แถลงการณ์คดีพิเศษวันนี้ ชี้สื่อมั่วกับเรื่อง เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
งานนี้เชื่อมั่น..มีผู้หนุนหลังสื่อมวลชนหลายกลุ่ม
ความจริง : หลวงพ่อธัมมชโย อาพาธ, ท่านไม่มีความผิด,
ปี 2558 ท่านเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ทั้งให้ความร่วมมือ ให้เจ้าหน้าที่พบ และให้ข้อมูลไปหมดแล้ว
1.พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า:
“ โย ภิกขเว มํ อุปฏฐเหยย โส คิลานํ อุปฏฐเหยย ” " ผู้ใดปราถนาจะอุปปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงอุปัฏฐากภิกษุอาพาธเถิด " .... "การดูแล และอุปัฏฐากพระภิกษุไข้ (เจ็บไข้ได้ป่วย) อานิสงส์เท่ากับได้อุปัฏฐากเราตถาคต" .... ท่านสอนให้ดูแลภิกษุป่วย ไม่ใช่จับภิกษุป่วยไปบังคับขู่เข็ญ
“ โย ภิกขเว มํ อุปฏฐเหยย โส คิลานํ อุปฏฐเหยย ” " ผู้ใดปราถนาจะอุปปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงอุปัฏฐากภิกษุอาพาธเถิด " .... "การดูแล และอุปัฏฐากพระภิกษุไข้ (เจ็บไข้ได้ป่วย) อานิสงส์เท่ากับได้อุปัฏฐากเราตถาคต" .... ท่านสอนให้ดูแลภิกษุป่วย ไม่ใช่จับภิกษุป่วยไปบังคับขู่เข็ญ
2.ข่าวระบุตำแหน่ง หลวงพ่อธัมมชโย ว่าเป็นอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งไม่ใช่ ความจริงคือ หลวงพ่อธัมมชโย ยังดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสอยู่ เพียงแต่ช่วงที่อาพาธ จึงมอบหมายให้รูปอื่นดูแล แทน
3.สิทธิของผู้ป่วย ยอมได้รับความคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชนและสิทธิทางการแพทย์ โดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถมาบังคับ ข่มเหงจิตใจได้
4.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีเคส “ตับแตก – การตายของผู้ต้องหาในคุกของตนเอง และตอบสังคมไม่ได้”, “เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานไปรับเงินจากสหกรณ์ 40 ล้าน”, “ให้การเท็จกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณีกล้องวงจรปิด”, “รับรองให้วีซ่าแก่ผู้ที่พูดให้สังคมแตกแยก” , “ดูเหมือนอาจถูกครอบงำจากผู้ที่มีอำนาจ โดยมีการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผิดปกติ” ทำให้ไม่อาจไว้วางใจว่า หลวงพ่อธัมมชโย จะได้รับความเป็นธรรม เพราะหน่วยงานนั้น ล้มเหลวทางความน่าเชื่อถือไปแล้ว
5.กระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่อยู่แต่เฉพาะในศาล แต่เริ่มต้นตั้งแต่พนักงานสอบสวนแล้ว ซึ่งหลวงพ่อธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมาตั้งแต่เริ่มต้น ชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว และ ให้ความร่วมมือโดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
6.ด้านข้อมูล หลวงพ่อธัมมชโย ให้ความร่วมมือ ให้พบ ให้ข้อมูล กรณีสหกรณ์คลองจั่น จนครบถ้วนแล้ว ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ DSI ทั้งคณะมาพบท่านด้วยตัวเอง ตั้งแต่ปี 2558
7.ด้านเงินบริจาค ที่หลวงพ่อกับวัด ได้รับคาดว่าประมาณ 8% ของทั้งหมด ซึ่งลูกศิษย์ตั้งกองทุนเยียวยาและทะยอยมอบให้เกือบครบจำนวนแล้ว อีก 92% ที่เหลือทำไมไม่ไปตามหา ว่าอยู่ที่ไหน??? ทำไมมาจงใจไล่บี้ เล่นข่าวแต่กับวัดพระธรรมกาย เรารู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม
8.โครงการสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เริ่มมาตั้งแต่วันอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษา วันที่ 19 ก.ค. 2559 อย่ามาใส่ร้ายว่า เป็นเรื่องโล่มนุษย์หรือกำแพงมนุษย์ เพราะสวดมาได้ 9,000,000 กว่าจบแล้ว
9.เคสที่ 1 หมายสหกรณ์ 27/2559 ... พ.ศ. 2558 พบ DSI ให้ข้อมูลไปหมดแล้ว + เงินที่รับและไม่ทราบที่มา คณะศิษย์เยี่ยวยาแล้ว + ท่านอาพาธ จึงไปให้การไม่ได้
10.เคสที่ 2 เวิลด์พีช เขาใหญ่ ... ท่านเป็นประธาน มูลนิธิตะวันธรรม ซึ่งเจ้าของที่ดิน และมีผู้ดูแลรายละเอียดแทนอยู่แล้ว / ที่ดินมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง เพียงแต่การก่อสร้างบางส่วนอยู่ในที่นิคม ซึ่งเป็นของประชาชนที่นั้น ที่อนุญาตมูลนิธิคุณยายอาจารย์ฯ ใช้พื้นที่ก่อสร้างอาคารได้ / อาคารที่สร้าง เป็นอาคารที่ใช้ปฏิบัติธรรม ไม่ใชเพื่อการค้าหากำไรแต่อย่างใด // ที่สำคัญ !!! คือ คนแปรภาพถ่ายทางอากาศ (ที่มาประกอบการกล่าวหาที่ WPนั้น) ไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ เพราะทำความผิดร้ายแรง จากการทำข้อมูลเท็จแปรภาพถ่ายผิดจากความจริง เอาที่ป่าไม่ไปให้เอกชนโดยมิชอบทำให้รัฐเสียหาย
11.เคสที่ 3 ภูเรือ ... ยืนยันว่า ไม่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแน่นอน และคดีไม่ได้เกี่ยวกับวัดและหลวงพ่อ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลภูเรือ เป็นความผิดเกี่ยวกับการแปรรูปไม้ ... คดีถึงศาลแล้วถูกปรับและศาลสั่งรอลงอาญา
12. คำถามที่ว่า ไม่ผิด ทำไมไม่ไปมอบตัว เพื่อสู้กันในชั้นศาล .... คือ ท่านไม่มีความผิด ไม่จำเป็นต้องไป และที่ผ่านมา ก็ให้ความร่วมมือ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมมาตลอด ทั้งๆที่ไม่มีความจำเป็น แต่ก็ยังให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ด้วยการให้ข้อมูลตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
13.ที่ผ่านมา เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ที่ท่านถูกกล่าวหา แม้ว่าท่านไม่ผิด ท่านได้ไปศาลทุกนัด ให้ความร่วมมือด้วยดีมาตลอด จนกระทั่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง .... สำหรับในคราวนี้ แม้ว่าท่านจะไม่ผิด แต่ท่านอายุ 72 ปีแล้ว การที่จะให้ท่านเดินทางไปให้ถ้อยคำ ด้วยสภาพร่างกายไม่พร้อมเดินทาง ย่อมเป็นการฝืนสังขาร ทั้งที่ทางวัด ก็พร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง
14.ทางออกในเรื่องนี้ คือ ยกเลิกหมายจับ และให้เจ้าหน้าที่ เข้ามาอย่างมิตร ข้อมูลเพิ่มเติมที่ต้องการ เท่านั้นก็ จบ !
ไม่มีความคิดเห็น