ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

รักเป็นจะเห็นใจ

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่คบหาดูใจนั้นเป็นคนดี หนังสือ"รักเป็นจะเห็นใจ" (พระมหาดร.สมชาย ฐานวุฑโฒ)​
เป็นหนังสือเรื่องของการใช้ชีวิตและเราจำเป็นจะต้องรู้หลักในการเลือกคู่ครอง และประคองชีวิตคู่ให้อยู่ด้วยกันอย่างผาสุกตลอดรอดฝั่ง.. มีหลักธรรมที่น่าปฏิบัติตาม เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขไม่ใช่เฉพาะชีวิตคู่เท่านั้น "อยู่กับความแตกต่างอย่างลงตัว" ต้องเข้าใจก่อนว่า ไม่มีใครบนโลกนี้ที่เหมือนกันไปหมด จึงมีความจำเป็นที่เราต้องศึกษาความแตกต่างเพื่อเราจะได้อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ "สาเหตุที่มนุษย์มีความแตกต่างกัน" *พันธุกรรม *สิ่งแวดล้อม *เพื่อน *สื่อ *ศาสนา ทั้งหมดจะมีอิทธิพลต่อการสร้างความคิดความเชื่อและค่านิยมรวมถึงมุมมองการใช้ชีวิตทำให้เกิดความแตกต่างกันของแต่ละคน "เราควรหาวิธีอยู่ร่วมกันอย่างสันติ"โดยเริ่มจาก **9​ ข้อสร้างความพอดี** ดังต่อไปนี้ (1) หยุดมองหาความไม่ดีในผู้อื่น ถ้าเรามัวแต่ค้นหาความไม่ดีหรือมัวแต่จะจับผิดผู้อื่นจะทำให้เรามีทัศนคติไม่ดีต่อคนอื่นรอบตัว (2) ปรับความคิดเห็นของตนเอง ความแตกต่างไม่ใช่ความผิด แต่ละคนย่อมแตกต่างกันจึงเป็นที่มาของคำว่านานาจิตตัง จะบังคับให้ทุกคนชอบอะไรเหมือนๆกันเป็นไปไม่ได้ (3)ให้อภัยและลืมให้เร็ว เราอยู่ในสังคมใหญ่บางครั้งอันนี้ใครเผลอทำผิดพลาดไปบ้างเพราะฉะนั้นเราต้องรู้จักให้อภัยกัน บางคนทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดออกไปมีเหตุผลของตัวเองอาจจะไม่ใช่ความผิดร้ายแรง เมื่อเราเข้าใจเหตุผลที่เขาทำลงไปแล้วเราก็จะให้อภัยเขาได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญต้องหมั่นเอาขยะในใจเราทิ้งไปด้วย (4)ไม่พิพากษาผู้อื่น ไม่ควรตัดสินว่าคนนั้นคนนี้เป็นแบบนั้นแบบนี้หรือวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานาเพราะจะทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติและเข้าข้างกัน (5) รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เราควรปรับทัศนคติของตนเองโดยเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นเพื่อลดบรรยากาศของความขัดแย้งลง (6)ถอดบทบาทหน้าที่ของเราลงก่อน จะทำให้เรามีมุมมองที่กว้างขึ้น มองเหตุการณ์เรื่องราวจากจุดยืนที่ต่างออกไป ทำให้เข้าใจตนเองและแก้ปัญหาได้ดีกว่า (7)ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชนะเสมอไป แทนที่เราจะมุ่งเอาชนะกันควรหันหน้ามาเจรจาร่วมมือกันแก้ไขปัญหา เรื่องราวปัญหาต่างๆก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นโดยไม่ให้เกิดความสูญเสีย คนเราจะทะเลาะเบาะแว้งด้วยกันเรื่องเล็กๆ.. เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว เมื่อต่างฝ่ายมุ่งจะเอาชนะทางวิวาทะกันครั้งใด.. คนเสียหายเกิดขึ้นมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ เราจะพ่ายแพ้ในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขทุกครั้งไป (8)ไม่พยายามหาแพะรับบาป หรือโยนความผิดให้กับผู้อื่นเพราะผู้ที่ถูกกล่าวหาย่อมเกิดความไม่สบายใจและนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งกัน บางคนแก้ปัญหาด้วยการยอมรับผิดตัวเอง เพื่อแสดงความเป็นสุภาพบุรุษแล้วจึงเสนอแนะแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป ทำให้บรรยากาศที่คลายลงได้ (9)ไม่จำเป็นต้องหาบทสรุปสำหรับทุกเรื่อง บางเรื่องไม่จบลงง่ายๆ แต่ละคนมีมุมมองของความคิดที่แตกต่างกันไป ถ้าเรายอมรับสิ่งนั้นได้.. ก็ไม่จำเป็นต้องหาบทสรุปสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้เราอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
"หลักการอยู่ร่วมกันด้วยความผาสุก" พระพุทธเจ้าทรงให้ไว้แล้วใน (*)สาราณียธรรม(*)มีทั้งหมด 6 ข้อ คือ 1 กายกรรมประกอบด้วยเมตตา 2 วจีกรรมประกอบด้วยเมตตา 3 มโนกรรมประกอบด้วยเมตตา 4 แบ่งปันลาภด้วยความยุติธรรม 5 มีศีลเสมอกันโดยมีกฎกติกาในการอยู่ร่วมกันชัดเจน 6.มีทิฐิเสมอกันคือมีความคิดเห็นมีเป้าหมายและอุดมการณ์ตรงกัน หากปฏิบัติได้ครบทั้ง 6 ข้อแม้พื้นฐานเดิมแต่ละคนจะมีความหลากหลายแตกต่างกันไปแต่หมู่คณะนั้นจะอยู่ร่วมกันได้ด้วยความผาสุกเกิดความเจริญก้าวหน้าต่อไป ความรู้สึกที่ได้อ่าน (1)เข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง.. ว่าเราต่างกัน.. ทำให้เรายอมรับความแตกต่างและพยายามหาความเหมือนกันเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข (2)ถ้าเราเปลี่ยนใครไม่ได้.. ก็จงเปลี่ยนตัวเอง.. ทำตัวเองให้ดีขึ้น.. พยายามใฝ่รู้.ฝึกเรียนรู้และพัฒนาตัวเองเสมอ (3)การให้อภัยกันเป็นสิ่งที่ต้องมีมากๆ..และอยู่ด้วยความเข้าใจกันและกัน.. ก็จะลดความขัดแย้งกันได้ (4)การตักเตือนกันเป็นศิลปะขั้นสูงทีเดียว คนที่กล้าเตือนและคนที่สามารถยอมรับคำตักเตือนจัดว่าเป็นคนจิตใจยกระดับขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ #ยิ่งอ่านยิ่งรู้จริง #ยิ่งหยุดนิ่งยิ่งรู้แจ้ง ตอนที่2 "ตั้งสติก่อนรักเกิด" คนเราถ้ารักกันแล้วตกลงปลงใจแต่งงานไป เมื่อเวลาผ่านไปนิสัยของเขาและของเราก็จะปรากฏออกมาชัดทั้งด้านดีและด้านเสียทำให้บางคู่มีชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลวจนต้องแยกทางกันไปในที่สุด "เราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่คบหาดูใจนั้นเป็นคนดี" หลักๆให้เราดูคนที่ความคิดคำพูดและการกระทำของเขา สังเกตจากสีหน้าท่าทางอากาศกิริยาและคำพูดที่แสดงออกมาเราก็จะรู้และดูออกชอบว่าร้ายตำหนิ นินทาคนอื่นมั้ย. เป็นคนมีความเคารพกฎระเบียบวินัยมั้ย แต่อย่าคิดเข้าข้างตนเองเพราะถ้าเรามีใจชอบเขาก็อาจจะเอนเอียงเข้าข้างเขาก็ได้ บางทีเรารู้ประวัติเขาเค้าอาจจะเป็นคนที่ไม่ค่อยดีมาก่อน แต่คิดเข้าข้างตนเองว่ามันเป็นอดีต พอมาเจอเราเค้าต้องดีกับเราแน่นอนเขาสามารถเปลี่ยนตัวเองได้. เพราะเราถ้าคิดอย่างนี้มีโอกาสน้ำตาเช็ดหัวเข่าสูงมากเพราะเผลอไปคิดเข้าข้างตัวเอง. คนเราจะให้เปลี่ยนปุบปับไม่ใช่เรื่องง่ายต้องให้เขาพิสูจน์ตนเองได้จริงๆดูให้ดีๆ ก่อน "อย่าคิดไปเองว่าเราเป็นคนดีเยี่ยมที่สุดจนเขาต้องเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อเรา" ด้านการเงิน "ให้ดูที่เหตุแห่งการมีทรัพย์ ยิ่งกว่าทรัพย์ที่มี" หัวใจสำคัญคือ มีความรู้มีความสามารถ ขยันขันแข็ง รับผิดชอบครอบครัวและต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข (ไม่ดื่มน้ำเมา ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ดูการละเล่น ไม่เล่นการพนัน ไม่คบคนชั่ว. ไม่เกียจคร้านการทำงาน)ถ้ามีคุณสมบัติครบตามนี้ถือว่าเป็นคนที่ไว้ใจได้ "การทดลองอยู่ก่อนแต่ง ดีมั้ย.. หลายคนคิดว่าการทดลองอยู่กินกันก่อนแต่งงานเป็นการศึกษานิสัยใจคอของกันและกัน ความคิดแบบนี้เสี่ยงมาก มันไม่เหมือนกับเราเอาเสื้อมาลองใส่ แต่การลองอยู่ด้วยกัน มันคือทั้งชีวิตของเราเหมือนเราอยากรู้ว่า งูตัวนี้มีพิษหรือไม่จึงลองใช้วิธีให้มันกัดซึ่งมันเสี่ยงเกินไป. เพราะถ้าหากเราไปเจองูเห่างูจงอาง มีโอกาสตายทีเดียว ดังนั้นอย่าไปเสี่ยง ยิ่งถ้าเราเป็นผู้หญิงเกิดพลาดตั้งท้องขึ้นมา เราเองก็เสียหาย. ให้เรารู้จักรักนวลสงวนตัวแล้วก็คัดเลือกคนดีๆ ดูให้ดีๆก่อนถ้าทำอย่างนี้ได้เราจะมีคุณค่าในตนเองสูงขึ้น "อะไรทำให้เราพบกัน" ความรักเกิดขึ้นด้วยเหตุสองประการคือ 1.ในอดีตเคยเป็นคู่กันมาเรียกว่าบุพเพสันนิวาส 2.มีการอุปถัมภ์เกื้อกูลกันในชาติปัจจุบัน เหมือนดอกบัวที่จะเติบโตขึ้นต้องอาศัยเปลือกตมและน้ำ "ข้อคิดสำคัญ" แม้จะแต่งงานเป็นสามีภรรยามีลูกกันแล้ว รักกันมากแค่ไหนก็ตาม เราไม่ควรอธิฐานว่า "ขอให้เกิดมาเป็นสามีภรรยากันทุกชาติไป" เพราะมันเสี่ยงเกินไป คนเราครองคู่กัน แต่บางทีบุญบาปต่างกัน ทำบุญมาไม่เท่ากัน บางชาติคู่เราอาจจะเผลอไปทำอะไรไม่ดีไว้ แต่เราทำดีมาตลอด ชาติต่อไปเราเกิดเป็นคน เค้าอาจจะเกิดไปเป็นสัตว์ เหมือนพระนางมัลลิกา มเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศลไปเจอสุนัขสุนัขในห้องน้ำยอมให้สุนัขสมสู่เพราะเคยเป็นสามีเก่าในอดีต แล้วอธิษฐานทำนองนี้ไว้ ถ้าอธิฐานว่าขอให้เป็นกัลยาณมิตรกัน อย่างนี้ก็พอรับได้ ไม่ว่าจะเกิดมาอยู่ในสภาวะใดก็ยังเกื้อกูลกันได้
"ข้อคิดสำหรับผู้ที่คิดจะแต่งงาน" แต่งงาน มี 2คำ รวมกัน แต่ง แปลว่า ทำให้สวยทำให้ดูดี งาน คือ ภาระในการครองคู่ งานสร้างบารมี อย่าคิดว่าเราสองคนแต่งงานใช้ชีวิตด้วยกันแล้วจะเป็นคู่รักเหมือนในละคร เอาอกเอาใจกันไปตลอดชีวิต ให้มองว่าเวลาที่เราดูใคร อย่าไปดูที่เค้าดูดี เค้าหล่อ เค้าสวย เค้าปากหวาน แต่ให้เราดูว่าเขามีคุณธรรมความดีในตัวแค่ไหน สามารถรับผิดชอบครอบครัวได้หรือไม่ พอจะเป็นพ่อของลูกเราได้ไหม ส่วนฝ่ายชายก็ให้ดูว่าผู้หญิงคนนี้เหมาะที่จะเป็นแม่ของลูกเราได้ไหมจะดูแลลูก ดูแลครอบครัวเราได้ดีหรือไม่ และเตือนตัวเองว่าชีวิตการครองเรือนมีภาระมากมาย คนเรารับผิดชอบตนเองก็หนักหนาอยู่แล้ว แม้แต่ตัวเรายังขัดใจตัวเราเองเลย การจะทำให้คนอื่นถูกใจเราทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ และคนเรายังไม่หมดกิเลสมันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา บางคนประพฤติดีมาตลอดกลับมาเสียคนตอนอายุมากเพราะแอบเหงามีบ้านเล็กบ้านน้อยก็มี เมื่อใดที่เรามีชีวิตการครองเรือนพึงเตรียมใจรับความผิดหวังเพราะคนเรายังไม่หมดกิเลส ดังนั้นถ้าไม่อยากทุกข์ เศร้าหรือผิดหวังให้ตัดใจอย่าให้เกิดความรักแต่ต้นดีที่สุด หากพิจารณาแล้วว่าชีวิตหลังแต่งงานนั้นวุ่นวายจะแก้ปัญหาโดยการไม่มีคู่ครองหรือประพฤติพรหมจรรย์ถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพราะสามารถทำให้เรามีอิสระ มีเวลาทำกิจอะไรก็ได้อย่างเต็มที่ "หากเป็นผู้ชายก็ให้มาบวชช่วยกันศึกษาธรรมะปฎิบัติธรรมและเผยแพร่ธรรมมะนั้นดีที่สุด" คำว่า สมรส เป็นภาษาบาลี สม แปลว่า เสมอกัน รส คือ รสนิยมความชอบ ดังนั้น สมรส หมายถึง คนที่มีรสนิยมหรือความชอบเสมอกัน มาอยู่ด้วยกันถึงจะยั่งยืนและอยู่รอด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าชีวิตคู่จะอยู่ร่วมกันได้ดีถ้าเสมอกัน 4 ข้อคือ 1.ศรัทธาเสมอกันในพระพุทธศาสนาคือรักบุญกลัวบาปเหมือนกันในทางโลกคือมีความเห็นเรื่องต่างๆใกล้เคียงกัน 2.ศีลเสมอกันไม่เฉพาะศีล5 ศีล8เท่านั้นแต่รวมถึงกิริยามารยาทต่างๆ ถ้าได้รับการฝึกมาดีเสมอกันอยู่ด้วยกันแล้วก็จะเกิดความสบายใจด้วยกัน 3.มีความเสียสละเสมอกัน ชีวิตคู่ต้องมีน้ำใจ ใจกว้างและใจบุญเหมือนกัน 4.มีปัญญาเสมอกัน เป็นคู่คิด คู่ชีวิตมีเรื่องอะไรสามารถช่วยเหลือปรึกษาหารือกันได้ ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา หากคู่ชีวิตมี4 ข้อนี้เสมอกัน ชีวิตสมรสก็จะราบรื่น โชคดีที่รู้ก่อนแต่ง ปัญหาก่อนแต่งงาน การเลือกคู่ครองเองนั้นขึ้นอยู่กับความพอใจ ตอนที่เรากำลังชอบกันใหม่ๆข้อเสียของเขาหากจะไม่อยู่ก็จะถูกมองข้ามไปแต่พอแต่งงานกันแล้วปัญหาหลายกรณีก็จะปะทุขึ้น "ท้องก่อนแต่ง" ปัญหาเรื่องการตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานพบได้บ่อยมาก จะมีวิธีป้องกันหรือหักห้ามใจอย่างไร พ่อแม่ควรตั้งใจเลือกสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับลูกถ้าสิ่งแวดล้อม หรือหอพักแยกชายหญิง คนเรายังไม่หมดกิเลสก็มีโอกาสทำผิดได้มาก แต่ถ้าเราป้องกันไว้ก่อนจะมีส่วนช่วยได้มาก อย่าไว้ใจแม้แต่ตัวเราเอง โบราณท่านสอนไว้ว่าเป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัวไม่ให้เพศตรงข้ามมาถูกเนื้อถูกตัวได้เลย "มองโลกให้เห็นตามความเป็นจริง" บทเรียนจากผู้อื่น ตั้งแต่ตอนที่ชอบกันทุกอย่างสดใส. พอเวลาผ่านไปความจริงปรากฏจะเริ่ม เปลี่ยนแปลงผิดหวัง บ้างเลิกรากันบ้าง ความรักที่รักกันสุดชีวิตผ่านไปไม่นาน ผู้ชายบางคนเริ่มมีบ้านเล็กบ้านน้อย มีปัญหาหย่าร้างดังนั้นเราต้องคิดทบทวนมีสติ อย่าหลงรักจนขาดสติ "คบเผื่อเลือก" บางคู่ที่รักใครชอบพอกันแต่ยังคบคนอื่นไว้เผื่อเรื่องอย่างนี้ไม่ถูกต้องถ้าใครมีพฤติกรรมมีแฟนหลายคนไว้เผื่อเลือกให้เราโบกมืออำลาเค้าเสีย เพราะขนาดช่วงที่คบกัน ยังไม่ทันแต่งงานกันยังเป็นแบบนี้ พอแต่งงานกันไปแล้วจะยิ่งไปกันใหญ่ หาคนที่ซื่อตรงและรักเดียวใจเดียวดีกว่า "รักแท้แพ้ใกล้ชิด" แม้ว่าเราไม่ได้ตั้งใจนอกใจคู่รักของเราแต่สถานการณ์พาไปมันจะค่อยค่อยเลยเถิดไปเรื่อยโดยที่เราอาจจะไม่อยากให้เป็นแบบนั้นก็ตามดีที่สุดคือการตัดไฟแต่ต้นลมอย่าให้เกิดกรณีอย่างนี้ "เช็คโทรศัพท์มือถือเขาหรือควบคุมตนเองดี" ในแง่ตัวเราต้องมีความซื่อสัตย์ต่อคู่ครองของเรา เพราะฉะนั้นการไปติดต่อกับคนอื่นในเชิงชู้สาวนั้นควรหลีกเลี่ยง ถ้าอีกฝ่ายรู้ก็จะกระทบกระเทือนนั้นใจกันและเราควรให้เกียรติไม่คอยตามเช็คเรื่องส่วนตัวของเขาเหมือนว่าตัวเองเป็นสายลับเราควรพวกคนเป็นเองแหละให้เกียรติอีกฝ่ายหนึ่งด้วยถ้าทั้งสองฝ่ายทำได้อย่างนี้ความรักก็จะราบรื่น "รักเดียวใจเดียวหรือ จะอยู่คนเดียวดี" ถ้าเลือกแล้วก็ขอให้อยู่เป็นคู่บุญคู่บารมี. อยู่ร่วมกันด้วยความผาสุก ชักชวนกันทำความดี ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา. ให้กำลังใจและสนับสนุนส่งเสริมกันอย่างนี้จึงจะเรียกว่าเป็นคู่บุญคู่บารมีกันจริงๆ แต่ถ้าใครคิดแล้วว่าการมีคู่ครองนั้นท่าจะยาก เสี่ยงเกินไป ผ่านไปกี่รายก็มีปัญหาก็เลือกที่จะอยู่เป็นโสดดีกว่า สบายใจดี มีชีวิตเป็นอิสระไม่ต้องห่วงว่าแก่เข้าไปจะไม่มีใครดูแล หรือถึงคนที่มีลูกแล้วจริงๆพอถึงคราวแก่เฒ่า ลูกหลานก็ไม่ได้มาดูแลอะไรมากบางทีมีลูก ไปมีครอบครัวแล้วยังเอาหลานกลับมาให้พ่อแม่เลี้ยงดูอีก ถ้าเรามีการบริหารจัดการชีวิตตนเองไว้ดีแล้วถึงคราวเราอายุมากขึ้นก็จะมีคนมาดูแลเราได้ "ในเรื่องการคบหาดูใจก่อนแต่งงานนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ศีลข้อ3 คือการยับยั้งชั่งใจ ให้เราหมั่นฝึกฝนอบรมตนเอง"
ความรู้สึกที่ได้จากการอ่าน 1.โชคดีที่เราได้ใช้ ชีวิตประพฤติพรหมจรรย์.. ซึ่งเป็นชีวิตที่ดีที่สุด เพราะว่ามีอิสระในการใช้ชีวิต..สร้างบุญบารมีให้กับตัวเองได้อย่างเต็มที่ ไม่มีภาระ ชีวิตการครองเรือนเป็นชีวิตที่คับแคบ เป็นชีวิตที่มีความสุขน้อย มีความทุกข์มาก... 2.หนังสือเล่มนี้จะเป็นหนังสือที่มีประโยชน์​ในการเลือก​คู่ครอง​ได้ดีค่ะ Cr;Pinrat Nut Boonsirirasamikul

ไม่มีความคิดเห็น