดินนั้นตกเป็นของรัฐเพื่อดำเนินการตามประมวลกฎหมายนี้ต่อไป

--------------------------

ปล.1 ที่ดินราชพัสดุหรือที่ดินสาธารณะถือเป็นทรัพย์สินของรัฐ จะอ้างสิทธิครอบครองปรปักษ์ไม่ได้ (มีกฎหมายและคำตัดสินฎีกาที่ชัดเจนแล้ว)

ปล.2 ที่ดินราชพัสดุหรือที่ดินสาธารณะจะโอนเป็นของเอกชนได้ต่อเมื่อมีพระราชบัญญัติเท่านั้น ซึ่งแปลว่าต้องมีการแก้กฎหมายโดยผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาและรัฐมนตรีเท่านั้น (อย่าหลงเชื่อว่าที่ดินราชพัสดุสามารถโอนให้เป็นที่ดินมูลนิธิเพื่อใช้เป็นสาธารณกุศลได้เป็นอันขาด เพราะไม่จริง มีโทษหนักด้วย)

Cr : Ptreetep Chinungkuro

ที่ดินถูกทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อปลายปีที่แล้ว มีคนติดต่อขอซื้อที่ดิน ที่อยู่ในเขตอำเภอเมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งที่ดินผืนนี้คุณแม่ได้ซื้อให้ผมเมื่อกว่า 30 ปีมาแล้ว (ใส่ชื่อผมเป็นกรรมสิทธิ์) ที่ดินประมาณ 300 ตารางวาแต่การซื้อขายครั้งนี้ ไม่สามารถตกลงราคากันได้ (ในขณะต่อรองราคาผู้ซื้อบอกว่ามีพี่ชายเป็นนายปลัดอยู่ที่นี่ )

เมื่อเดือน มีนาคมที่ผ่านมา มีจดหมายจากเทศบาลตำบล ลงชื่อนายกเทศมนตรี ข้อความในจดหมาย สรุปใจความได้ว่าที่ดินผืนดังกล่าวไม่ได้ใช้ประโยชน์ถูกทอดทิ้งมาเกิน 10 ปี ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินที่ถูกทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ หรือ ปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าให้ตกเป็นของรัฐ พ.ศ. 2522 ทางเทศบาลจึงแจ้งให้ผมดำเนินการทำประโยชน์กับที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ควรปล่อยให้เป็นที่ว่างเปล่าติดต่อกันเกินกว่า 10 ปี มิฉะนั้นจะดำเนินการตามนัยระเบียบกระทรวงมหาดไทยดังกล่าวต่อไป

อนึ่ง ผมได้เสียภาษีบำรุงท้องที่ เป็นประจำทุกปี

ผมขอเรียนถามอาจารย์ดังนี้

ที่ของผมจะตกเป็นของรัฐได้จริงหรือ ในเมื่อผมเสียภาษีบำรุงท้องที่ทุกปี
ในกรณีนี้ เจ้าหน้าที่ของรัฐ กลั่นแกล้ง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ เพราะคงมีที่ดินที่ยังไม่ได้ทำประโยชน์อีกมากมาย เป็นการเลือกปฎิบัติหรือเปล่าเพราะถ้าเขาจะยึดที่ผมเขาต้องยึดที่แปลงที่ทิ้งไว้เกิน10ปีด้วย
ผมควรจะทำเช่นไร ( ผมอยู่กรุงเทพ ไม่ได้อยู่เชียงใหม่ นึกไม่ออกว่าจะไปทำอะไร คิดว่าอนาคตจะยกให้ลูกเป็นมรดกจากคุณย่า เพราะความจริงแม่ผมซื้อ )

คำตอบ

มีกฎหมายเช่นนั้นอยู่จริง แต่ในทางปฏิบัติยังไม่เคยมีเจ้าหน้าที่คนไหนทำตามนั้น เพราะไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่อย่างไรก็ตามการปล่อยทิ้งไว้ ก็เสี่ยงต่อการที่จะถูกเอาคืนได้ ทางที่ดีคุณก็ควรไปถากถาง หรือปลูกต้นไม้ไว้บ้าง การเสียภาษีบำรุงท้องที่ทุกปีไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้
การที่เราทำผิดแล้ว จะมัวเกี่ยงว่าทำไมกับคนอื่นจึงไม่ทำนั้นไม่ได้หรอก
ทำตามข้อ 1

อ้างอิง www.meechaithailand.com

ขอบคุณภาพประกอบจาก Facebook,Google