พระพุทธเจ้าคือใคร?
1. เชิงศาสนาเปรียบเทียบ พระพุทธเจ้าหมายถึงศาสดาผู้ก่อตั้งพระพุทธศาสนา
2. ชาวพุทธหรือชาวโลกทั่วไป พระพุทธเจ้าคือบุคคลที่ตรัสรู้ธรรมโดยชอบด้วยพระองค์เองและมีพระมหากรุณานำธรรมะที่ตรัสรู้มาสอนชาวโลกให้บรรลุธรรมพ้นทุกข์เช่นเดียวกับพระองค์ มีพยานตรัสรู้ธรรมมากมายเช่นพระอรหันต์
3. ชาวพุทธพันธุ์แท้ พระพุทธเจ้าคือบุคคลที่พัฒนาตัวเองได้สูงสุด มีพระคุณต่อชาวโลกมากที่สุดและเป็นที่พึ่งให้มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย
ชาวพุทธพันธ์แท้ต้องรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ละเอียดลึกซึ้ง
1. ฐานะแรก พระองค์เป็นมนุษย์ธรรมดาที่พัฒนาตัวเองจนสูงสุด กลายเป็นบุคคลต้นแบบที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก เป็นRole Modelของชาวโลกทั้งหลาย ถ้าเทียบกับปิรามิด ท่านเป็นยอดปิรามิด ที่พัฒนาตนเองไปครบถ้วนทุกด้านเลย ทั้งพุทธลักษณะทางกายภาพที่อยู่จุดสูงสุดจนมีลักษณะของมหาบุรุษ 32 ประการและองค์ประกอบย่อยที่เรียกว่า อนุพยัญชนะ 80 ประการ
พระองค์มีสติปัญญาเป็นเลิศ เป็นสัพพัญญุตญาณ ท่านรู้หมดเลยในความรู้ทั้งปวงในโลกที่สะสมกันมา ในพระไตรปิฎกมีบันทึก เช่นวิชาดาราศาสตร์ อนันตจักรวาล ขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ วิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบร้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่พระองค์ค้นพบมา สองพันกว่าปี หรือความรู้เรื่องชีววิทยาการแพทย์ เกี่ยวกับมนุษย์ในครรภ์ ความรู้ที่พระพุทธองค์รู้เท่ากับใบไม้ทั้งป่า แต่ที่ท่านนำมาสอนสรรพสัตว์เท่ากับใบไม้ในกำมือ เพราะมนุษย์มีเวลาจำกัด พระองค์เลือกมาสอนเฉพาะการสร้างบุญสร้างบารมี พระองค์รู้มาหมดแล้วทั้งความรู้ ที่พระองค์เรียนมาก่อนออกบวช ในฐานะกษัตริย์ ได้รับการเรียนรู้มากที่สุดในยุคนั้น เป็นโปรเฟสเซอร์ 18 สาขา ในเวลา 7 วัน
2. ฐานะที่สอง พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระคุณต่อชาวโลกมากที่สุด ประเด็นนี้จะเข้าใจดีถ้าเข้าใจธรรมชาติของชีวิตว่ามนุษย์เวียนว่ายในวัฏฏะในทุกข์ไม่จบไม่สิ้น โลกนี้ถูกขับเคลื่อนหมุนเวียนไปด้วยอวิชชา วิบากกรรมส่งผลก็เวียนว่ายตายเกิด นั่นไม่ใช่ความสุข เพียงแต่บางครั้งคลายทุกข์บ้าง มนุษย์ส่วนใหญ่ยังไม่เคยเจอความสุขที่แท้จริง
สุขที่แท้จริงคือ “นัตถิ สันติ ปะรัง สุขัง” สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี
ถ้าใจยังไม่หยุดไม่นิ่ง ไม่เคยปฏิบัติจะไม่เจอความสุขที่แท้จริง ถ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่บังเกิดขึ้นก็ไม่มีใครชี้ทาง ก่อนตรัสรู้พระองค์ใช้เวลายาวนานมากในสร้างบุญสร้างบารมี
คนเราถ้าดูแลตัวเองและเลี้ยงคนในครอบครัวได้ก็ถือว่าดีระดับหนึ่ง แต่ถ้าใจใหญ่ขึ้น อยากดูแลเลี้ยงดูคนทั้งหมู่บ้านถือว่าหายากมาก เป็นคนดีมาก เพราะในหมู่บ้านมีทั้งคนชอบ คนไม่ชอบ มากมาย แต่ถ้ามีใจใหญ่อยากช่วยเหลือดูแลคนขนาดนั้นได้ถือว่าสุดยอด ใครอยากช่วยคนทั้งประเทศ ทั้งโลก ยิ่งหายากไปอีกในประวัติศาสตร์ไม่เคยเจอ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่อยากช่วยเพียงคนในครอบครัว ในหมู่บ้าน หรือในโลก
พระองค์อยากช่วยสรรพสัตว์ทั้งหมดในภพสาม วิธีการที่พระองค์ใช้ในการช่วย ต้องเสียสละมากมาย ทั้งเสียสละทรัพย์ เสียสละอวัยวะ และเสียสละชีวิต เพื่อให้ได้บุญบารมีมา ตรัสรู้ธรรม
เมื่อเราศึกษาพุทธประวัติ พระองค์ยอมสละชีวิตเพื่อให้ได้ตรัสรู้ธรรม เพื่อมาดำรงฐานะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อชี้ทางสว่างให้ชาวโลก ถ้าเราลองนึกเปรียบเทียบกับตัวเรา ถ้าเรานึกสละชีวิตเพื่อช่วยคนในครอบครัวเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ หากเสียสละชีวิตเพื่อช่วยคนข้างบ้านถือว่าทำได้ยาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงมีพระคุณต่อชาวโลก
3. ฐานะที่สาม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งให้มนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายเช่นคำสอนของพระองค์ช่วยให้พ้นทุกข์ได้ ถ้ามีทุกข์ แล้วมีธรรมมะ ก็แก้ไขปัญหานั้นได้ ลึกลงไปในรายละเอียด ถ้าเรามีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ เป็นพุทธานุสติ บุญก็เกิดขึ้น เพราะท่านเป็นแหล่งแห่งบุญ พอใจเราจรดนึกถึงท่าน เป็นท่อธารแห่งบุญจดที่ศูนย์กลางกาย ถ้ามีบุญมาก อุปสรรค์น้อย ถ้ามีบุญน้อย อุปสรรคมาก ถ้าบุญเกิด ความสว่างภายในเกิด ทำให้เกิดปัญญา ระยะยาวคือข้ามชาติ ถ้าไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มนุษย์จะไม่รู้ทางออกจากทุกข์ ช่วงที่ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นช่วงมืดบอด ต้องอาศัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งให้เรารู้ธรรมะ เป็นที่พึ่งที่ระลึกต้านภัยทั้งปวงให้เราได้
ในหนังมีSuperman Batman นั่นฮีโร่ของเด็กๆที่ฝันให้มากู้ภัยในโลกนี้ แต่เราเป็นชาวพุทธพันธ์แท้ เป็นนักสร้างบารมี ต้องมีพระพุทธเจ้าเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ Cr; พระวีรชัย วีรชโย
โครงการพระไตรปิฎกศึกษา(ชั้นตรี)
ผู้สรุปเนื้อหา : Praphasiri
Infographic designed by #เพจการบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น