ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

ประธานสหกรณ์คลองจั่น ยอมออกหน้าแถลงปกป้องธรรมกาย



 ลองว่าถ้าถึงขนาดเจ้าทุกข์ยอมออกหน้า มาปกป้องผู้ถูกกล่าวหาเองแบบนี้ ก็แสดงว่าหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย เจ้าทุกข์ได้ขอถอนออกไปจากคดีหมดแล้ว เป็นการถอนออกไปก่อนที่อัยการจะสั่งฟ้องอีกด้วย
ถ้าหากดีเอสไอจะตั้งข้อหาใหม่ ทำคดีใหม่ ก็ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ รวบรวมหลักฐานใหม่ แต่จะนำหลักฐานจากคดีที่ถอนฟ้องไปแล้ว มาใช้ในคดีใหม่ไม่ได้ เพราะเป็นคนละเจ้าทุกข์กัน



การที่ดีเอสไอจะทำคดีใหม่ ให้แก่เจ้าทุกข์คนใหม่ได้ ก็ต้องให้ นายธรรมนูญ อัตโชติ นำหลักฐานใหม่ที่มีน้ำหนักพอ จะตั้งข้อหาฟอกเงินและรับของโจรได้ มายืนยันกับเจ้าหน้าที่รัฐ ดีเอสไอถึงจะสามารถใช้หลักฐานนั้น มาเขียนสำนวนของคดีใหม่ ให้เข้ากับข้อกฎหมายที่จะตั้งข้อหาได้ 

หากนายธรรมนูญไม่สามารถนำหลักฐานมาได้ ก็จะกลายเป็นว่าการแจ้งความครั้งนี้ เป็นการกล่าวหาเลื่อนลอย ไร้หลักฐาน ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการแจ้งความเท็จ
แก่เจ้าพนักงานของรัฐนั่นเอง


แต่เนื่องจากนายธรรมนูญ ไม่ใช่ผู้บริหารสหกรณ์ ไม่ใช่กรรมการฟื้นฟู ไม่ใช่ตัวแทนสหกรณ์ แล้วจะไปนำหลักฐานการเงินของสหกรณ์ ออกมาให้ดีเอสไอได้อย่างไร
 เพราะการจะนำเอกสารการเงินออกมา ก็ต้องได้รับการอนุญาตจากสหกรณ์
ถ้าหากลักลอบนำออกมา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากสหกรณ์ ก็เข้าข่ายลักทรัพย์อีก
และถึงแม้ดีเอสไอจะไปขอหมายค้นเอง หลักฐานการเงินที่ได้ก็คงไม่เกินไปกว่า
หลักฐานที่สหกรณ์ขอถอนฟ้องไปแล้ว ซึ่งทั้งประธานสหกรณ์และประธานแผนฟื้นฟู
ก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันแล้วว่า ไม่พบหลักฐานว่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
นำเงินออกไปจากสหกรณ์ ก็เท่ากับเสียเวลาเปล่าอยู่ดี


 ดังนั้น ไม่ว่าพิจารณาจากมุมไหน หากดีเอสไอยังดึงดันที่จะใช้คำร้องขอนายธรรมนูญ
ซึ่งไม่ใช่ตัวแทนสหกรณ์ ไม่ใช่ผู้บริหาร ไม่ใช่กรรมการฟื้นฟู เพื่อตั้งข้อหาฟอกเงินและรับของโจร
กับเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายให้ได้ นอกจากจะไม่ทำให้คดีสหกรณ์ดีขึ้นแล้ว 
ยังจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีกด้วย เพราะว่า
1. สหกรณ์จะยิ่งเสียชื่อเสียงที่ปล่อยให้มีผู้แอบอ้าง เป็นตัวแทนสหกรณ์ ลักลอบนำเอกสารการเงิน
ออกไปให้บุคคลภายนอก ซึ่งถือว่ากระทบกระเทือนต่อ ความน่าเชื่อถือของสภาบันการเงินอย่างร้ายแรง

2. เมื่อสหกรณ์ขาดความน่าเชื่อถือในเรื่องเอกสารการเงิน ผู้ที่ตั้งกองทุนเยียวยามาช่วยเหลือสหกรณ์ถึง 680 ล้าน ก็จะเกิดความไม่มั่นใจว่าสหกรณ์จะฟื้นฟูได้จริง ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ด้วยแล้ว
โอกาสที่จะไม่มีใครกล้าตั้งกองทุนเข้ามาช่วยเหลือเพิ่มขึ้นอีก ยิ่งเป็นไปได้ยาก การไม่สูญเสียกองทุนเยียวยาที่มีอยู่ คือแนวทางที่จะฟื้นฟูสหกรณ์ได้อย่างเป็นไปได้ที่สุด

3. เมื่อสหกรณ์ไม่มีกองทุนเยียวยาที่มากพอจะเป็นหลักประกัน ว่าไม่ล้มละลาย และสามารถฟื้นฟูกิจการกลับมาได้ ก็จะกระทบถึงความเชื่อมั่นของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะปล่อยเงินกู้ 10,000 ล้าน ให้กับสหกรณ์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

4. ในระหว่างที่คดีกำลังดำเนินอยู่นี้ ซึ่งอาจกินเวลานาน 10-20 ปี เมื่อสหกรณ์ไม่มีเงินหมุนเวียนให้เกิดสภาพคล่อง โอกาสที่จะประสบภาวะล้มละลายก่อนที่คดีจะสิ้นสุดก็เป็นไปได้สูง เพราะตอนนี้ผ่านไป 3 ปีแล้ว สหกรณ์ก็ยังไม่ได้เงินคืนเลยสักบาทเดียว

5. ในขณะที่ปลายทางของคดีนี้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย เงินบริจาคที่ได้มาก็ถูกใช้จ่ายไปกับการเป็นศาสนสมบัติไปหมดแล้ว ซึ่งไม่ว่าผลการตัดสินคดีในอีกกี่สิบปีข้างหน้าจะออกมาอย่างไรก็ตาม แต่ตามกฎหมายแล้ว ไม่สามารถยึดทรัพย์สินที่เป็นศาสนสถานได้ โดย ปปง. เพิ่งออกมายืนยันเรื่องนี้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้เอง

6. การที่ดีเอสไอจะดำเนินคดีข้อหาฟอกเงินและรับของโจร กับเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายให้ได้ ทั้งที่มีผู้ออกมายืนยัน ทั้ง 2 ทางแล้วว่า ทำไม่ได้ สาเหตุเพราะว่า
1) ทางสหกรณ์ก็ออกมายืนยันแล้วว่า ทำไม่ได้ เพราะไม่มีหลักฐานว่านำเงินออกไปจากสหกรณ์
2) ทางอัยการก็ออกมาปฏิเสธถึง 2 ครั้งว่า ทำไม่ได้ เพราะการฟ้องเกินหลักฐานเป็นความผิดร้ายแรง

 หากดีเอสไอยังจะดึงดันทำต่อไป สิ่งที่ทำนั้นก็จะย้อนกลับมา กลายเป็นหลักฐานมัดตัวแน่นหนาว่า
เจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด คือเป็นผู้ใช้อำนาจรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นการใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งจะไม่ใช่แค่มีผลต่อชีวิตราชการที่เหลืออยู่เท่านั้น
แต่จะกระทบกระเทือนต่อความเดือดร้อน ของสมาชิกสหกรณ์ 53,000 คน และความน่าเชื่อถือ 
ที่มีต่อกระบวนการยุติธรรมของประชาชนค่อนประเทศ

 ปธ.สหกรณ์ ยืนยันออกสื่อเองแบบนี้ ไม่รู้ว่าดีเอสไอยังจะกล้าเอาชื่อเสียง ที่สั่งสมมาทั้งชีวิตไปเสี่ยงกับมาตรา 157 หรือไม่

4 ความคิดเห็น

  1. ขอปรบมือให้ประธานสหกรณ์คลองจั่นที่ออกมาประกาศความจริง ความบริสุทธิ์ใจต่อสังคม ขอบคุณที่ท่านมีใจเป็นธรรมต่อพระผู้บริสุทธิ์รูปหนึ่งที่พยายามปกป้องพระพุทธศาสนาด้วยชีวิต

    ตอบลบ
  2. ขอปรบมือให้ประธานสหกรณ์คลองจั่นที่ออกมาประกาศความจริง ความบริสุทธิ์ใจต่อสังคม ขอบคุณที่ท่านมีใจเป็นธรรมต่อพระผู้บริสุทธิ์รูปหนึ่งที่พยายามปกป้องพระพุทธศาสนาด้วยชีวิต

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณมากๆครับ ขี้แจงได้แจ่มแจ้งมากครับ

    ตอบลบ
  4. ขอบคุณมากๆครับ ขี้แจงได้แจ่มแจ้งมากครับ

    ตอบลบ