หลวงพ่อท่านบอกว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังมัวแต่ชมสวนดอกไม้อยู่ในโลกนี่เอง ชมรูปบ้าง เสียงบ้าง กลิ่นบ้าง รสบ้าง ไม่ได้ไปไหนกับเขาเลย บางคนก็ไปแล้วเลี้ยวกลับไม่ไปจริงๆ ไปเพลิดเพลินในบ้านในเรือนกันอีกแล้ว ทำกลับๆกลอกๆอย่างนี้จะเอาชีวิตไม่รอด ท่านให้เหตุผลว่า
ด้วยความหมั่นมั่นใจไม่ประมาท รักษาอาตม์ข่มใจไว้เป็นศรี ผู้ฉลาดอาจตั้งหลักพำนักดี อันห้วงน้ำไม่มีมารังควาน ห้วงน้ำของหลวงพ่อหมายถึงโอฆะ ๔ คือกาโมฆะ โอฆะคือกาม ภโวฆะ โอฆะคือภพ ทิโฐฆะ โอฆะ คือทิฐิ อวิชฺโชฆะ โอฆะคืออวิชชา หลวงพ่อท่านสอนว่าการปฏิบัติธรรมนั้นต้องทำให้ถึงที่สุด อย่าหยุด ไม่ว่าเราจะเห็นหรือไม่เห็นก็ให้ปฏิบัติเรื่อยไป อย่าปล่อยให้กาลเวลาล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์
ท่านจะเน้นเช่นนี้เสมอ เพราะความเพียรก็ต้องมีที่สุดของความเพียร ความอดทนก็ต้องมีที่สุดของความอดทน ถ้าเรายังปฏิบัติความเพียรไม่ถึงที่สุด แล้วเราก็บอกว่าเราเพียรแล้ว ความอดทนเราก็ยังทำไม่ถึงที่สุด แล้วเราก็บอกเราอดทนแล้ว เพราะที่สุดของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันเปรียบเสมือนการอ่านหนังสือ บางคนอ่านเพียงครั้งเดียวก็เข้าใจมีความรู้ทันที บางคนต้องเปิดอ่านหลายครั้งหลายคราวจึงจะเข้าใจ ทั้งนี้ย่อมขึ้นอยู่กับปัญญาบารมีของแต่ละคนซึ่งมีไม่เท่ากัน
ท่านสอนว่าการจะเข้าถึงธรรมต้องปล่อยชีวิตจิตใจ ไปรักไปห่วงอะไรไม่ได้ ปล่อยกันให้หมดสิ้นทีเดียว ถ้ายังมีรักมีห่วงกันอยู่เป็นไปไม่ถึงเด็ดขาด ท่านให้ข้อเตือนใจว่า พายเถอะนะเจ้าพาย ตลาดจะวายสายบัวจะเน่า โซ่ไม่แก้กุญแจไม่ไข จะไปได้อย่างไรกันล่ะเจ้า
Cr : สิงหล เพจบุคคลยุคต้นวิชชา
บทความจากหนังสือ ตรีธาเล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ
คลิกฟัง File เสียง บุคคลยุคต้นวิชชา ตอนที่ 31
ไม่มีความคิดเห็น