👩 พระนางผุสดีขอพร ๑๐ ประการ มีธรรมภาษิตใน เวสสันตรชาดก ว่า... ✨ "...ข้าพระพุทธเจ้าได้ทำการบูชาพระองค์ด้วยจุณแห่งแก่นจันทน์นี้ ขอให้...
👩 พระนางผุสดีขอพร ๑๐ ประการ มีธรรมภาษิตใน เวสสันตรชาดก ว่า...
✨ "...ข้าพระพุทธเจ้าได้ทำการบูชาพระองค์ด้วยจุณแห่งแก่นจันทน์นี้ ขอให้ข้าพระพุทธเจ้าได้เป็นมารดาของพระพุทธเจ้าผู้เช่นพระองค์ในอนาคตกาล..."
🙏 "การอธิษฐาน" เป็นหนึ่งในบารมีสิบทัศ ที่พระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลายให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
การอธิษฐาน เป็นประดุจหางเสือเรือ ที่คอยคัดท้ายนาวาชีวิตของเราให้ก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย
ฉะนั้นทุกครั้งที่ทำความดี ต้องหมั่น อธิษฐานทุก ๆ ครั้ง เป็นการตั้งผังแห่งความสำเร็จให้เกิดขึ้นกับชีวิต เมื่อถึงคราวบุญส่งผล เราย่อมจะสำเร็จสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ
การที่จะให้แรงอธิษฐานนั้นส่งผลสำเร็จ ต้องสั่งสมบุญไว้ให้มาก ๆ เหมือนภาษิตที่ได้ยกขึ้นมากล่าวข้างต้น เป็นคำอธิษฐานที่พระมารดาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ได้เคยทำบุญกับพระวิปัสสีพุทธเจ้า แล้วอธิษฐานขอให้ได้เป็นพุทธมารดาในอนาคตกาล
📜 เรื่องมีอยู่ว่า ในที่สุดแห่งกัปที่ ๙๑ นับแต่ภัทรกัปนี้ พระบรมศาสดาพระนามว่า วิปัสสี เสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระองค์ ทรงประทับอยู่ ณ เขมมฤคทายวัน ในพันธุมดีนคร ทรงมี พระราชาพระนามว่า พันธุมราชเป็นพุทธอุปัฏฐาก สมัยนั้นมีพระราชาพระองค์หนึ่งส่งสุวรรณมาลาราคา ๑๐๐,๐๐๐ กหาปณะ กับแก่นจันทน์อันมีค่ามากมาถวายแด่พระเจ้าพันธุมราช พระเจ้าพันธุมราชมีพระราชธิดา ๒ พระองค์ จึงได้ประทานแก่นจันทน์แก่พระธิดาองค์ใหญ่ และสุวรรณมาลาแก่พระธิดาองค์เล็ก
👩 ราชธิดาทั้งสองเป็นคนฉลาด แทนที่จะนำไปประดับประดาเหมือนสตรีทั่วไป กลับคิดจะนำเครื่องประดับนั้น ไปบูชาพระบรมศาสดา พระธิดาองค์ใหญ่ได้บดแก่นจันทน์จนละเอียดเป็นจุณ และบรรจุในผอบทองคำ ราชธิดาองค์เล็กให้ทำสุวรรณมาลาเป็นมาลาปิดทรวงอกบรรจุผอบทองคำ จากนั้นพากันถือดอก ไม้ของหอมเสด็จไปสู่วิหารพร้อมกับบริวาร พระธิดาองค์โตได้ทำการบูชาพุทธสรีระของพระพุทธเจ้า ซึ่งมีวรรณะดังทองคำด้วยจุณแก่นจันทน์ อีกทั้งทรงโปรยจุณแก่นจันทน์ที่เหลือในพระคันธกุฎี ทำให้มีกลิ่นหอมไปทั่วอาราม
👩🦰 ขณะพระธิดาองค์โตกำลังพิจารณาพระวรกายของพระพุทธเจ้า พระนางก็หวนระลึกถึงหญิงผู้เป็นมารดาของพระพุทธเจ้าว่า ต้องเป็นหญิงงามและได้ลักษณะเบญจกัลยาณียิ่งกว่าหญิงใดๆในโลกจึงมีบุญ ได้เป็นพระมารดาของบุคคลผู้เลิศ เมื่อดำริเช่นนั้น แม้จะไม่เคยเห็นพระมารดาของพระพุทธเจ้ามาก่อน แต่พระนางก็เชื่อมั่นว่าพระพุทธมารดาต้องเป็นยอดแห่งอิตถีรัตนะ จึงตั้งความปรารถนาว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ด้วยบุญที่หม่อมฉันได้บูชาพระองค์ด้วยจุณแห่งแก่นจันทน์นี้ ขอให้หม่อมฉันได้เป็นพุทธมารดา ผู้เช่นพระมารดาของพระองค์ ในอนาคตกาลด้วยเถิด”
👧 ส่วนราชธิดาองค์เล็กบูชาพระสรีระของพระ ทศพลด้วยสุวรรณมาลาซึ่งทำเป็นอาภรณ์เครื่องปิดทรวง ได้ตั้งปรารถนาว่า..."ขอเครื่องประดับนี้จงอย่าหายไปจากสรีระของข้าพระพุทธเจ้าจนตราบเท่าบรรลุพระอรหันต์"
🙏 พระบรมศาสดาทรงทำการอนุโมทนาแก่ราชธิดาทั้งสองนั้นว่า...
“เธอทั้งสองได้ประดิษฐานการบูชาอันใดแก่เราในภพนี้ วิบากแห่งการบูชานั้น จงสำเร็จแก่เธอทั้งสองตามความปรารถนาที่ตั้งไว้อย่างดีแล้วเถิด”
✨ ราชธิดาทั้งสองได้ฟังพุทธพยากรณ์เช่นนั้น บังเกิดมหาปีติท่วมท้น ต่างตั้งใจสั่งสมบุญอย่างเต็มที่เรื่อยมา ครั้นเคลื่อนจากมนุษยโลกได้ไปบังเกิดในเทวโลก จะกี่ภพกี่ชาติราชกุมารีองค์เล็กนั้นก็เป็นผู้พรั่งพร้อม ไปด้วยเครื่องประดับกายที่สวยสด งดงาม เป็นที่ดึงดูดตาดึงดูดใจของผู้ได้พบเห็นยิ่งนัก โดยเฉพาะ เมื่อเป็นเทพธิดา เครื่องประดับอันวิจิตรก็ติดกายนางตลอดเวลา
🙏 ครั้นมาในสมัยของพระ ทศพลพระนามว่า 'กัสสปะ' พระนางได้เกิดเป็นราชธิดาของพระราชาพระนามว่ากิกิ เมื่อเติบโตอายุได้ ๑๖ ชันษา เพียงได้ฟังภัตตานุโมทนาครั้งแรกจากพระตถาคตเจ้าเท่านั้น พระนางก็ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล ครั้นฟังครั้งที่สองก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ จึงออกผนวชเป็นภิกษุณี เพื่อประพฤติพรหมจรรย์จนตลอดอายุขัย จากนั้นก็ปรินิพพาน
👩🦰 ฝ่ายพระธิดาองค์ใหญ่ครั้นเคลื่อนจากเทวโลกได้ท่องเที่ยวอยู่ในมนุษยโลกพร้อมกับสร้างบารมีีเพื่อปรารถนา เป็นพระมารดาของพระพุทธเจ้า พระนางท่องเที่ยวอยู่ในสองภพภูมิเป็นเวลายาวนาน มาภพชาตินี้พระนางได้เป็นพุทธมารดามีพระนามว่า มหามายาเทวี สมดังความปรารถนาทุกประการ
✨ หากย้อนกลับไปเมื่อ ๓ ชาติที่แล้ว ของพระนางสิริมหามายาว่า ชาติที่แล้วพระนางเสวยทิพยสมบัติอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต ถอยไปอีกหนึ่งชาติ ได้เป็นอัครมเหสีของพระเจ้าสัญชัยในกรุงเชตุดร พระนามว่า ผุสดี ซึ่งก็คือ มารดาของพระเวสสันดรโพธิสัตว์นั่นเอง
✨ ถอยหลังก่อนหน้านั้นไปอีก หนึ่งชาติ พระนางได้เกิดเป็นอัครมเหสีของท้าวสักกเทวราช ชื่อว่าพระนางผุสดี วันหนึ่งพระองค์ทรงว่าพระนางจะต้องจุติแล้ว เพียงแต่พระนางยังไม่รู้ จึงพาพระนางไปชมสวนนันทวันอุทยาน พร้อมด้วยเทพบุตรเทพธิดามากมายที่มาคอยห้อมล้อม ท้าวสักกะจึงตรัสขึ้นว่า “แน่ะนางผุสดีผู้เจริญ เราจะให้พร ๑๐ ประการแก่เธอ เพราะบุญของเธอกำลังจะสิ้นลงแล้ว ฉะนั้นความตาย จึงใกล้เธอเข้ามาทุกขณะ เธอจักต้องพลัดพรากจากไป จงเลือกขอรับพร ๑๐ ประการ จากเราผู้จะให้ ณ บัดนี้เถิด”
🤍 พระนางผุสดีเทพกัญญา จึงทูลขอพรว่า...
ข้าแต่เทวราช ถ้าพระองค์จะประทานพรแก่ข้าพระบาทไซร้
ข้อที่ ๑. ขอให้ข้าพระบาทพึงได้เป็นอัครมเหสีของพระเจ้าแผ่นดินในกรุงสีพี
ข้อที่ ๒. ข้าพระบาทพึงเป็นผู้มีจักษุดำเหมือนตาลูกมฤคีซึ่งมีดวงตาดำ
ข้อที่ ๓. พึงมีขนคิ้วดำ
ข้อที่ ๔. พึงเกิดในพระราชนิเวศน์นั้นโดยนามเดิมว่าผุสดี
ข้อที่ ๕. พึงได้พระราชโอรสผู้ให้สิ่งอันเลิศ ประกอบความเกื้อกูลแก่ยาจก ไม่ตระหนี่ เป็นผู้ที่พระราชาทุุกประเทศบูชา มีเกียรติ มียศ
ข้อที่ ๖. เมื่อข้าพระบาททรงครรภ์ ขอให้อุทรราบเรียบ
ข้อที่ ๗. ถันทั้งคู่ของข้าพระบาทอย่าพึงหย่อนยานพึงเป็นปกติตราบกระทั่งชรา
ข้อที่ ๘. แม้แก่หง่อมแล้ว อย่าได้มีผมหงอก
ข้อที่ ๙. ขอให้มีผิวพรรณละเอียด ละอองธุลีอย่าได้ติดในกายได้
ข้อที่ ๑๐. คือ ขอให้ข้าพระบาทสามารถปล่อยนักโทษประหารได้
🌟 เมื่อท้าวสักกเทวราชได้สดับพร ๑๐ ประการที่นางปรารถนาทรงพิจารณาด้วยทิพยจักษุ เห็นว่าเป็นไปได้ ไม่เหลือวิสัยที่จะทำความปรารถนาของนางให้สำเร็จ จึงตรัสประทานพร และอนุโมทนากับนางด้วย ที่จะได้ลงไปสร้างบารมีในโลกมนุษย์
🙏🌟🙏🌟🙏🌟🙏🌟🙏🌟🙏🌟🙏🌟🙏🌟🙏🌟🙏🌟
📜 ข้อคิดที่ได้จากการฟังธรรมเรื่องนี้ 👍
- แรงอธิษฐานสำคัญมาก นอกจากอธิษฐานแล้ว ต้องหมั่นสั่งสมบุญอย่างสม่ำเสมอ เมื่อบุญบารมีเต็มเปี่ยม สิ่งที่อธิษฐานไว้ย่อมจะสำเร็จได้เป็นอัศจรรย์
- แม้เราถวายทานกับพระภิกษุสงฆ์ซึ่งเป็นสมมติสงฆ์ ซึ่งยังมีกิเลสอยู่ ขอให้เรานึกถวายทานนี้ แด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประมาณ โดยมีพระสงฆ์เป็นเสมือนสะพานบุญเชื่อม
- ส่วนใหญ่หมู่คณะของเราที่หลุดไปเกิดจากความน้อยใจน้อย เมื่อขาดการให้กำลังใจ ขาดคำชม คำทักทาย ดังนั้นจึงอย่าน้อยใจ
- จงสร้างกำลังใจของเราเองให้มากๆด้วยการนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม ให้เข้าถึงธรรมภายใน
สรุป Zoom ธรรมะพิเศษ
ตอน ที่สุดความปรารถนาของสตรี
โดย พระอาจาย์เอกพล สุขปาโล ศูนย์ปฏิบัติธรรมแก้วเมืองเลย
Zoom Link: www.แก้วเมืhttp://xn--72c8ci4a4g.com/zoom
Meeting ID: 85379009634
Passcode: 072
#ZOOM072
#สรุปZOOM072
ผู้สรุป : ทิพย์เทวา
Infographic designed by #เพจการบ้าน
ไม่มีความคิดเห็น