ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

ภาพสะท้อนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ หารือร่วมกับบอร์ดบริหารธนาคาร เพื่อหาทางช่วยฟื้นฟูกิจการของสหกรณ์ฯ!!

จากแนวทางที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ หารือร่วมกับบอร์ดบริหารธนาคารภาครัฐ เพื่อหาทางช่วยฟื้นฟูกิจการของ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนั้น สะท้อนให้เห็นว่า


1. ปัญหาของสหกรณ์นั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับวัดพระธรรมกายตั้งแต่แรก เพราะวัดพระธรรมกาย
มิได้เป็นผู้มีส่วนรู้เห็นในการบริหารสหกรณ์
2. ความเสียหายของสหกรณ์นั้น เกิดจากการบริหารผิดพลาดของผู้บริหารสหกรณ์เอง ไม่ได้เกิดจากการบริจาคเงินให้แก่วัดพระธรรมกาย
3. คำวินิจฉัยของศาลปกครองช่วยยืนยันว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ก็มีส่วนร่วมที่ทำให้สหกรณ์ เกิดความเสียหายในฐานะเป็นผู้ให้คำปรึกษาแก่สหกรณ์ สิ่งเหล่านี้ หน่วยงานสอบสวนของภาครัฐ รู้มาตั้งแต่แรก แต่เหตุใดถึงมีการสร้างกระแสสังคม โยนความผิดว่าความเสียหายทั้งหมด ของสหกรณ์นั้นเกิดจากวัดพระธรรมกาย ทั้งที่ความจริงแล้ว วัดพระธรรมกาย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เลย อีกทั้งยังต้องมาแบกภาระปัญหาตั้งกองทุนช่วยเหลือสหกรณ์ แทนหน่วยงานภาครัฐ ธนาคารของภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกด้ว 
มิหนำซ้ำ หลวงพ่อวัดพระธรรมกาย ยังถูกตั้งข้อหารายวัน ถูกออกหมายเรียก นำไปสู่การออกหมายจับ โดนทั้งข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร ฟอกเงิน ขัดขืนการจับกุมเจ้าหน้าที่


 ยิ่งกว่านั้น ยังถูกโยงไปสู่ข้อหากบฏอาญาแผ่นดิน ตั้งรัฐอิสระเหนือกฎหมาย เป็นรัฐซ้อนรัฐ ถูกสื่อมวลชนตีข่าวใหญ่โตนานเป็นเดือนๆ มีการอนุมัติขอกำลังตำรวจนับพันนาย เพื่อจะบุกเข้ามาจับตัวหลวงพ่อวัดพระธรรมกายให้ได้ 
ที่สำคัญการดำเนินการทั้งหมดนั้น ทำอย่างลัดขั้นตอน และโยนความผิดทั้งหมดนั้น ให้วัดพระธรรมกายเพียงผู้เดียว โดยไม่มีท่าทีสนใจจะไปติดตามเงินอีก 90 % จากผู้รับเงินรายอื่นแม้แต่บาทเดียว
โชคดีที่ว่า วัดพระธรรมกายยึดหลักการของกฎหมาย และหลักเกณฑ์การใช้กฎหมายตามขั้นตอนมาโดยตลอด แม้อาจตกเป็นจำเลยสังคมบ้าง ตกเป็นผู้ต้องหาบ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นตกเป็นเหยื่อในคดีสหกรณ์


 เพราะเมื่อบัดนี้ ความจริงปรากฏชัดเจนแล้วว่า ความเสียหายทั้งหมดของสหกรณ์นั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากวัดพระธรรมกาย แต่เกิดจากการบริหารผิดพลาด
โดยมีหลักฐานปรากฏชัดเจนอยู่ทั้ง 4 ส่วน คือ
2) การถอนฟ้องของสหกรณ์ 
3) แผนการฟื้นฟูของสหกรณ์
4) แนวทางช่วยเหลือของกรมส่งเสริมสหกรณ์

เมื่อมีหลักฐานปรากฏชัดเช่นนี้ จึงมีคำถามเกิดขึ้นว่า
1. เหตุใดเจ้าหน้าที่รัฐจึงต้องรวบรัดขั้นตอนสอบสวน แล้วโยนความผิดทั้งหมดให้วัดพระธรรมกายด้วย
ทั้งที่จริงก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า เรื่องปัญหาของสหกรณ์นี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายตั้งแต่แรก ?
2. ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับวัดพระธรรมกาย ที่ต้องตกเป็นจำเลยสังคมมาตลอด 8 เดือนนี้ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบอย่างนั้นหรือ ?
3. เหตุใดศิษย์วัดพระธรรมกายจะต้องมา ตั้งกองทุนเกือบ 1,000 ล้านบาท เพื่อแบกภาระปัญหาแทนธนาคารของรัฐ 
 - แทนกรมส่งเสริมสหกรณ์ 
 - แทนหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องด้วย 
ทั้งที่วัดพระธรรมกายไม่ใช่ลูกหนี้สหกรณ์ และไม่ได้เป็นผู้สร้างความเสียหายแก่สหกรณ์แต่อย่างใด ?

4. การออกหมายจับ การเรียกพระไปสอบสวน การออกหมายค้น การขอตรวจดูเส้นทางการเงิน และขั้นตอนอื่นๆ อีกมากมาย ถือได้ว่าเป็นการปฏิบัติ ที่ปราศจากอำนาจกฎหมายรองรับ และปราศจากความเป็นธรรมต่อเจ้าอาวาส และศิษย์วัดพระธรรมกายได้หรือไม่ ?
เมื่อรู้ว่ามูลเหตุทางสหกรณ์เริ่มถึงทางตัน ก็เลยจะผลักดันการบริจาคให้เป็นการฟอกเงินเสียเลย ตกลงแล้ว ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คือหลอกใช้คดีสหกรณ์ เป็นเครื่องมือมาเล่นงานวัดพระธรรมกายเท่านั้น ถ้ารูปการณ์ออกมาแบบนี้ ขอแสดงความเสียใจ กับชาวสหกรณ์ล่วงหน้า เงินอีก 90 % เป็นหนี้สูญแน่นอน
ขอบคุณภาพจาก Google.com


Cr : Ptt Cnkr

ไม่มีความคิดเห็น