การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไม่ใช่ปัญหา
ปัญหาคือเมื่อเข้าไปแล้วจะได้รับความยุติธรรมหรือไม่
การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือเมื่อเข้าไปแล้วจะได้รับความยุติธรรมหรือไม่ เพราะเพียงการปฏิบัติในตอนเริ่มต้นเข้ากระบวนการ ประชาชนก็รู้สึกว่าไม่ยุติธรรมเสียแล้ว ที่ผ่านมาประชาชนรู้สึกว่า มีการใช้อำนาจการเมืองชี้นำ
การใช้กฎหมายให้บิดเบี้ยวหลายขั้นตอน เช่น การมาแจ้งข้อหาที่วัดไม่ได้ แต่ไปแจ้งในคุกได้ เป็นต้น ซึ่งส่อไปในทางไม่ได้รับความเป็นธรรมมาตั้งแต่ต้น เลยกลายเป็นความไม่ไว้วางใจกันขึ้นมา
โดยสังเกตได้จากจากวิธีการแจ้งข้อหา การออกหมายเรียก การออกหมายจับในขั้นตอนการสอบสวนไม่ถูกต้อง ไม่น่าไว้ใจ ไม่คุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ทุกขั้นตอนดำเนินไปตามการชี้นำของนักการเมืองบางกลุ่ม เช่น การให้สัมภาษณ์ว่าสั่งฟ้องโดยไม่ต้องมีผู้ต้องหา เป็นต้น
หลังจากนั้นก็ตามมาอีกหลายอย่าง เช่น ขยันดำเนินคดีอยู่วัดเดียว แต่เพิกเฉยกับการตามเงินอีก 92 % ที่ยังไม่ได้คืน ยิ่งถ้ามองในภาพรวมประเทศตอนนี้ก็คือ
ประชาชนรู้สึกว่า อำนาจบริหาร อำนาจตุลาการ อำนาจนิติบัญญัติ ซึ่งมีไว้เพื่อรักษาความยุติธรรมของประเทศ ถูกแทรกแซงจนเละเทะ ไม่เป็นอิสระในการทำงานต่อกัน
มันจึงยากจะทำให้ประชาชนเชื่อว่า ในช่วงเวลาที่ประเทศยังไม่เป็นประชาธิปไตย ทุกๆ อย่างจะดำเนินไปตรงไปตรงมา ตามหลักการและหลักเกณฑ์ของกฎหมายอย่างอิสระ โดยไม่มีอำนาจการเมืองควบคุมอยู่เบื้องหลัง
ดังนั้น ปัญหาจึงน่าจะอยู่ที่ประชาชนรู้สึกว่า กระบวนการยุติธรรมไม่ปลอดภัย นักการเมืองและคนนอกสามารถแทรกแซง กระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นซอย กลางซอย และปลายซอย ได้ทุกขั้นตอนนั่นเอง
ดังนั้น ปัญหาจึงน่าจะอยู่ที่ประชาชนรู้สึกว่า กระบวนการยุติธรรมไม่ปลอดภัย นักการเมืองและคนนอกสามารถแทรกแซง กระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นซอย กลางซอย และปลายซอย ได้ทุกขั้นตอนนั่นเอง
Cr : Ptt Cnkr
ไม่มีความคิดเห็น