ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

หลวงพ่อครูบาบุญชุ่ม ที่ข้าพเจ้าเคยกราบ

หลวงพ่อครูบาบุญชุ่ม ที่ข้าพเจ้าเคยกราบ




หลวงพ่อครูบาบุญชุ่ม หรือนามท่านในภาษาพม่าว่า Mine Phone Sayadaw เป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียงมาก ชาวพม่าทั่วไป โดยเฉพาะในรัฐฉาน ให้ความเคารพนับถือสูงสุด รวมถึงเป็นที่นับถือในหลายจังหวัดของไทย โดยเฉพาะทางภาคเหนือ แต่การจะได้กราบท่านนั้น เป็นไปได้ยาก เพราะท่านมักจะปฏิบัติภาวนาสันโดษ ปลีกวิเวกอยู่ในถ้ำเสมอ บางคราวท่านจะเดินทางมาปฏิบัติยังวัดของท่านในเมืองไทย ที่อ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย แต่มักไม่มีกำหนดการล่วงหน้า ถึงพบก็ยากที่จะเข้าถึง แล้วคนตัวเล็กอย่างเรา มีโอกาสกราบท่านใกล้ๆได้อย่างไร


เมื่อหลายปีก่อน ขณะนำทัวร์ไปอินเดีย บินตรงสู่พุทธคยา โดยสายการบินไทย เราเดินไปพร้อมลูกทัวร์ ไปประตูขึ้นเครื่องเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่วันนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง เพราะสังเกตเห็นมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และข้าราชการระดับสูง มายืนรอตรงหน้าประตูเกทเป็นจำนวนมาก จากประสบการณ์ทำงาน เรารู้ทันที เที่ยวบินพุทธคยาวันนี้ มี VIP ไปด้วย


โดยปกติการ boarding ผู้โดยสาร VIP มักจะทำใน 2 รูปแบบ คือ boarding first หรือ boarding last คือบอร์ดวีไอพีให้เสร็จก่อนผู้โดยสารอื่นขึ้นเครื่อง ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ เพราะผู้โดยสารวีไอพีส่วนมากนั่งชั้นบิสสิเนสอยู่แล้ว กับอีกแบบคือให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่องจนเสร็จ ครบหมดทั้งลำก่อน จึงจะเชิญวีไอพีจากห้องรับรอง บอร์ดขึ้นเครื่องเป็นคนสุดท้าย อยู่ที่ผู้จัดทริปจะประสานกับเจ้าหน้าที่สายการบิน


สักพักเริ่มมีความเคลื่อนไหวด้านหน้า เรานั่งมองอยู่ไกลๆ พอเห็นชัด จึงอุทานในใจ “ครูบาบุญชุ่ม” ห้อมล้อมด้วยนายทหารระดับบิ๊กๆ มากมาย มือท่านล้วงของจากย่ามไม่ได้หยุด มีมือหลายสิบมือยื่นมาขอความเมตตาจากท่านไปบูชา เราลุกขึ้นไหว้ท่านในระยะไกล เพราะคนห้อมล้อมรอบท่านแน่นไปหมด


ใกล้ถึงเวลา boarding เจ้าหน้าที่นิมนต์ท่านและพระติดตามขึ้นเครื่องก่อน สักพักจึงให้ผู้โดยสารขึ้นตามลำดับ ด้วยความที่เราเป็นหัวหน้าทัวร์ ก็จะขึ้นเครื่องเป็นคนท้ายๆเสมอ ให้มั่นใจว่า”เก็บ”ลูกทัวร์ขึ้นเครื่องไปครบ ก่อนจะถามเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์อีกครั้งว่า มีผู้โดยสารไทยยังไม่บอร์ดอีกมั้ยคะ ถ้าหมดแล้ว ก็จะขึ้นเครื่องสบายใจ ถ้ายังมีผู้โดยสารไทยหลงเหลือ ต้องกางรายชื่อเช็คว่าใช่ลูกทัวร์เราหรือเปล่า


เอาล่ะครบ ได้เวลาข้าพเจ้าขึ้นเครื่องเป็นกลุ่มท้ายๆ เครื่องบินไปพุทธคยาใช้เครื่องลำเล็ก ประตูหน้าอยู่บริเวณชั้นบิสสิเนส 12 ที่นั่ง มีประตูเดียว ผู้โดยสารทุกชั้น ต้องเข้าทางนี้เหมือนกัน 


ขณะยืนต่อแถวขึ้นเครื่อง ครูบาท่านนั่งอยู่ฝั่งขวา เราเดินเข้าไปย่อตัวลงนั่งคุกเข่าตรงทางเดินแคบๆ ยกมือไหว้ท่าน คนอื่นๆข้างหน้าก็ทำเช่นเดียวกัน ขณะกำลังจะลุกขึ้นยืน เพราะเกรงใจคนข้างหลังจะรอนาน ท่านทักขึ้นมาว่า


“เป็นหัวหน้า พาคนไปทำบุญ ดีแล้ว ดีมาก ดีๆ ทำต่อไป เอานี่ไปบูชา เก็บไว้นะ”



ท่านล้วงไปในย่าม หยิบสิ่งนี้ซึ่งบรรจุอยู่ในถุงซิปเล็กๆส่งให้ ข้าพเจ้ายืนงง ได้แต่ยกมือกราบท่านอีกครั้ง

เดินถึงที่นั่งตัวเอง นั่งมองถุงซิปในมือ ค่อยๆทวนคำพูดท่านช้าๆ คำพูดที่จำได้ทุกประโยคจนบัดนี้ 

ท่านทราบได้อย่างไร เมื่อไม่มีลูกทัวร์ข้าพเจ้าอยู่ตรงนั้นใกล้ๆ ที่จะพูดคุยให้ทราบว่าเราเป็นผู้นำทัวร์ ทำแต่ทัวร์เส้นทางบุญด้วย ไม่เคยแต่งกายใส่เครื่องแบบบริษัททัวร์เลย อันนี้ลูกทัวร์จะทราบดี และหากท่านเป็น last boarding VIP ขึ้นเป็นคนสุดท้ายของลำ เราก็คงไม่ได้กราบท่านตรงทางเข้า แต่เหตุปัจจัยทุกอย่าง สมกันพอดี


เก็บความพิเศษไว้ในใจตลอดการเดินทาง จนถึงอินเดียรีบไปหาซื้อผอบมาบรรจุสิ่งที่ครูบาเมตตาให้มา เดินหากี่ที่ในพุทธคยาก็ไม่ถูกใจ สุดท้ายไปได้ผอบทองเหลืองฝาเกลียวหมุนปิดสนิทได้ ที่หน้าวัดพม่า

 เมืองกุสินารา เก็บรักษาไว้ในห้องพระที่บ้านจนบัดนี้




เมื่อเช้าไปกราบขอบพระคุณท่านในห้องพระ เปิดฝาออกดู ยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ อยู่ในนั้น 

คำพูดของท่านวันนั้นถึงตัวข้าพเจ้า จนถึงคำพูดที่เป็นขวัญกำลังใจเมื่อสามวันก่อน ที่หน้าถ้ำหลวง “อยู่ดีครบทุกคน” จึงคงความพิเศษเสมอ

Cr : Alisa  Chinda  ขอบคุณข้อมูลจาก Line Dhamma is Peace

ไม่มีความคิดเห็น