ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

สมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระชนมายุ 1 อสงไขยปี (อายุยืนจนนับปีไม่ได้)

สมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระชนมายุ 1 อสงไขยปี (อายุยืนจนนับปีไม่ได้)

สมัยหนึ่ง "พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่า มันธาตุราช มีพระชนมายุ 1 อสงไขยปี" (อายุยืนจนนับปีไม่ได้) พระองค์ปกครองทวีปทั้ง 4 โดยมี "เมืองราชคฤห์แคว้นมคธในปัจจุบันเป็นศูนย์กลางการปกครอง"

สมัยนั้นพวกมนุษย์ใน 3 ทวีป คือ ปุพพวิเทหทวีป อปรโคยานทวีป และอุตตรกุรุทวีป ได้ยินมาว่า ชมพูทวีปเป็นที่เกิดของบุรุษผู้สูงสุด นับแต่พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระมหาสาวก และพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นทวีปอุดมน่ารื่นรมย์ยิ่งนัก จึงพากันมายังชมพูทวีปกับพระเจ้าจักรพรรดิมันธาตุราช

ต่อมาพระเจ้ามันธาตุราชได้เสด็จไปยังเทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกา ท้าวมหาราชทั้ง 4 คิดว่า พระราชาทรงมีฤทธิ์มาก เราไม่สามารถจะห้ามการรบได้ จึงมอบราชสมบัติของตนให้ พระเจ้ามันธาตุราชทรงรับราชสมบัตินั้นแล้ว ตรัสถามว่า ยังมีที่น่ารื่นรมย์ยิ่งกว่านี้อีกไหม ท้าวมหาราชเหล่านั้น กราบทูลถึงภพดาวดึงส์แก่พระองค์ว่า ข้าแต่พระองค์ ภพดาวดึงส์น่ารื่นรมย์กว่านี้

พระราชาทรงสดับแล้ว มีพระประสงค์จะเสด็จไป ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น จักรแก้วได้พุ่งขึ้นไปแล้วสู่ภพดาวดึงส์ ท้าวสักกเทวราช (พระอินทร์) สดับว่า พระเจ้ามันธาตุราชเสด็จมาแล้ว จึงกระทำการต้อนรับ ตรัสว่า ข้าแต่มหาราช พระองค์เสด็จมาดีแล้ว สมบัติเป็นของพระองค์ ขอพระองค์จงทรงปกครองเถิด แล้วทรงแบ่งราชสมบัติพร้อมด้วยนางระบำให้เป็นสองส่วน ได้ประทานให้ส่วนหนึ่ง เมื่อพระราชามันธาตุราช เสด็จประทับอยู่บนภพดาวดึงส์เท่านั้นความเป็นมนุษย์ได้หายไปแล้ว ความเป็นเทพได้ปรากฏทันที

พระราชามันธาตุราชทรงเสวยทิพยสมบัติ ณ ภพดาวดึงส์นั้น ทรงครองราชสมบัติจนท้าวสักกะทรงอุบัติแล้วจุติแล้วถึง 36 องค์ ไม่ทรงอิ่มด้วยกาม ครั้นจุติจากภพดาวดึงส์แล้วตกลงในพระอุทยานของพระองค์ พระวรกายถูกลมและแดดสัมผัสได้เสด็จสวรรคต พระเจ้ามันธาตุราชจึงเป็นพระเจ้าจักรพรรดิที่มีบุญบารมีมาก มีบันทึกไว้ว่า "พระจันทร์พระอาทิตย์ส่องรัศมีสว่างไสวไปทั่วทิศโดยกำหนดที่เท่าใด สัตว์ทั้งหลายที่อาศัยแผ่นดินอยู่ในที่มีกำหนดเท่านั้น ล้วนเป็นทาสของพระเจ้ามันธาตุราชทั้งสิ้น"

คำอธิบายและอ้างอิง
1. ปกติมนุษย์ไม่สามารถปกครองสวรรค์ได้ แต่กรณีของพระราชามันธาตุราชจัดเป็นกรณีพิเศษ แม้ท้าวมหาราชทั้ง 4 ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาก็ไม่กล้ารบด้วย ท้าวสักกเทวราชก็เกรงใจถึงกับยกราชสมบัติให้กึ่งหนึ่ง ทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นได้ด้วยอานุภาพแห่งบุญ หากทำบุญไว้มาก บุญจะบันดาลให้ได้ในสิ่งที่คาดไม่ถึง
2. พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่ม 13 หน้า 185-187, เล่ม 58 หน้า 72 -79 และ เล่ม 11 หน้า 337.

ที่มา เพจ พระมหาสมคิด ชยาภิรโต

ไม่มีความคิดเห็น