เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่คบหาดูใจนั้นเป็นคนดี หนังสือ"รักเป็นจะเห็นใจ" (พระมหาดร.สมชาย ฐานวุฑโฒ) เป็นหนังสือเรื่องของการใช้ชี...
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่คบหาดูใจนั้นเป็นคนดี
หนังสือ"รักเป็นจะเห็นใจ"
(พระมหาดร.สมชาย ฐานวุฑโฒ)
เป็นหนังสือเรื่องของการใช้ชีวิตและเราจำเป็นจะต้องรู้หลักในการเลือกคู่ครอง และประคองชีวิตคู่ให้อยู่ด้วยกันอย่างผาสุกตลอดรอดฝั่ง.. มีหลักธรรมที่น่าปฏิบัติตาม เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขไม่ใช่เฉพาะชีวิตคู่เท่านั้น
"อยู่กับความแตกต่างอย่างลงตัว"
ต้องเข้าใจก่อนว่า ไม่มีใครบนโลกนี้ที่เหมือนกันไปหมด จึงมีความจำเป็นที่เราต้องศึกษาความแตกต่างเพื่อเราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ
"สาเหตุที่มนุษย์มีความแตกต่างกัน"
*พันธุกรรม
*สิ่งแวดล้อม
*เพื่อน
*สื่อ
*ศาสนา
ทั้งหมดจะมีอิทธิพลต่อการสร้างความคิดความเชื่อและค่านิยมรวมถึงมุมมองการใช้ชีวิตทำให้เกิดความแตกต่างกันของแต่ละคน
"เราควรหาวิธีอยู่ร่วมกันอย่างสันติ"โดยเริ่มจาก
**9 ข้อสร้างความพอดี** ดังต่อไปนี้
(1) หยุดมองหาความไม่ดีในผู้อื่น ถ้าเรามัวแต่ค้นหาความไม่ดีหรือมัวแต่จะจับผิดผู้อื่นจะทำให้เรามีทัศนคติไม่ดีต่อคนอื่นรอบตัว
(2) ปรับความคิดเห็นของตนเอง ความแตกต่างไม่ใช่ความผิด แต่ละคนย่อมแตกต่างกันจึงเป็นที่มาของคำว่านานาจิตตัง จะบังคับให้ทุกคนชอบอะไรเหมือนๆกันเป็นไปไม่ได้
(3)ให้อภัยและลืมให้เร็ว เราอยู่ในสังคมใหญ่บางครั้งอันนี้ใครเผลอทำผิดพลาดไปบ้างเพราะฉะนั้นเราต้องรู้จักให้อภัยกัน บางคนทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดออกไปมีเหตุผลของตัวเองอาจจะไม่ใช่ความผิดร้ายแรง เมื่อเราเข้าใจเหตุผลที่เขาทำลงไปแล้วเราก็จะให้อภัยเขาได้ง่ายขึ้น
และที่สำคัญต้องหมั่นเอาขยะในใจเราทิ้งไปด้วย
(4)ไม่พิพากษาผู้อื่น ไม่ควรตัดสินว่าคนนั้นคนนี้เป็นแบบนั้นแบบนี้หรือวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานาเพราะจะทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติและเข้าข้างกัน
(5) รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เราควรปรับทัศนคติของตนเองโดยเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นเพื่อลดบรรยากาศของความขัดแย้งลง
(6)ถอดบทบาทหน้าที่ของเราลงก่อน จะทำให้เรามีมุมมองที่กว้างขึ้น มองเหตุการณ์เรื่องราวจากจุดยืนที่ต่างออกไป ทำให้เข้าใจตนเองและแก้ปัญหาได้ดีกว่า
(7)ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชนะเสมอไป แทนที่เราจะมุ่งเอาชนะกันควรหันหน้ามาเจรจาร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เรื่องราวปัญหาต่างๆก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นโดยไม่ให้เกิดความสูญเสีย
คนเราจะทะเลาะเบาะแว้งด้วยกันเรื่องเล็กๆ.. เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว เมื่อต่างฝ่ายมุ่งจะเอาชนะทางวิวาทะกันครั้งใด.. คนเสียหายเกิดขึ้นมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ เราจะพ่ายแพ้ในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขทุกครั้งไป
(8)ไม่พยายามหาแพะรับบาป หรือโยนความผิดให้กับผู้อื่นเพราะผู้ที่ถูกกล่าวหาย่อมเกิดความไม่สบายใจและนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งกัน
บางคนแก้ปัญหาด้วยการยอมรับผิดตัวเอง เพื่อแสดงความเป็นสุภาพบุรุษแล้วจึงเสนอแนะแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป ทำให้บรรยากาศที่คลายลงได้
(9)ไม่จำเป็นต้องหาบทสรุปสำหรับทุกเรื่อง บางเรื่องไม่จบลงง่ายๆ แต่ละคนมีมุมมองของความคิดที่แตกต่างกันไป ถ้าเรายอมรับสิ่งนั้นได้.. ก็ไม่จำเป็นต้องหาบทสรุปสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้เราอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
"หลักการอยู่ร่วมกันด้วยความผาสุก"
พระพุทธเจ้าทรงให้ไว้แล้วใน
(*)สาราณียธรรม(*)มีทั้งหมด 6 ข้อ คือ
1 กายกรรมประกอบด้วยเมตตา
2 วจีกรรมประกอบด้วยเมตตา
3 มโนกรรมประกอบด้วยเมตตา
4 แบ่งปันลาภด้วยความยุติธรรม
5 มีศีลเสมอกันโดยมีกฎกติกาในการอยู่ร่วมกันชัดเจน
6.มีทิฐิเสมอกันคือมีความคิดเห็นมีเป้าหมายและอุดมการณ์ตรงกัน
หากปฏิบัติได้ครบทั้ง 6 ข้อแม้พื้นฐานเดิมแต่ละคนจะมีความหลากหลายแตกต่างกันไปแต่หมู่คณะนั้นจะอยู่ร่วมกันได้ด้วยความผาสุกเกิดความเจริญก้าวหน้าต่อไป
ความรู้สึกที่ได้อ่าน
(1)เข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง.. ว่าเราต่างกัน.. ทำให้เรายอมรับความแตกต่างและพยายามหาความเหมือนกันเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
(2)ถ้าเราเปลี่ยนใครไม่ได้.. ก็จงเปลี่ยนตัวเอง.. ทำตัวเองให้ดีขึ้น.. พยายามใฝ่รู้.ฝึกเรียนรู้และพัฒนาตัวเองเสมอ
(3)การให้อภัยกันเป็นสิ่งที่ต้องมีมากๆ..และอยู่ด้วยความเข้าใจกันและกัน.. ก็จะลดความขัดแย้งกันได้
(4)การตักเตือนกันเป็นศิลปะขั้นสูงทีเดียว คนที่กล้าเตือนและคนที่สามารถยอมรับคำตักเตือนจัดว่าเป็นคนจิตใจยกระดับขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้
#ยิ่งอ่านยิ่งรู้จริง
#ยิ่งหยุดนิ่งยิ่งรู้แจ้ง
ตอนที่2
"ตั้งสติก่อนรักเกิด"
คนเราถ้ารักกันแล้วตกลงปลงใจแต่งงานไป เมื่อเวลาผ่านไปนิสัยของเขาและของเราก็จะปรากฏออกมาชัดทั้งด้านดีและด้านเสียทำให้บางคู่มีชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลวจนต้องแยกทางกันไปในที่สุด
"เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่คบหาดูใจนั้นเป็นคนดี"
หลักๆให้เราดูคนที่ความคิดคำพูดและการกระทำของเขา สังเกตจากสีหน้าท่าทางอากาศกิริยาและคำพูดที่แสดงออกมาเราก็จะรู้และดูออกชอบว่าร้ายตำหนิ นินทาคนอื่นมั้ย.
เป็นคนมีความเคารพกฎระเบียบวินัยมั้ย
แต่อย่าคิดเข้าข้างตนเองเพราะถ้าเรามีใจชอบเขาก็อาจจะเอนเอียงเข้าข้างเขาก็ได้
บางทีเรารู้ประวัติเขาเค้าอาจจะเป็นคนที่ไม่ค่อยดีมาก่อน แต่คิดเข้าข้างตนเองว่ามันเป็นอดีต พอมาเจอเราเค้าต้องดีกับเราแน่นอนเขาสามารถเปลี่ยนตัวเองได้. เพราะเราถ้าคิดอย่างนี้มีโอกาสน้ำตาเช็ดหัวเข่าสูงมากเพราะเผลอไปคิดเข้าข้างตัวเอง.
คนเราจะให้เปลี่ยนปุบปับไม่ใช่เรื่องง่ายต้องให้เขาพิสูจน์ตนเองได้จริงๆดูให้ดีๆ ก่อน
"อย่าคิดไปเองว่าเราเป็นคนดีเยี่ยมที่สุดจนเขาต้องเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อเรา"
ด้านการเงิน
"ให้ดูที่เหตุแห่งการมีทรัพย์ ยิ่งกว่าทรัพย์ที่มี"
หัวใจสำคัญคือ มีความรู้มีความสามารถ ขยันขันแข็ง รับผิดชอบครอบครัวและต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข (ไม่ดื่มน้ำเมา ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ดูการละเล่น ไม่เล่นการพนัน ไม่คบคนชั่ว. ไม่เกียจคร้านการทำงาน)ถ้ามีคุณสมบัติครบตามนี้ถือว่าเป็นคนที่ไว้ใจได้
"การทดลองอยู่ก่อนแต่ง ดีมั้ย..
หลายคนคิดว่าการทดลองอยู่กินกันก่อนแต่งงานเป็นการศึกษานิสัยใจคอของกันและกัน
ความคิดแบบนี้เสี่ยงมาก มันไม่เหมือนกับเราเอาเสื้อมาลองใส่ แต่การลองอยู่ด้วยกัน มันคือทั้งชีวิตของเราเหมือนเราอยากรู้ว่า งูตัวนี้มีพิษหรือไม่จึงลองใช้วิธีให้มันกัดซึ่งมันเสี่ยงเกินไป. เพราะถ้าหากเราไปเจองูเห่างูจงอาง มีโอกาสตายทีเดียว
ดังนั้นอย่าไปเสี่ยง ยิ่งถ้าเราเป็นผู้หญิงเกิดพลาดตั้งท้องขึ้นมา เราเองก็เสียหาย. ให้เรารู้จักรักนวลสงวนตัวแล้วก็คัดเลือกคนดีๆ ดูให้ดีๆก่อนถ้าทำอย่างนี้ได้เราจะมีคุณค่าในตนเองสูงขึ้น
"อะไรทำให้เราพบกัน"
ความรักเกิดขึ้นด้วยเหตุสองประการคือ
1.ในอดีตเคยเป็นคู่กันมาเรียกว่าบุพเพสันนิวาส
2.มีการอุปถัมภ์เกื้อกูลกันในชาติปัจจุบัน
เหมือนดอกบัวที่จะเติบโตขึ้นต้องอาศัยเปลือกตมและน้ำ
"ข้อคิดสำคัญ"
แม้จะแต่งงานเป็นสามีภรรยามีลูกกันแล้ว รักกันมากแค่ไหนก็ตาม
เราไม่ควรอธิฐานว่า
"ขอให้เกิดมาเป็นสามีภรรยากันทุกชาติไป"
เพราะมันเสี่ยงเกินไป
คนเราครองคู่กัน แต่บางทีบุญบาปต่างกัน ทำบุญมาไม่เท่ากัน บางชาติคู่เราอาจจะเผลอไปทำอะไรไม่ดีไว้ แต่เราทำดีมาตลอด ชาติต่อไปเราเกิดเป็นคน เค้าอาจจะเกิดไปเป็นสัตว์
เหมือนพระนางมัลลิกา
มเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศลไปเจอสุนัขสุนัขในห้องน้ำยอมให้สุนัขสมสู่เพราะเคยเป็นสามีเก่าในอดีต แล้วอธิษฐานทำนองนี้ไว้
ถ้าอธิฐานว่าขอให้เป็นกัลยาณมิตรกัน อย่างนี้ก็พอรับได้ ไม่ว่าจะเกิดมาอยู่ในสภาวะใดก็ยังเกื้อกูลกันได้
"ข้อคิดสำหรับผู้ที่คิดจะแต่งงาน"
แต่งงาน มี 2คำ รวมกัน
แต่ง แปลว่า ทำให้สวยทำให้ดูดี
งาน คือ ภาระในการครองคู่ งานสร้างบารมี
อย่าคิดว่าเราสองคนแต่งงานใช้ชีวิตด้วยกันแล้วจะเป็นคู่รักเหมือนในละคร เอาอกเอาใจกันไปตลอดชีวิต
ให้มองว่าเวลาที่เราดูใคร อย่าไปดูที่เค้าดูดี เค้าหล่อ เค้าสวย เค้าปากหวาน
แต่ให้เราดูว่าเขามีคุณธรรมความดีในตัวแค่ไหน สามารถรับผิดชอบครอบครัวได้หรือไม่ พอจะเป็นพ่อของลูกเราได้ไหม
ส่วนฝ่ายชายก็ให้ดูว่าผู้หญิงคนนี้เหมาะที่จะเป็นแม่ของลูกเราได้ไหมจะดูแลลูก ดูแลครอบครัวเราได้ดีหรือไม่ และเตือนตัวเองว่าชีวิตการครองเรือนมีภาระมากมาย คนเรารับผิดชอบตนเองก็หนักหนาอยู่แล้ว แม้แต่ตัวเรายังขัดใจตัวเราเองเลย การจะทำให้คนอื่นถูกใจเราทั้งหมดเป็นไปไม่ได้
และคนเรายังไม่หมดกิเลสมันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา บางคนประพฤติดีมาตลอดกลับมาเสียคนตอนอายุมากเพราะแอบเหงามีบ้านเล็กบ้านน้อยก็มี
เมื่อใดที่เรามีชีวิตการครองเรือนพึงเตรียมใจรับความผิดหวังเพราะคนเรายังไม่หมดกิเลส
ดังนั้นถ้าไม่อยากทุกข์ เศร้าหรือผิดหวังให้ตัดใจอย่าให้เกิดความรักแต่ต้นดีที่สุด
หากพิจารณาแล้วว่าชีวิตหลังแต่งงานนั้นวุ่นวายจะแก้ปัญหาโดยการไม่มีคู่ครองหรือประพฤติพรหมจรรย์ถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพราะสามารถทำให้เรามีอิสระ มีเวลาทำกิจอะไรก็ได้อย่างเต็มที่
"หากเป็นผู้ชายก็ให้มาบวชช่วยกันศึกษาธรรมะปฎิบัติธรรมและเผยแพร่ธรรมมะนั้นดีที่สุด"
คำว่า สมรส
เป็นภาษาบาลี
สม แปลว่า เสมอกัน
รส คือ รสนิยมความชอบ
ดังนั้น สมรส หมายถึง คนที่มีรสนิยมหรือความชอบเสมอกัน
มาอยู่ด้วยกันถึงจะยั่งยืนและอยู่รอด
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าชีวิตคู่จะอยู่ร่วมกันได้ดีถ้าเสมอกัน
4 ข้อคือ
1.ศรัทธาเสมอกันในพระพุทธศาสนาคือรักบุญกลัวบาปเหมือนกันในทางโลกคือมีความเห็นเรื่องต่างๆใกล้เคียงกัน
2.ศีลเสมอกันไม่เฉพาะศีล5 ศีล8เท่านั้นแต่รวมถึงกิริยามารยาทต่างๆ
ถ้าได้รับการฝึกมาดีเสมอกันอยู่ด้วยกันแล้วก็จะเกิดความสบายใจด้วยกัน
3.มีความเสียสละเสมอกัน ชีวิตคู่ต้องมีน้ำใจ ใจกว้างและใจบุญเหมือนกัน
4.มีปัญญาเสมอกัน เป็นคู่คิด คู่ชีวิตมีเรื่องอะไรสามารถช่วยเหลือปรึกษาหารือกันได้
ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา
หากคู่ชีวิตมี4 ข้อนี้เสมอกัน
ชีวิตสมรสก็จะราบรื่น
โชคดีที่รู้ก่อนแต่ง
ปัญหาก่อนแต่งงาน
การเลือกคู่ครองเองนั้นขึ้นอยู่กับความพอใจ
ตอนที่เรากำลังชอบกันใหม่ๆข้อเสียของเขาหากจะไม่อยู่ก็จะถูกมองข้ามไปแต่พอแต่งงานกันแล้วปัญหาหลายกรณีก็จะปะทุขึ้น
"ท้องก่อนแต่ง"
ปัญหาเรื่องการตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานพบได้บ่อยมาก จะมีวิธีป้องกันหรือหักห้ามใจอย่างไร
พ่อแม่ควรตั้งใจเลือกสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับลูกถ้าสิ่งแวดล้อม หรือหอพักแยกชายหญิง คนเรายังไม่หมดกิเลสก็มีโอกาสทำผิดได้มาก แต่ถ้าเราป้องกันไว้ก่อนจะมีส่วนช่วยได้มาก อย่าไว้ใจแม้แต่ตัวเราเอง
โบราณท่านสอนไว้ว่าเป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวไม่ให้เพศตรงข้ามมาถูกเนื้อถูกตัวได้เลย
"มองโลกให้เห็นตามความเป็นจริง"
บทเรียนจากผู้อื่น ตั้งแต่ตอนที่ชอบกันทุกอย่างสดใส. พอเวลาผ่านไปความจริงปรากฏจะเริ่ม เปลี่ยนแปลงผิดหวัง บ้างเลิกรากันบ้าง ความรักที่รักกันสุดชีวิตผ่านไปไม่นาน ผู้ชายบางคนเริ่มมีบ้านเล็กบ้านน้อย มีปัญหาหย่าร้างดังนั้นเราต้องคิดทบทวนมีสติ อย่าหลงรักจนขาดสติ
"คบเผื่อเลือก"
บางคู่ที่รักใครชอบพอกันแต่ยังคบคนอื่นไว้เผื่อเรื่องอย่างนี้ไม่ถูกต้องถ้าใครมีพฤติกรรมมีแฟนหลายคนไว้เผื่อเลือกให้เราโบกมืออำลาเค้าเสีย เพราะขนาดช่วงที่คบกัน ยังไม่ทันแต่งงานกันยังเป็นแบบนี้ พอแต่งงานกันไปแล้วจะยิ่งไปกันใหญ่
หาคนที่ซื่อตรงและรักเดียวใจเดียวดีกว่า
"รักแท้แพ้ใกล้ชิด"
แม้ว่าเราไม่ได้ตั้งใจนอกใจคู่รักของเราแต่สถานการณ์พาไปมันจะค่อยค่อยเลยเถิดไปเรื่อยโดยที่เราอาจจะไม่อยากให้เป็นแบบนั้นก็ตามดีที่สุดคือการตัดไฟแต่ต้นลมอย่าให้เกิดกรณีอย่างนี้
"เช็คโทรศัพท์มือถือเขาหรือควบคุมตนเองดี"
ในแง่ตัวเราต้องมีความซื่อสัตย์ต่อคู่ครองของเรา
เพราะฉะนั้นการไปติดต่อกับคนอื่นในเชิงชู้สาวนั้นควรหลีกเลี่ยง ถ้าอีกฝ่ายรู้ก็จะกระทบกระเทือนนั้นใจกันและเราควรให้เกียรติไม่คอยตามเช็คเรื่องส่วนตัวของเขาเหมือนว่าตัวเองเป็นสายลับเราควรพวกคนเป็นเองแหละให้เกียรติอีกฝ่ายหนึ่งด้วยถ้าทั้งสองฝ่ายทำได้อย่างนี้ความรักก็จะราบรื่น
"รักเดียวใจเดียวหรือ จะอยู่คนเดียวดี"
ถ้าเลือกแล้วก็ขอให้อยู่เป็นคู่บุญคู่บารมี. อยู่ร่วมกันด้วยความผาสุก
ชักชวนกันทำความดี ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา. ให้กำลังใจและสนับสนุนส่งเสริมกันอย่างนี้จึงจะเรียกว่าเป็นคู่บุญคู่บารมีกันจริงๆ
แต่ถ้าใครคิดแล้วว่าการมีคู่ครองนั้นท่าจะยาก เสี่ยงเกินไป ผ่านไปกี่รายก็มีปัญหาก็เลือกที่จะอยู่เป็นโสดดีกว่า สบายใจดี มีชีวิตเป็นอิสระไม่ต้องห่วงว่าแก่เข้าไปจะไม่มีใครดูแล
หรือถึงคนที่มีลูกแล้วจริงๆพอถึงคราวแก่เฒ่า ลูกหลานก็ไม่ได้มาดูแลอะไรมากบางทีมีลูก ไปมีครอบครัวแล้วยังเอาหลานกลับมาให้พ่อแม่เลี้ยงดูอีก
ถ้าเรามีการบริหารจัดการชีวิตตนเองไว้ดีแล้วถึงคราวเราอายุมากขึ้นก็จะมีคนมาดูแลเราได้
"ในเรื่องการคบหาดูใจก่อนแต่งงานนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ศีลข้อ3 คือการยับยั้งชั่งใจ ให้เราหมั่นฝึกฝนอบรมตนเอง"
ความรู้สึกที่ได้จากการอ่าน
1.โชคดีที่เราได้ใช้ ชีวิตประพฤติพรหมจรรย์.. ซึ่งเป็นชีวิตที่ดีที่สุด เพราะว่ามีอิสระในการใช้ชีวิต..สร้างบุญบารมีให้กับตัวเองได้อย่างเต็มที่
ไม่มีภาระ ชีวิตการครองเรือนเป็นชีวิตที่คับแคบ เป็นชีวิตที่มีความสุขน้อย มีความทุกข์มาก...
2.หนังสือเล่มนี้จะเป็นหนังสือที่มีประโยชน์ในการเลือกคู่ครองได้ดีค่ะ
Cr;Pinrat Nut Boonsirirasamikul
ไม่มีความคิดเห็น