ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

เล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ จากบทความหนังสือบุคคลยุคต้นวิชชา ตอนที่ 58

เล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ จากบทความหนังสือบุคคลยุคต้นวิชชา ตอนที่ 58

วันขึ้น15 ค่ำ เดือน 10 ปีพ.ศ. 2460
" วันเข้าถึงธรรมกาย "

ในพรรษาที่11นั้นเอง หลังจากหยุดการเรียน ทางด้านปริยัติแล้ว พระภิกษุสด ก็มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติอย่างจริงจัง และได้หวนระลึกถึงอุปการะคุณ ของพระอธิการชุ่ม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดโบสถ์(บน)บางคูเวียง ที่ได้เคยถวายคัมภีร์มูลกัจจายน์ และคัมภีร์พระธรรมบท ให้ในตอนที่เรียน พระปริยัติธรรม

จึงบังเกิดความคิดว่า ถึงแม้ในวัดพระเชตุพนนี้ มีอาณาบริเวณ กว้างขวาง ดีมากก็จริงอยู่ แต่เจ้าอธิการชุ่ม ก็มีอุปการะคุณอยู่มาก จึงควรไปจำพรรษาที่นั่น แล้วจะได้แจกแจงแสดงธรรม แก่พระภิกษุสามเณร ญาติโยมทั้งหลาย เพื่อเป็นธรรมะบรรณาการตอบแทนต่ออุปการะคุณแก่วัดนั้น จึงได้กราบลา เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เข็ม) เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพน เพื่อไปจำพรรษา ณ วัดโบสถ์(บน)บางคูเวียง ในพรรษาที่12 และในพรรษานี้เองมีเหตุการณ์ที่สำคัญเกิดขึ้น ณ อุโบสถวัดโบสถ์(บน)บางคูเวียง ดังนี้คือ

ในวันเพ็ญเดือนสิบเวลาเช้า หลังจากที่พระภิกษุสดฉันเช้าแล้ว ก็ได้ปรารภความเพียรด้วยการนั่งสมาธิ

ขณะนั้นประมาณเวลา 2 โมงเช้าเศษๆ ภิกษุสดเริ่มทำความเพียรทางใจ หลับตาภาวนา "สัมมา อะระหัง" เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เพิ่มความเป็นเหน็บและปวดเมื่อยขึ้นมาทีละน้อยๆ ถี่ขึ้นหนักเข้า จนมีความรู้สึกว่า กระดูกทุกชิ้นส่วนเริ่มเขม็งเกลียวลั่นกร๊อบ แทบจะระเบิดหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ เพราะความเมื่อย ความกระวนกระวายใจเริ่มตามมา "เอ...แต่ก่อนเราไม่เคยรู้สึกเช่นนี้เลย พอตั้งสัจจะลงไปว่า ถ้ากลองเพลไม่ดังจะไม่ลุกจากที่ เหตุใดมันจึงเพิ่มความกระวนกระวายใจมากมายอย่างนี้ ผิดกว่าครั้งก่อนๆ ที่นั่งภาวนาเมื่อไหร่หนอกลองเพลจึงจะดังสักที

คิดไปจิตก็ยิ่งแกว่งซัดส่ายหนักเข้า เกือบจะเลิกนั่งก็หลายครั้ง แต่เมื่อได้ตั้งสัจจะลงไปแล้วจะแพ้ไม่ได้ เมื่อกายไม่สงบ จิตใจจะไปสงบได้อย่างไร ในที่สุดก็อดทนนั่งต่อไป ใจเริ่มค่อยสงบลงทีละน้อยๆ เพราะไม่แวบไปเกี่ยวที่ปวดเมื่อย "ช่างมันปะไรมันเป็นเรื่องของสังขาร" ในที่สุดใจก็หยุดเป็นจุดเดียวกัน เห็นเป็นดวงใสบริสุทธิ์ขนาดเท่าฟองไข่แดงของไก่ติดอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ใจสบายอย่างบอกไม่ถูก ความปวดเมื่อยหายไปไหนไม่ทราบ ก็พอดีกลองเพลดังกังวานขึ้น"

หลวงพ่อผ่านการบำเพ็ญเพียรในตอนเช้า ด้วยผลการปฏิบัติที่ได้เข้าถึงดวงใสบริสุทธิ์ติดอยู่ที่กลางกาย ทำให้มีความสุข อิ่มเอิบใจ แม้เวลาฉันภัตตาหารเพลก็ยังเห็น ฉันไปก็ยิ้มไป จนเพื่อนภิกษุถามว่า "ท่านสดทำไมวันนี้ท่านจึงฉันจังหัน(อาหาร)ไปยิ้มไป ท่านยิ้มกับผู้ใดหรือ" "เปล่าหรอกท่าน ผมกำลังระลึกถึงคุณของพระบรมศาสดาของเรา เลยอดที่จะยิ้มปีติโสมนัสใจไม่ได้" "ท่านสดนับว่าเป็นผู้ไม่ประมาท แม้แต่ฉันจังหันยังภาวนาระลึกถึงคุณของพระบรมศาสดาเป็นพุทธานุสติ หากพระองค์ยังมีพระชนม์อยู่ คงจะต้องตรัสสรรเสริญท่านท่ามกลางพระขีณาสพทั้งหลายเป็นแน่" เพื่อนภิกษุของท่านกล่าวชื่นชมเช่นนั้น เวลาบ่าย หลวงพ่อพักผ่อนและได้ลงปาฏิโมกข์ตามพระภิกษุที่อยู่วัดโบสถ์ด้วยกัน แล้วท่านก็รู้สึกเบากาย สบายใจยิ่งขึ้น ใกล้ค่ำ ท่านก็สรงน้ำ จัดการภารกิจส่วนตัวจนหมดความกังวลใจแล้ว ก็เริ่มเข้าประตูโบสถ์ในเวลาเย็น

Cr : สิงหล เพจบุคคลยุคต้นวิชชา
ตอนที่ 58 (เรื่องเล่าโดยอุบาสิกาถวิล วัติรางกูล หนังสือเดินไปสู่ความสุข)
คลิกฟัง File เสียง บุคคลยุคต้นวิชชา ตอนที่ 58

ไม่มีความคิดเห็น