แผนดับ”รอยร้าว”รัฐบาลกับ “พระ”
แม้จะมีความพยายามสงวนท่าทีเมื่อมีการเสนอย้าย พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ออกจาก “พศ.”
ไปอยู่จุดเดียวที่ นายพนม ศรศิลป์ ประสบ
ไปอยู่จุดเดียวที่ นายพนม ศรศิลป์ ประสบ
แต่เมื่อมีการโยก นายมานัส ทารัตน์ใจ จากกระทรวงวัฒนธรรม เข้ามาอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธ ศาสนาแห่งชาติ(พศ.)
ก็มีความจำเป็นต้อง “อธิบาย”
“มีเสียงตอบรับที่ดีจากมหาเถรสมาคม เชื่อว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาการทำงานกับคณะสงฆ์ซ้ำอีก”
เป็นแถลงยืนยันจาก นายออมสิน ชีวะพฤกษ์
นี่เท่ากับแสดงและแจ้งยืนยันความจำเป็นต้องย้าย พ.ต.ท. พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ออกจากพศ.
ต้องยอมรับว่า การนำ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ เข้ามาอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการพศ.เมื่อเดือนมีนาคม 2559
1 เป็นการเหาะมาโดย”มาตรา 44″
ขณะเดียวกัน 1 เป็นการเหาะมาตาม”แนวทาง”ของดีเอสไอและกระทรวงยุติธรรม
เพื่อจัดการกับ”ธรรมกาย”ให้ราบคาบ
ผลก็คือ ไม่เพียงแต่ยังไม่สามารถจัดการกับ”วัดพระธรรมกาย”ได้ตามเป้าหมาย
หากแต่แรงสะเทือนคือ สภาวะปั่นป่วน
นั่นก็คือ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)แทนที่จะสนองและรับใช้การของมหาเถรสมาคม(มส.) กลับพยายามจะเข้าไปควบคุม กำกับ
“ปฎิกิริยา” จาก “พระเถระ” ผู้อาวุโสจึงบังเกิด
แทนที่จะเป็นการ “ประสานงาน” กลับกลายเป็น “ประสานงา”
ไม่ต้องรอให้”มือใหม่“หัดขับอย่าง นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ อ่านออก มือระดับ”พระกาฬ”อย่าง นายวิษณุ เครืองาม ตีแตกทะลุปรุโปร่งตั้งแต่ 4-5 เดือนหลัง
การครั้งนี้จึง”ลงมือ”ด้วยตนเอง
การคัดเลือกและโอนย้าย นายมานัส ทารัตน์ใจ จากอธิบดีกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม มาเป็นผู้อำนวยการพศ.จึงเกิดขึ้น
เพื่อดับ”รอยร้าว”ระหว่างรัฐบาลกับ”พระ”
ไม่มีความคิดเห็น