"ยถา วาริวหา ปูราปาริปูเรนฺติ สาครํ เอวเมว อิโต ทินฺนํ เปตานํ อุปกปฺปติ อิจฺฉิตํ ปตฺถิตํ ตุมฺหํ ขิปฺปเมว สมิชฺฌตุ
สพฺเพ ปูเรนฺตุ สงฺกปฺปา จนฺโท ปณฺณรโส ยถา มณิ โชติรโส ยถา"
แปลเป็นไทย คือ
“ห้วงน้ำที่เต็มย่อมยังสาครให้บริบูรณ์ได้ฉันใด ทานที่ท่านอุทิศให้แล้วแต่โลกนี้ย่อมสำเร็จประโยชน์แก่ผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้วฉันนั้น
ขออิฐผลที่ท่านปรารถนาแล้ว ตั้งใจแล้ว จงสำเร็จโดยฉับพลัน ขอความดำริทั้งปวง จงบริบูรณ์ เหมือนดังพระจันทร์วันเพ็ญ (และ) เหมือนแก้วมณีอันสว่างไสว”
**พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระเจ้าพิมพิสาร ปรารภการถวายทานอุทิศแก่ญาติผู้ที่ล่วงลับไปแล้วที่ไปเกิดเป็นเปรต**
**พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแก่พระเจ้าพิมพิสาร ปรารภการถวายทานอุทิศแก่ญาติผู้ที่ล่วงลับไปแล้วที่ไปเกิดเป็นเปรต**
ติโรกุฑฑสูตร (พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ ๒๗๗)
Cr ; Pinrat Nut Kansaard
ไม่มีความคิดเห็น