🌐การที่ DSI ขอให้ศาลยุติธรรมออกหมายจับ พระเทพญาณมหามุนี ( หลวงพ่อธัมมชโย ) แห่งวัดพระธรรมกาย กรณีขอผัดผ่อน เลื่อนมาให้การในคดีที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐาน ด้วย เหตุผลที่ท่านอาพาธ และมีคำรับรองของแพทย์ว่า อาพาธจริง
🌐การออกหมายจับในครั้งนี้ ภาครัฐกำลังก้าวพลาดครั้งสำคัญ เพราะเป็นการออกหมายจับ ผู้ที่ศาลฯยังมิได้พิพากษาว่าเป็นจำเลย นั่นประการแรก
🌐ประการที่สอง ผู้ถูกกล่าวหา มีเหตุผลอันควร ที่เจ็บป่วยจริงๆมิได้เสแสร้ง และมีแพทย์ผู้มีใบประกอบโรคศิลป์ให้คำรับรองว่าท่านอาพาธจริง
🌐การไม่เชื่อถือแพทย์ อาจเป็นเหตุผลรองลงไปจากการที่ DSI ที่เป็นตัวแทนภาครัฐ มีธงในใจที่จะต้องการเร่งรัด อะไรบางอย่างหรือไม่ ??? นี่คือเป็นการพลาดประการที่สอง
🌐ประการที่สาม ภาครัฐ ใช้ DSI เป็นหนังหน้าไฟ กระทำการ
สร้างความขัดแย้งครั้งสำคัญ ประกาศศึกกับฝ่ายศาสนจักร
🌐อย่าลืมว่า พระธัมมชโย ยังมิได้มีฐานะเป็นจำเลย ทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการไต่สวน
🌐ดังนั้น การไม่ยอมผ่อนปรน โดยอาจเร่งรัดเพื่อหวังผลในใจอย่างไรหรือไม่ ?????
🌐ประการใดก็ตาม นับเป็นการ “สร้างความขัดแย้ง“โดยไม่จำเป็น และเป็นการขัดแย้งครั้งสำคัญ ที่ละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกของชาวพุทธโดยรวม หากไม่นับขั้วการเมือง
🌐การก้าวพลาด เพียงเพราะลุแก่อำนาจในครั้งนี้ของภาครัฐ ยังจะนับได้อยู่หรือไม่ว่า..กระบวนการสร้างความปรองดองที่มีมาตั้งแต่ต้น ความตั้งใจที่จะกระทำให้บ้านเมืองสงบสุข ตามที่ รัฐบาล โดยการนำของ คสช. ป่าวประกาศต่อประชาชน ต่อสังคมโลก จะเป็นจริงหรือไม่ ???????
🌐ขอศาลฯที่เคารพ ได้โปรด ตรองดูด้วยหัวใจที่เป็นธรรม ดิฉัน กราบขอความเมตตาแทน ศาสนจักรโดยรวม โดยเล็งเห็นถึงความสงบสุขของประเทศชาติ เล็งเห็นถึงสิ่งที่จะสูญเสียโดยไม่อาจเรียกคืน นั่นคือ การสูญเสียศรัทธา ที่ประชาชนจะมีต่อภาครัฐ ต่ออาณาจักรของตน อย่างไม่อาจจะเรียกคืนได้อีกต่อไป !!!!!!!
Cr : ศศินภา นิติธรรมปพน
อดีตคณะกรรมการปฏิรูปแนวทาง
และมาตรการปกป้องพิทักษ์
กิจการพระพุทธศาสนา
สภาปฏิรูปแห่งชาติ
ไม่มีความคิดเห็น