ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

พระมหา ดร.ทวนชัย อธิจิตโต เล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ ตอนที่ 8

พระมหา ดร.ทวนชัย อธิจิตโต เล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ ตอนที่ 8

หลวงพ่อจะมีกระดานแผ่นหนึ่ง ถือกระชับมือจับได้ง่ายๆ มีหลักการนี่แหล่ะให้เขาดู นอกจากนั้น บ่อยครั้งที่หลวงพ่อทำเหรียญ ก็จะทำเป็นรูปการเข้าปฏิบัติธรรมสายวิชชาธรรมกาย เป็นรูปตรึกศูนย์กลางกาย แจกให้มากที่สุดเลย
คุณวิเศษของวิชชาพระพุทธเจ้า หลวงพ่อก็จะสอนการปฏิบัติว่า การปฏิบัติวิชชาธรรมกาย ปฏิบัติได้หมด ไม่ว่าผู้ใหญ่ เด็ก ผู้หญิง ผู้ชาย แต่ต้องรู้หลักการ รู้วิธีการ คือ ท่านบอกว่า หญิงซ้าย ชายขวา
เราจะต้องนึกนิมิตเป็นแก้วดวงใสๆ ขนาดเท่าฟองไข่แดงของไข่ไก่ ใหญ่กว่าดวงดาวสักเล็กน้อย ไม่ใหญ่เท่าดวงอาทิตย์หรอก พอเห็นถนัดๆ ฝ่ายชายให้เอามากำหนดไว้ ฐานที่ ๑ ปลายจมูกด้านขวา มาตั้งไว้ตรงนั้น ให้เราเห็นชัดเหมือนเราลืมตา ให้บริกรรมว่า สัมมาอะระหังๆ ๆ ๓ ครั้ง
แล้วให้เลื่อนนิมิตไปฐานที่ ๒ ตรงที่เพลาตา แล้วก็นึกให้ติดตาเหมือนลืมตาเห็น ใส สะอาด เปล่งปลั่ง มีรัศมีแวววาว ให้ชัดเหมือนลืมตาเห็น นี่เป็นเรื่องพลังจิตทั้งนั้นเลย ถ้าคนมีจิตไม่สนิท ไม่แน่นิ่ง หรือว่าไม่สงบเย็นไม่มีสมาธิ มองไม่ห็นหรอก แม้แต่ลืมตายังมองไม่เห็นเลย เพราะจิตมันไม่รับทราบ แว่นตาอยู่กับตายังหาอยู่เลย หมวกไว้บนศีรษะก็หาอยู่เลย

เพราะฉะนั้นการตรึกนึกถึงดวงแก้วใส ก็เช่นเดียวกัน ต้องมีสมาธิมาก ยิ่งมีสมาธิ ยิ่งสงบมากเท่าไหร่ก็จะเห็นชัดใสมากเท่านั้น คือเรามีจิตตั้งมั่นที่จะพิจารณา ที่จะเห็น ที่จะกำหนด ที่จะรับรู้ได้ เช่นเดียวกัน ฐานที่หนึ่งเคลื่อนไป ฐานที่สองก็บริกรรม อีกสามหน สัมมาอะระหังๆๆๆ แล้วก็เลื่อนไปฐานที่สามที่กลางศีรษะ ตามรูปเลย แล้วท่านบอกให้กำหนดว่า เหมือนที่กลางศีรษะของเราเนี่ย มีเชือกวัดจากหน้าไปหลัง จากขวามาซ้าย ตรงกลางที่เชือกตัดกันคือศูนย์กลางของศีรษะ
เราจะต้องนึกนิมิต คือแก้วดวงใสให้ไปตั้งไว้ที่ฐานที่สามนี้ เสร็จแล้วก็ตรึกนึกให้ใสไห้บริสุทธิ์ เปล่งปลั่ง มีประกายแวววาวเหมือนอย่างกับเพชรนะ คนทำได้ก็ทำได้จริงๆ เห็นได้จริงๆ เหมือนจับวางเลย
เมื่อใสสะอาดดีแล้ว ก็บริกรรมอีก สัมมาอะระหังๆๆๆ อย่างนี้ แล้วเราก็จะเลื่อนไปตามขั้นตอนแต่ละฐานแล้วบริกรรมสองสามหน เช่นเดียวกันไปเรื่อยๆ ตามรูปนะ

สรุปแล้วถึงสะดือ แล้วก็เลื่อนขึ้นมาฐานสุดท้ายนี่เหนือสะดือสองนิ้ว เอาเชือกวัดจากด้านหน้าไปด้านหลัง แล้วก็จากด้านขวาของเราไปด้านซ้าย ตรงเชือกตัดกัน นั้นละคือศูนย์กลางกาย
ซึ่งเป็นฐานที่เราจะเข้าไปสู่เบื้องสูง คือจะต้องมองกายในกายเข้าไปทวีคูณ เข้าไปเพื่อที่จะไปถึงกายมนุษย์ เราได้เกิดเป็นมนุษย์เพราะมีบุญบารมีสร้างสม อบรมดีแล้ว ได้ทำความดี ถึงได้มาเป็นมนุษย์

เพราะฉะนั้นกายมนุษย์จะต้องมีกายมนุษย์ละเอียด กายมนุษย์หยาบ กายมนุษย์ละเอียดเสร็จแล้ว จะต้องเข้าไปกลางกายทวีคูณเข้าไปเรื่อยๆ กายทิพย์หยาบ กายทิพย์ละเอียด กายรูปพรหมหยาบ กายรูปพรหมละเอียด กายอรูปพรหมหยาบ กายอรูปพรหมละเอียด
บริกรรมเข้าไปกลางกายในกาย เข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสุดท้ายไปเข้าจนถึงธรรมกาย จะเป็นพระองค์ใหญ่ หน้าตัก ๒๐ วาใหญ่โตมโหฬาร ที่จริงพลังจิตเรา จะขยายให้ใหญ่ขนาดเท่าโลกสักพันใบก็ทำได้ อยู่ที่พลังจิต
บอกว่าใหญ่ ใหญ่ทันที บอกว่าเล็ก เล็กทันที มองไม่เห็นมันอยู่ที่พลังจิต เพราะฉะนั้นเราจะขยายให้ใหญ่ ให้เล็กยังไงก็ได้ด้วยพลังจิต เมื่อจิตมีพลัง มีความสามารถแล้วละก็ จะได้เห็นอานุภาพปาฏิหาริย์ของพลังจิต
ตอนนี้สนุกแล้วสิ หลวงพ่อบอกว่า เอา...ลองไปดูชิ เออ..ว่าพระอินทร์เขาอยู่ยังไง ขึ้นไปบนสวรรค์ชิลูก เราก็อธิษฐานจิตเข้าไปบอกว่า ข้าพเจ้าจะไปเฝ้าพระอินทร์ ทีนี้จิตแวบไปเลย พอแวบเสร็จก็ไปเจอเลย พระอินทร์มาได้ไงก็ไม่รู้เหมือนกันนะ นี่เขาเรียกว่ามิติพลังจิต
มันสามารถพาเราข้ามขั้น จากมิติหนึ่งไปยังอีกมิติหนึ่ง มันเป็นโลกอีกโลกหนึ่ง เหมือนเราไปเดินท่อมๆ อีกโลกหนึ่นะ ไปเห็นเหตุการณ์เห็นตัวบุคคล เห็นวัตถุอะไรต่อมิอะไร ดินฟ้าอากาศของที่นั่น มันเหมือนเราฝัน แต่ว่าบังคับได้ เราจะบังคับจิตของเราได้

Cr : สิงหล เพจบุคคลยุคต้นวิชชา

ไม่มีความคิดเห็น