ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

เสื่อมทรุด ยุติธรรม? เปิดคำให้การพยาน 3 ปากสุดท้ายคดีรับจำนำข้าว

เสื่อมทรุด ยุติธรรม? 

เปิดคำให้การพยาน 3 ปากสุดท้ายคดีรับจำนำข้าว




 อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ที่เปรียบเสมือนเพียง “แมวน้อย” ตัวเล็กๆ ที่ถูก “พยัคฆ์” รอขย้ำในไม่กี่วันนี้ อาจแปลสภาพจาก “แมวน้อย” ที่ร้อง “แม้ว..แม้ว..” กลายเป็น “สัญลักษณ์การต่อสู้” กับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นเล่า แบบที่ว่า ฝ่ายหนึ่งทำอะไรก็ไม่ผิด ถึงจะผิดก็ไม่ต้องรับโทษ แต่อีกฝ่ายหนึ่งจะทำไม่ทำอะไรก็ผิดไปหมดทุกเรื่อง ติดคุกติดตารางกันเป็นปกติ ซึ่งล้วนแต่สวนทางกับแนวทางความปรองดองที่เป็นแค่ลมปาก...
(โลกวันนี้วันสุข)


                                                      


 อดีตหัวหน้าคลังสินค้า อคส.ให้การว่าหลังรัฐประหาร มีคำสั่งถอดกล้องวงจรปิดและล็อกโกดังข้าว ห้ามเปิดรมยา ขึ้นมาหักล้างข้อกล่าวหาข้าวเสื่อมคุณภาพ และข้าวหายจากโกดัง 

 คำเบิกความของ นายพศดิษ ดีเย็น อดีตหัวหน้าคลังสินค้า องค์การคลังสินค้า พยานจำเลย ในคดีโครงการรับจำนำข้าวนัดสุดท้าย ยืนยันมาตรฐานโกดังและคลังสินค้าในความดูแลของ อคส.ตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อปี 2554 ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ปฏิบัติตามขั้นตอน และคู่มือเพื่อเก็บรักษาสภาพข้าว ไม่ให้เกิดความเสียหายมาโดยตลอด 
    
ส่วนข้อกล่าวเรื่องข้าวหายไปจากโกดัง  พยานให้การว่า หลังการรัฐประหาร รัฐบาล คสช.ได้มีคำสั่ง โดยกระทรวงพาณิชย์ ให้ยกเลิกการติดตั้งกล้องวงจรปิด ที่เคยติดตั้งตามโกดังเก็บข้าวในโครงการรับจำนำ สั่งเปลี่ยนคณะบุคคลที่ถือกุญแจ และตั้งแต่ ปี 2557-2559 และห้ามให้เปิดโกดังข้าวเพื่อรมยา ตามปกติ จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ข้าวในโครงการรับจำนำ ได้รับความเสียหาย
เช่นเดียวกับ ข้อกล่าวเรื่องข้าวเสื่อมคุณภาพ โดยข้อเท็จจริงแล้ว ข้าวที่เก็บไว้ในโครงการรับจำนำก่อนหน้านี้ ยังมีสภาพที่สามารถจำหน่ายได้ตามปกติ แต่ปัญหาเกิดจากคณะกรรมการ 100 ชุด ของหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ แต่เอามาตรฐานการกำหนดคุณภาพข้าวเพื่อการส่งออกมาเป็นเกณฑ์ตรวจวัด ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวต้องเป็นข้าวที่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพแล้ว จึงทำให้ข้าวในคลังและโกดังรับจำนำทั้งประเทศ เป็นข้าวที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของหม่อมหลวงปนัดดา 
ประกอบกับผู้ตรวจสอบ ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีความรู้เรื่องข้าว จนทำให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมหาศาล กลายเป็นที่มาของนโยบายการสั่งขายข้าวคุณภาพดี ในราคาข้าวเสื่อมคุณภาพ หรือ ข้าวเน่า ในราคาที่ต่ำถึงเท่าตัว ทำให้ประเทศได้รับความเสียหาย ส่วนข้อกล่าวเรื่องการทุจริตข้าวถุง เมื่อปี 2556 โดยข้อเท็จจริงแล้ว เป็นนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการทำข้าวถุง เพื่อจำหน่ายในราคาถูกให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย ไม่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรี  
    
สอดรับกับคำเบิกความ ของนายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล อดีตผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ยืนยันว่า ระบบดูแลเรื่องการนำข้าวสารออก ป้องกันการสวมสิทธิ์ ได้มาตรฐาน ไม่มีข้าวสูญหาย ตามที่มีการกล่าวหาว่าสูง  2.5 ล้านตัน ซึ่งต่อมา ปรากฏข้อเท็จจริงโดยประกาศจากปลัดกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง ยืนยันว่าไม่มีข้าวหายจากคลัง อคส. และมีการปิดบัญชีที่ถูกต้อง 
ขณะที่ รองศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ กิตติ ลิ่มสกุล นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พยานปากสุดท้าย นำผลวิจัยชี้ให้เห็นว่า หากโครงการรับจำนำข้าวเดินหน้าตามระบบจนเสร็จสิ้น และไม่มีรัฐประหาร โครงการนี้ก็จะไม่มีข้อกล่าวหาเรื่องทุจริต คอร์รัปชั่น  แต่โครงการนี้จะเป็นผลดี ราคาข้าวจะเป็นไปตามกลไกตลาด เนื่องจากมีมาตรการสร้างความสมดุลในตลาด ให้ชาวนามีส่วนแบ่งการตลาด จากเดิมที่ผูกขาดโดยโรงสี ประโยชน์จึงเกิดกับชาวนาระดับกลางและล่างซึ่งเป็นเกษรกรกลุ่มใหญ่ของประเทศ อีกทั้งการใช้งบประมาณไม่เกิน 60 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ถือว่าโครงการนี้ ไม่เกินกรอบวินัยการเงิน การคลัง


ไม่มีความคิดเห็น