ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

การนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ไม่เต้นไปตามเสียงเชียร์ของเด็กเลี้ยงแกะ ที่วิ่งพล่านออกสื่อโน้นสื่อนี้ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดต่อทุกฝ่ายในขณะนี้ !!!


การนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ไม่เต้นไปตามเสียงเชียร์ของเด็กเลี้ยงแกะ
ที่วิ่งพล่านออกสื่อโน้นสื่อนี้ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดต่อทุกฝ่ายในขณะนี้ !!!



  ประตู 7 เปิดมาแล้ว 6 วัน
นอกจากคนในวัดไม่ยอมออก คนนอกวัดยังทยอยเข้ามาเพิ่มมากกว่าเดิมอีกด้วย เป็นตัวชี้วัดได้อย่างหนึ่งว่า ปฏิบัติการมวลชนของสำนักข่าว ไม่มีผลต่อศรัทธาอันเหนียวแน่นของชาววัดแม้แต่น้อย
ข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือ หลังจากดีเอสไอยุติการค้นหาในวัดแล้ว ได้มีการสร้างปฏิบัติการมวลชนระลอกใหม่เกิดขึ้นมา มีการทุ่มประเด็นข่าวสารไปเรื่องการเล่นหุ้น ซึ่งมุ่งเป้าที่การทำลายชื่อเสียงของกลุ่มผู้บริหารวัดเป็นสำคัญ
 แน่นอนว่า การเปิดประเด็นนี้ ย่อมทำให้สังคมกลับมาสนใจวัดพระธรรมกายอีกครั้ง เพราะเป็นการเปิดประตูไปสู่การตั้งคดีใหม่ขึ้นมาตรวจสอบระบบการเงินวัด ตั้งแต่ว่า
1. ได้เงินมาอย่างไร
2. นำไปใช้อย่างไร
3. มีการทำผิดกฎหมายหรือไม่
4. มีพิรุธใดน่าสงสัยหรือไม่
 เพื่อนำไปสู่การหาช่องทางกฎหมายที่จะใช้ตั้งข้อหากับผู้บริหารวัด เพื่อนำไปสู่ข้ออ้างในการแช่แข็งระบบการเงินของวัด และเพื่อขยายผลไปเป็นข้ออ้างในการแช่แข็งระบบเงินของลูกศิษย์ระดับมหาเศรษฐีของวัดต่อไป ซึ่งแต่ละคนล้วนเกี่ยวข้องกับการค้ำจุนระบบเศรษฐกิจทั้งระดับใหญ่ ระดับกลาง และระดับย่อยของประเทศนี้




 การขยับตัวของปฏิบัติการมวลชนรอบนี้ เป้าหมายคงไม่ใช่แค่วัดพระธรรมกายเท่านั้น แต่อาจมีเป้าหมายในระดับที่ใหญ่กว่านั้น ซึ่งไม่รู้ว่าเป้าหมายนั้นเป็นอะไร ชวนให้น่าสงสัยว่า เป้าหมายจริงๆ อยู่ที่ไหนกันแน่ และใครจะได้ประโยชน์สูงสุดจากเรื่องนี้
หากฝ่ายใดไม่นิ่งสงบ ก้าวพลาดไปเป็นหมากบนกระดานของผู้อยู่เบื้องหลัง ก็มีสิทธิ์พังทั้งกระดาน ผลสุดท้ายก็จะกลายเป็นถูกหลอกให้มาทะเลาะกันเอง เช่นเดียวกับสถานการณ์ปิดล้อม 23 วัน ที่ผ่านมา ซึ่งก็ปรากฏว่าเป็นการถูกหลอกให้ใช้ ม.44 จากการชี้เบาะแสที่ไม่มีมูลความจริง

 ในสถานการณ์ที่คลุมเครือเช่นนี้ สิ่งที่ทุกฝ่ายควรทำอย่างยิ่ง ก็คือต้องนิ่งสงบเพียงอย่างเดียว วัดพระธรรมกายต้องนิ่งสงบด้วยการสวดบทธรรมจักร

 รัฐบาลต้องสงบนิ่งด้วยการภาวนา "สัมมาอะระหัง" ถึงจะรอดพ้นจากการถูกหลอกให้มาทะเลาะกันเอง จากการชี้เบาะแสที่ไม่มีมูลความจริงรอบนี้ไปได้
 คนเรานั้นถูกหลอกครั้งแรกคือทำพลาด ครั้งที่สองคือทำผิด ครั้งที่สามคือความโง่ แต่ถ้าสี่ครั้งขึ้นไปคือความชั่ว อย่าตกเป็นเครื่องมือของเด็กเลี้ยงแกะที่ชี้เบาะแสไม่มีมูลอีกต่อไปเลย
ที่สำคัญคือ ไม่ว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้และในอนาคตจะเป็นอย่างไร คำตอบที่ได้จากการเปิดประตู 7 มา 5 วันนั้นชัดเจนอยู่แล้วว่า
1. ศรัทธาของชาววัดนั้นนับวันมีแต่กลมเกลียวเหนียวแน่นเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ไม่มีทางลดลงอย่างแน่นอน




2. ศรัทธาของชาววัดนั้นหนักแน่นยิ่งกว่าคำโกหกของเด็กเลี้ยงแกะที่ชอบชี้เบาะแสไม่มีมูลอย่างแน่นอน
  การนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ไม่เต้นไปตามเสียงเชียร์ของเด็กเลี้ยงแกะที่วิ่งพล่านออกสื่อโน้นสื่อนี้ จึงเป็นการดีที่สุดต่อทุกฝ่ายในบ้านเมืองขณะนี้

Cr : Ptt Cnkr

ไม่มีความคิดเห็น