ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

จงดูข่าวอย่างมีสติ อย่าฟังจบแล้วเชื่อทันที !! กรณีอดีตพระพรหมดิลก โอนที่ดินวัดเป็นของตัวเอง??

จงดูข่าวอย่างมีสติ อย่าฟังจบแล้วเชื่อทันที !! 
กรณีอดีตพระพรหมดิลก โอนที่ดินวัดเป็นของตัวเอง??




สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสามพระยาองค์ก่อน ท่านมรณภาพเมื่อปี 2539
ในข่าวบอกว่าเจ้าของที่ดินถวายให้แด่เจ้าอาวาสวัดสามพระยาองค์ก่อน ตรงนี้มีจุดคลุมเครือที่ข่าวไม่ได้บอกหลายอย่าง
1. เขาถวายเป็นที่ดินส่วนตัว ไม่ได้ถวายให้แก่วัดใช่หรือไม่
2. ถ้าเขาถวายเป็นที่ดินส่วนตัว ก็ถือเป็นทรัพย์สินส่วนตัว
ท่านจะโอนให้ใครก็ย่อมทำได้
3. การที่เจ้าอาวาสองค์ก่อนท่านโอนที่ดินให้เจ้าอาวาสที่รับช่วงหน้าที่ดูแลวัดสืบต่อจากท่าน ผู้โอนก็ไม่ได้มีความผิด ผู้ที่รับโอนก็ไม่ได้มีความผิดแต่อย่างใด เพราะเป็นที่ดินทรัพย์สินส่วนบุคคลที่โอนให้กันได้


ภาพประกอบ Google.com

4. เจตนารมณ์การนำไปใช้ ท่านไม่ได้แสดงถึงการยักยอก เพราะเมื่อรับโอนมาแล้ว ท่านก็นำไปใช้สร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ตั้งอยู่ที่ อ.พนัสนิคม จ. ชลบุรี ซึ่งก็เป็นไปตามเจตนารมณ์ของเจ้าอาวาสองค์ก่อน และไม่ได้ทำผิดเจตนารมณ์ของเจ้าของที่ดินเดิมที่ถวายมา นั่นแสดงว่าเป็นการถือครองในนามตัวแทนสงฆ์ของวัดนั้นในฐานะเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ในฐานะพระสังฆาธิการผู้บริหารวัด

5. บางท่านอาจสงสัยว่า ทำไมไม่โอนที่ดินบริจาคเป็นของวัดตั้งแต่แรก คำตอบคือเพราะการโอนที่ดินในจังหวัดชลบุรีมาเป็นที่ดินของวัดที่อยู่กรุงเทพนั้น จะทำให้เกิดเป็นวัดซ้อนวัด ซึ่งผิดพระวินัย ที่ดินที่โอนมานั้นจะกลายเป็นที่ธรณีสงฆ์ นำไปใช้สร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมตามเจตนารมณ์ของผู้ถวายที่ดินไม่ได้ และตรงนี้เองที่เป็นช่องว่างทางกฎหมายทำให้เจ้าอาวาสหลายวัดมักถูกกลั่นแกล้งด้วยข้อหายักยอกที่ดินวัดเป็นของส่วนตัว และเมื่อการพิจารณาคดีสิ้นสุด ศาลก็มักจะมีคำสั่งว่าให้โอนคืนที่ดินนั้นแก่วัด เจ้าอาวาสก็ต้องทำตาม และก็กลายเป็นว่าคำสั่งนั้นได้สร้างปัญหาวัดซ้่อนวัดทางพระวินัยขึ้นมาทันที

6. การติดตามข่าวสารนั้น ต้องฟังอย่างมีสติ ควรสังเกตข้อมูลที่ข่าวไม่ได้บอกด้วย โดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นปมสำคัญของเรื่องที่ข่าวมักบอกไม่หมด ดั่งเช่นกรณีนี้ที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่มีโอกาสได้ต่อสู้พิสูจน์ความจริงเลยแม้แต่คำเดียว ขณะที่อีกฝ่ายตั้งข้อหารายวันได้ตามใจชอบ

7. รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 29 วรรคสอง ได้ระบุว่า "ในคดีอาญาให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษา อันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้" แต่สิ่งที่เราได้เห็นในขณะนี้คือ ผิดถูกยังไม่ได้พิสูจน์ แต่ท่านถูกจับสึกไปแล้ว เหมือนประหารชีวิตจากความเป็นพระสงฆ์ก่อนตัดสินคดีไปแล้ว

Cr : Ptt Cnkr

1 ความคิดเห็น