ศรัทธาเกิดจากอะไรกันแน่ ?!
ลองคิดดูว่า ถ้าวันหนึ่งคนไทยส่วนใหญ่รู้สึกว่าคำสอนของมหายานน่าศรัทธากว่าคำสอนเถรวาท เขาก็เปลี่ยนศรัทธาจากพุทธนิกายหนึ่งไปอีกนิกายหนึ่งอยู่ดี หรือหากรู้สึกว่าคำสอนในศาสนาอื่นน่าศรัทธากว่าพระพุทธศาสนา เขาก็เปลี่ยนจากนับถือพุทธไปนับถือศาสนาอื่นอยู่ดี และต่อให้ใช้อำนาจรัฐเขียนกฎหมายบังคับกันอย่างไร ก็บังคับศรัทธาไม่ได้อยู่ดี นี่คือความจริง
คำถามจึงมีอยู่ว่าศรัทธาเกิดจากอะไรกันแน่
คำถามจึงมีอยู่ว่าศรัทธาเกิดจากอะไรกันแน่
1. เกิดจากกฎหมายบังคับ ?
2. เกิดจากการใช้อำนาจข่มขู่ ?
3. เกิดจากทำลายวัดพระธรรมกายให้จบสิ้น ?
4. เกิดจากโฆษณาตนเองแบบยกตนข่มท่าน ?
2. เกิดจากการใช้อำนาจข่มขู่ ?
3. เกิดจากทำลายวัดพระธรรมกายให้จบสิ้น ?
4. เกิดจากโฆษณาตนเองแบบยกตนข่มท่าน ?
คำตอบคือศรัทธาไม่ได้เกิดจากการบังคับหรือการทำลายสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้ล่มสลายไป แต่ศรัทธาเกิดจากการได้รับฟังธรรมที่นำไปสู่ปัญญาที่ใช้ดับทุกข์ของบุคคลแต่ละคนเป็นสำคัญ
มุมมองของคนที่เข้า วัดพระธรรมกาย
น่าคิดนะ! ผลวิจัยไม่เห็นมีใครเดือดร้อน! 95% มีสติ สบายใจ ได้หลักธรรมในการใช้ชีวิต
พูดง่ายๆ ก็คือ ปัญญาที่ได้รับจากการฟังธรรมแล้วนำกลับมาใช้แก้ปัญหาชีวิตได้จริง นั่นแหละคือบ่อเกิดของศรัทธา
ถ้าคำสอนที่ประชาชนได้รับ เป็นความคิดอันคับแคบ มิอาจแก้ปัญหาที่ประสบอยู่ในชีวิตของเขาได้ หรือไม่สามารถนำไปใช้ฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคมากมายในชีวิตของคฤหัสถ์ได้ เขาก็ไม่ศรัทธา ไม่น้อมรับคำสอนนั้น หรือเลิกศรัทธา เปลี่ยนเป็นไม่นับถือศาสนาใดเลยก็เป็นได้
ปัญหาเรื่องการสร้างศรัทธา จึงไม่ได้อยู่แค่ว่าสอนผิดหรือสอนถูกเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับว่า สอนถูกแล้วนำไปใช้ในชีวิตจริงได้หรือไม่ ถ้าสอนถูกแต่นำไปใช้ในชีวิตจริงไม่ได้ เขาก็ไม่ศรัทธาอยู่ดี
ไฟท์บังคับของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในยุคนี้ จึงอยู่ที่ว่า นอกจากการสอนให้ถูกต้องตามมรรคมีองค์ 8 แล้ว ยังต้องสอนให้โดนใจอีกด้วย นั่นคือ
ฟังง่าย
เข้าใจง่าย
ทำตามได้ง่าย
รู้สึกจิตใจสบาย และที่สำคัญคือต้องเข้าถึงปัญหาโดยสามารถนำไปแก้ปัญหาชีวิตอย่างได้ผลจริงอีกด้วย
ฟังง่าย
เข้าใจง่าย
ทำตามได้ง่าย
รู้สึกจิตใจสบาย และที่สำคัญคือต้องเข้าถึงปัญหาโดยสามารถนำไปแก้ปัญหาชีวิตอย่างได้ผลจริงอีกด้วย
Cr : Ptt Cnkr
ไม่มีความคิดเห็น