รายได้ของรัฐมาจากการเก็บภาษีประชาชน ถ้าประชาชนมีรายได้ดีก็มีเงินจ่าย
ถ้าบริหารถูกหลักการ ประชาชนรวย รัฐบาลรวย ประเทศรวย !!!
หลายคนยังมองปัญหาเศรษฐกิจในประเทศลาเวนเดอร์ไม่ออก ทั้งๆ ที่แค่นำจิ๊กซอว์มาเรียงต่อกัน ก็จะเห็นสภาพความจริง
หลักการคือ รายได้ของรัฐมาจากการเก็บภาษีประชาชน ถ้าประชาชนมีรายได้ดีก็มีเงินจ่ายภาษีมาก รัฐก็มีรายได้มาเลี้ยงระบบราชการ และทำโครงการรัฐสวัสดิการมาดูแลประชาชน
ถ้าบริหารถูกหลักการ ประชาชนรวย รัฐบาลรวย ประเทศรวย
ถ้าบริหารผิดหลักการ ประชาชนเจ๊ง รัฐบาลเจ๊ง ประเทศเจ๊ง
ถ้าบริหารผิดหลักการ ประชาชนเจ๊ง รัฐบาลเจ๊ง ประเทศเจ๊ง
แต่ปัญหาในปัจจุบันคือ
1. ประชาชนมีรายได้น้อยลง แถมคนตกงานสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 4.5 แสนคน โรงงานก็ทยอยปิดตัวลง เลิกจ้างคนงาน ไม่มีเงินจ่ายภาษี ประชาชนอยู่ได้ด้วยเงินเก็บก้อนสุดท้าย
2. การส่งออกต่างประเทศ รายได้ไม่ดี ติดลบขาดดุลทุกเดือน
3. บริษัทเอกชนต่างประเทศไม่กล้ามาลงทุน เพราะกลัวโดน ม.44 (เอาไว้มาช้อนซื้อถูกๆ ตอนเจ๊งไปแล้วดีกว่า)
4. บริษัทเอกชนในประเทศย้ายฐานการลงทุนไปประเทศอื่น เพราะเสี่ยงน้อยกว่า
5. ยางพาราราคาตก ไม่ได้คุณภาพ เพราะสวนยางภาคใต้น้ำท่วม 5 แสนไร่
6. ข้าวใหม่ไม่มีน้ำปลูก ส่วนข้าวในโกดังขายหมดแล้ว (เน่าๆ ก็ขายได้) เท่ากับไม่มีข้าวส่งออก
7. ถ้าฤดูกาลใหม่ ข้าวยังไม่มีน้ำปลูก พืชไร่อื่นๆ ไม่ต้องพูดถึง ภาคการเกษตรลำบาก
8. รัฐบาลขึ้นภาษีสินค้าเกษตร เช่น น้ำตาล ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการทำผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ ทำให้ต้นทุนผลิตสูง สินค้าจะราคาแพงขึ้น
9. ถ้าน้ำมันขึ้นราคาอีก ต้นทุนการผลิตก็สูงขึ้นอีก สินค้าแพงขึ้นอีก
10. ค่าครองชีพสูงแต่ไม่มีเงินซื้อ ต้องไปกู้ยืม หนี้ครัวเรือนเพิ่ม หนี้เสียในธนาคารเพิ่ม
11. คลังดึงเงินกองทุนคนพิการและกองทุนอื่นๆ กลับสู่ส่วนกลาง เพื่อมาแก้ปัญหาใช้จ่ายงบประมาณขาดดุลรายเดือน
12. การใช้กฎหมายที่ทำลายการลงทุนทางเศรษฐกิจ
เช่น กรณีโรงงานไฟฟ้าพลังลม ที่เอกชนเสียหายไป 90,000 ล้าน
เพราะภาครัฐใช้กฎหมายทำลายการลงทุน (ตอนแรกอนุญาตให้เขาทำได้ ตอนหลังมาสั่งยกเลิกห้ามทำ เขาเสียหายไป 90,000 ล้าน ใครรับผิดชอบ)
เช่น กรณีโรงงานไฟฟ้าพลังลม ที่เอกชนเสียหายไป 90,000 ล้าน
เพราะภาครัฐใช้กฎหมายทำลายการลงทุน (ตอนแรกอนุญาตให้เขาทำได้ ตอนหลังมาสั่งยกเลิกห้ามทำ เขาเสียหายไป 90,000 ล้าน ใครรับผิดชอบ)
13. ธุรกิจขนาดเล็กทยอยปิดตัว ธุรกิจขนาดใหญ่ไล่ช้อนซื้อ ปลาใหญ่กินปลาเล็กไปเรื่อยๆ แบบปลาเล็กไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยอมขายเพื่อหาเงินใช้หนี้
การแก้ปัญหาเศรษฐกิจเวลานี้ ต้องแก้โจทย์ถึง 7 ระดับ
1. รายได้ส่วนบุคคล
2. รายได้เอกชน
3. รายได้รัฐ
4. งบดุลประเทศ
5. การสร้างโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ทั้งระบบ
6. มาตรฐานการใช้กฎหมายที่ไม่ทำลายการลงทุนเอกชน
7. การลดปัญหาอาชญากรรมในประเทศ
1. รายได้ส่วนบุคคล
2. รายได้เอกชน
3. รายได้รัฐ
4. งบดุลประเทศ
5. การสร้างโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ทั้งระบบ
6. มาตรฐานการใช้กฎหมายที่ไม่ทำลายการลงทุนเอกชน
7. การลดปัญหาอาชญากรรมในประเทศ
ถ้ายังมองเป็นจุดๆ ไม่มองภาพรวม แก้ปัญหาแบบเช้าช้อนเย็นช้อนเหมือนเดิม ถึงจะกู้เงินมากี่ล้านๆๆๆ บาท มันก็ยังเจ๊งไปทีละส่วนๆ อยู่ดี
ยิ่งกู้ ยิ่งแก้ ยิ่งเจ๊ง เพราะแก้ปัญหาไม่ตรงโจทย์ ที่สำคัญ หัวใจสำคัญของการแก้โจทย์ทั้ง 7 ระดับนี้
คือ "ความน่าเชื่อถือ" และต้องไม่ใช่ความเชื่อถือในระดับทั่วๆ ไป แต่ต้องเป็นความน่าเชื่อถือในระดับแม่เหล็กดึงดูดการลงทุน พอได้ยินชื่อปุ๊บ นักธุรกิจทั่วโลกก็แห่กันมาลงทุนทันที
คือ "ความน่าเชื่อถือ" และต้องไม่ใช่ความเชื่อถือในระดับทั่วๆ ไป แต่ต้องเป็นความน่าเชื่อถือในระดับแม่เหล็กดึงดูดการลงทุน พอได้ยินชื่อปุ๊บ นักธุรกิจทั่วโลกก็แห่กันมาลงทุนทันที
คำถามก็คือประเทศไทยมีความน่าเชื่อถือระดับนี้แล้วหรือยัง ถ้ายังไม่มี ถึงจะแก้รัฐธรรมนูญอีกกี่ครั้ง เลือกตั้งอีกกี่หน เปลี่ยนรัฐบาลอีกกี่คน มันก็แก้ปัญหาไม่ตรงโจทย์เหมือนเดิม
Cr : Ptt Cnkr
ไม่มีความคิดเห็น