ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

10 ตัวอย่างบริษัท ที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่น่าทึ่ง

10 ตัวอย่างบริษัท ที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่น่าทึ่ง
ปัจจุบันนี้คนทำงานส่วนใหญ่ไม่ได้เลือกสถานที่ทำงานโดยพิจารณาเพียงแค่เงินเดือนหรือสวัสดิการเท่านั้น เรื่องของวัฒนธรรมองค์กรหรือธรรมเนียมปฏิบัติอื่นๆ ที่น่าสนใจก็กลายมาเป็นแรงดึงดูดให้คนอยากจะมาทำงานด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมองค์กรแปลกๆ ในที่ทำงานหนึ่งก็อาจจะไม่เวิร์กสำหรับอีกที่หนึ่งก็ได้ ซึ่งคุณสามารถศึกษาจากบทความนี้ได้ว่า บริษัทต่างๆ บนโลกนี้นั้นยังมีที่ที่มีวัฒนธรรมองค์กรแปลกๆ อย่างนี้อยู่ด้วย

1.Zappos
Zappos แบรนด์รองเท้าชื่อดัง ก็มีวัฒนธรรมองค์กรที่น่าสนใจมาก โดยพนักงานใหม่จะถูกเสนอให้รับเงิน 2 พันดอลล่าร์ เพื่อขอให้ลาออกหลังจากทำงานไปในสัปดาห์แรกของการเทรนนิ่ง ถ้าพวกเขาตัดสินใจแล้วว่างานที่ทำอยู่นี่ไม่เหมาะกับเขา

ค่านิยมหลัก 10 ประการ ของบริษัทจะค่อยๆ ซึมเข้าไปในสมาชิกทุกคนของทีม พนักงานผ่านการทดสอบทักษะและมีความสามารถที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้มาจากนโยบายของบริษัทเพียงอย่างเดียว

จากผลกำไรที่ดีและสถานที่ทำงานที่มีความสุขยังส่งผลให้ลูกค้าแฮปปี้ด้วย ซึ่งถือว่า Zappos เข้าใกล้มากที่สุด เมื่อคุณมีวัฒนธรรมองค์กรที่ถูกต้อง การบริการลูกค้าที่ดีเยี่ยม ฉะนั้น แบรนด์ที่ดีเยี่ยมก็จะเป็นของคุณ

สิ่งที่ควรนำไปใช้ :Zappos ให้ความสำคัญกับการจ้างงานโดยเลือกสิ่งที่เหมาะและเข้ากับวัฒนธรรมขององค์กรตั้งแต่แรก โดยยังคงวัฒนธรรมองค์กรตั้งแต่เริ่มก่อตั้งไว้ได้ ถ้าส่งเสริมวัฒนธรรมที่ทำให้พนักงานมีความสุขก็จะนำมาซึ่งความสุขของลูกค้าเช่นกัน

2.Warby Parker
Warby Parker ทำและขายกระจกออนไลน์ ตั้งแต่ปี 2010 ทั้งนี้ที่ Warby Parker มีวัฒนธรรมองค์กรแบบ “culture crushes” ซึ่งเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มันประสบความสำเร็จเพราะไดรับความร่วมมือจากพนักงาน เช่น การจัดกิจกรรมสนุกๆ ระหว่างมื้อกลางวัน โปรแกรมอีเว้นท์ต่างๆ เพื่อความเพลิดเพลิน แต่บริษัทต้องแน่ใจว่าอีเว้นท์ที่จัดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ทั้งทีมตั้งตารอคอย ที่สำคัญคือเป็นการส่งเสริมการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ซึ่งตรงจุดนี้ Warby Parker ทำได้อย่างน่าชื่นชม
สิ่งที่ควรนำไปใช้: Warby Parker สร้างวัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งนำมาซึ่งการยอมจัดอีเว้นท์และโปรแกรมกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนคอมมูนิตี้ภายในองค์กร นับเป็นวัฒนธรรมบริษัทที่ดีเยี่ยมซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้

3.Southwest Airlines
อุตสาหกรรมการบินมักจะถูกมองว่า พนักงานหน้าบูดบึ้งและให้การบริการแย่ๆ กับลูกค้า แต่ Southwest Airlines ได้พยายามลบภาพนั้นทิ้งไป ลูกค้าส่วนใหญ่ล้วนมีภักดีกับแบรนด์ของ Southwest อย่างมาก เพราะนอกจากจะยิ้มแย้มเป็นกันเองแล้วพนักงานยังพยายามอย่างหนักที่จะเข้าช่วยเหลือลูกค้า
อย่างไรก็ตาม Southwest ไม่ใช่ผู้เล่นหน้าใหม่ในวงการนี้ แต่ดำเนินการมาเป็นเวลา 43 ปีแล้ว ระหว่างที่ให้บริการบริษัทก็ทำการสื่อสารภายในถึงเป้าหมายและวิสัยทัศน์ของบริษัทให้กับพนักงานทราบด้วยวิธีการที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของทีม
นอกจากนี้ Southwest ยังให้พนักงานสามารถอนุญาตให้เอ็กซ์ตรา ไมล์เพื่อทำให้ลูกค้ามีความสุข ซึ่งการให้อำนาจนี้ทำให้พนักงานรู้สึกว่ามีความสำคัญในองค์กร
สิ่งที่ควรนำไปใช้ : พนักงานจะรู้สึกตื่นเต้นไปกับการเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ขององค์กร

4.Twitter
ทวิตเตอร์เป็นหนึ่งในองค์กรที่มีผู้คนอยากจะไปงานมากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้คุณจะได้ยินเหล่าพนักงานทวิตเตอร์โม้ไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าจะเป็นการประชุมบนดาดฟ้า สภาพแวดล้อมที่ทำงานแบบ team-oriented ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่มีแรงผลักดันในการทำงานเพื่อเป้าหมายสูงสุดของบริษัท
พนักงานทวิตเตอร์ที่สำนักงานใหญ่ซานฟรานซิสโกยังได้รับประทานอาหารฟรีทุกมื้อ มีโยคะคลาส ไปพักร้อนแบบไม่มีลิมิต และยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกซึ่งแทบจะไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ดังนั้น ใครๆ ก็อยากเป็นส่วนหนึ่งของทวิตเตอร์ทั้งนั้น
พนักงานล้วนภูมิใจที่ได้มาทำงานที่นี้ พวกเขารักที่จะทำงานร่วมกับคนเก่งๆ มากมาย แถมยังจะโม้เสียด้วยซ้ำว่าเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำสิ่งที่พิเศษให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้
สิ่งที่ควรนำไปใช้ : คุณไม่สามารถเอาชนะบริษัทที่สมาชิกในทีมยินดีและเป็นมิตรต่อกันได้ มิหนำซ้ำพวกเขายังรักในการทำงานเสียด้วย ไม่มีโปรแกรม หรือกิจกรรมอีเว้นท์ใดจะมีความสุขไปกว่าการเติมเต็มพนักงานด้วยความรู้สึกที่ว่าพวกเขานั้นคือผู้ที่ทำให้บางสิ่งซึ่งสำคัญมากเกิดขึ้นบนโลก

5.Chevron
ในขณะที่บริษัทเกี่ยวกับน้ำมันและแก๊สตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีจากสาธารณชนเสียส่วนใหญ่ แต่พนักงาน Chevron กลับรักในวัฒนธรรมขององค์กรของเขาอย่างมาก พนักงาน Chevron เปรียบเทียบบริษัทตัวเองกับบริษัทอื่นที่ใกล้เคียงกันแล้ว ต่างก็ยอมรับใน “the Chevron way” ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มเทอย่างหนักเพื่อความปลอดภัยของพนักงาน การสนับสนุนการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของพนักงาน Chevron แสดงให้เห็นถึงการใส่ใจในตัวพนักงานทุกคน โดยการจัดศูนย์สุขภาพและฟิตเนสบนไซท์งาน รวมทั้งการจัดสรรช่วงเวลาเบรกที่เหมาะสม พูดง่ายๆ ว่าบริษัททำให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขานั้นมีค่าต่อองค์กรอย่างมาก

สิ่งที่ควรนำไปใช้ : วัฒนธรรมองค์กรของคุณอาจจะไม่ต้องถึงขั้นต้องมีโต๊ะปิงปองหรือฟรีเบียร์ให้กับพนักงาน แค่เพียงคุณให้ความสำคัญกับสวัสดิการความปลอดภัยของพวกเขา สร้างสรรค์นโยบายเพื่อสุขภาพ ซึ่งจะทำให้พวกเขารู้สึกว่าได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมก็พอ

6.SquareSpace
เป็นอีกหนึ่งสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ และยังได้รับการโหวตว่ามีสถานที่ทำงานที่สุดยอดที่สุดในนิวยอร์กอีกด้วย นอกจากนี้ วัฒนธรรมองค์กรของที่นี่ ได้แก่ “เรียบง่าย เปิดกว้าง และสร้างสรรค์” คำว่า ‘เรียบง่าย’ สิ่งนี้หมายถึงระดับในการบริหารระหว่างสต๊าฟกับผู้บริหารที่สามารถใกล้ชิดกันและเข้าถึงได้ง่าย และที่สำคัญคือแม้ว่าบริษัทจะโตไปกว่านี้แต่ก็ยังสามารถรักษารูปแบบนี้เอาไว้ได้อย่างดี
SquareSpace นอกจากจะให้ผลตอบแทนที่ดีแล้ว ยังเพิ่มผลประโยชน์อื่นๆ ให้อีก เช่น ประกันสุขภาพระดับพรีเมี่ยม การพักร้อนที่ยืดหยุ่น สถานที่ทำงานที่น่าดึงดูด บริการอาหาร ห้องครัว การเฉลิมฉลองทุกเดือน พื้นที่สำหรับพักผ่อน และยังมีการเชิญแขกมาช่วยเล็คเชอร์เพิ่มเติมความรู้ให้ในบางครั้งอีกด้วย
สิ่งที่ควรนำไปใช้: พนักงานรู้สึกว่าเสียงของพวกเขามีน้ำหนักขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ภายใต้ระบบการจัดการ ระดับของความอิสระและการให้อำนาจสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานและแปรเปลี่ยนเป็นขวัญกำลังใจที่ดี

7.Google
ถ้าพูดถึงองค์กรที่ดีล่ะจะไม่พูดถึง Google คงไม่ได้ เพราะที่นี่ติดรายชื่อบริษัทที่มีวัฒนธรรมดีเยี่ยมอยู่ในระดับต้นๆ เสมอ และมีชื่อเสียงเรื่องนี้มาหลายปี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลตอบแทนหรือสวัสดิการ เช่น อาหารฟรี จัดทริปเที่ยวให้พนักงาน ปาร์ตี้ โบนัส ยิม สิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตร และอื่นๆ อีกมากมาย และทราบกันดีว่าเหล่า Googlers มีทั้งรถขับ มีพรสวรรค์ และเป็นสุดยอดของสุดยอด
ในขณะที่ Google เติบโตและขยายออกไปอย่างกว้างขวาง การรักษารูปแบบของวัฒนธรรมจึงเป็นเรื่องยากระหว่างสำนักงานใหญ่กับสาขา ดังนั้น การนำเสนอรูปแบบใหม่ที่เป็นของตัวเอง จึงต้องมีความเหมาะสมด้วย
ขณะที่ Google ได้รับคำชมเรื่องผลตอบแทนและเรื่องสวัสดิการว่าดีมาก ก็ยังคงมีพนักงานบางส่วนที่รู้สึกว่าเจ็บปวดจากการถูกคาดหวังสูงมากจากบริษัท การจัดการกับความเครียดภายใต้สภาพแวดล้อมที่แข่งขันกัน ความคาดหวังความเป็นที่สุดจากพนักงานกลายมาเป็นตัวกระตุ้นความเครียดได้อย่างง่ายๆ ดังนั้น วัฒนธรรมองค์กรจะต้องดีเยี่ยมและบาลานซ์ได้ดีระหว่างการทำงานที่ดีและชีวิตที่ดี ซึ่ง Google ทำได้อย่างดีมาก
สิ่งที่ควรนำไปใช้ : แม้แต่วัฒนธรรมที่ดีที่สุดก็จำเป็นจะต้องทบวนตัวเอง วัฒนธรรมองค์กรที่ประสบความสำเร็จที่สุดจะต้องนำมาซึ่งธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วย และที่สำคัญคือต้องมาจากความต้องการเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและเติบโตไปพร้อมกัน

8.REI
พนักงานของ REI มีทัศนคติว่า บริษัทของตนนั้นมีแต่โปรดักส์สินค้าดีๆ สำหรับคนรักการแคมป์ปิ้ง และกิจกรรมเอาท์ดอร์ ภารกิจของ REI คือการจัดหาอุปกรณ์เอาท์ดอร์ดีๆ มาให้ทั้งกับลูกค้าและพนักงานของเขาเอง และไม่ใช่เพื่อให้เกิดความสนุกเพียงอย่างเดียวแต่จะต้องดูแลสิ่งแวดล้อมด้วย
อีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจคือ ซีอีโอของ REI หลักแหลมตรงที่ทราบดีว่าการให้สวัสดิการหรือเงินเดือนบริษัทอื่นก็สามารถหาให้ได้ แต่ไม่มีที่ไหนที่อนุญาตให้พนักงานได้ไปoutdoors-oriented ซึ่งพนักงานเองก็ปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทำให้วัฒนธรรมองค์กรมีเอกลักษณ์โดดเด่น ทั้งนี้ พนักงานจะได้อุปกรณ์เจ๋งๆ จากบริษัทไปผ่าน “challenge grants” ซึ่งจะให้พวกเขาลงชื่อส่งคำขอไปผจญภัยเอาท์ดอร์ที่ท้าทายมากๆ ได้ หรือการประชุมแบบ townhall-style ซึ่งจะจัดให้พนักงานสามารถลงชื่อถามคำถามที่ยิ่งใหญ่เพื่อช่วยในการบริหารงานของบรษัทได้ด้วย
สิ่งที่ควรนำไปใช้ :ถ้าเกิดพนักงานมีความสนใจ (หมกมุ่น) ในเรื่องที่เหมือนๆ กัน วัฒนธรรมองค์กรก็ควรจะขับเคลื่อนไปตามความต้องการและความสนใจของพวกเขา

9.Facebook
เช่นเดียวกับกูเกิ้ล Facebook คือบริษัทที่ระเบิดเติบโตอย่างรวดเร็ซ และมีวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นเอกลักษณ์ Facebook ให้ผลตอบแทนมากมาย อาทิ อาหาร หุ้น พื้นที่พักผ่อนในออฟฟิศ ทีมเวิร์กที่ดี การเปิดเผย บรรยากาศการแข่งขัน ฯลฯ เช่นเดียวกับบริษัทใหญ่ ก็คือบริษัทนี้เป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง ดังนั้น จึงนำมาซึ่งความเครียดและการแข่งขันในที่ทำงานอย่างง่ายดาย
เพื่อจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ Facbook ก็พยายามจัดสรรสถานที่ให้เกิดความเหมาะสม มีพื้นที่เอาท์ดอร์เพื่อพักผ่อน และยังสถานที่ทำงานแบบเปิด และพยายามสร้างวัฒนธรรมองค์กรแบบแบนที่เข้าถึงระดับผู้บริหารให้ง่ายขึ้น ด้วยการสร้างตึกและเพิ่มพื้นที่เพื่อสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวด้วย
สิ่งที่ควรนำไปใช้ :เมื่อบริษัทเราขึ้นอยู่กับการจ้างงานใหม่ของคนหัวกะทิในทุ่งหญ้าแห่งการแข่งขัน วัฒนธรรมองค์กรและการให้ผลประโยชน์มหาศาลต้องสัมพันธ์กันเพื่อเป็นการเชิญชวนให้ผู้สมัครที่เก่งๆ เข้ามา แต่ต้องแน่ใจว่าบริษัทคุณนั้นโดดเด่นกว่าที่อื่นๆ ด้วย

10.Adobe
Adobe คือบริษัทที่ค่อนข้างออกนอกกรอบ โดยการท้าทายพนักงานด้วยโปรเจ็คต์ใหม่ๆ อยู่เสมอ และยังแบ่งปันความซื่อสัตย์และสนับสนุนเพื่อช่วยให้พนักงานทำภาระกิจที่ท้าทายนั้นๆ ให้สำเร็จ ในขณะที่ยังให้ข้อเสนอผลตอบแทนที่มากมายเช่นเดียวกับบริษัทครีเอทีฟที่ทันสมัยที่อื่น นอกจากนี้ Adobe หลีกเลี่ยงอะไรที่มันจู้จี้จุกจิก และให้ความไว้วางใจแก่พนักงานอย่างที่สุด
ในเมื่อโปรดักส์ของ Adobe เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้น หากก้าวข้ามอะไรที่มันจุกจิกเล็กๆ น้อยๆ ไปได้ พนักงานที่จะต้องใช้หัวคิดในการสร้างสรรค์โปรดักส์ก็จะรู้สึกเป็นอิสระและสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างดี ตัวอย่างเช่น Adobe จะไม่ใช้เรตติ้งในการวัดผลงานความสามารถของพนักงาน ซึ่งจะไปยับยั้งความสามารถด้านสร้างสรรค์และยังเป็นอันตรายต่อการทำงานเป็นทีมอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้จัดการจะต้องเข้ามามีบทบาทในการเป็นโค้ช โดยการปล่อยให้พนักงานได้ดำเนินการและกำหนดเป้าหมายเอง
นอกจากนี้ บริษัทยังให้หุ้นแก่พนักงานอีกด้วยเพื่อที่จะทำให้รู้สึกว่าการทำงานของเขามีทั้งการเดิมพันและได้รับรางวัลไปพร้อมกัน อีกทั้งวัฒนธรรมที่สนับสนุนให้ลองกับความเสี่ยงโดยปราศจากความกลัวก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของ Adobe ที่น่าสนใจมาก
สิ่งที่ควรนำไปใช้ : ให้ความไว้วางใจแก่พนักงาน เป็นไปตามวิถีวัฒนธรรมองค์กรด้านบวก เพราะความเชื่อใจนำมาซึ่งอิสระของพนักงานซึ่งจะช่วยให้บริษัทเติบโตไปได้

ทั้ง 10 บริษัทดังกล่าวนี้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรที่น่าสนใจ และคิดค่อนข้างนอกกรอบ ซึ่งแม้ในวัฒนธรรมของไทยเราอาจจะมองว่ายังไม่สามารถก้าวไปถึงตรงจุดนั้นได้ แต่ถ้าได้นำมาปรับใช้เพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรมของไทย วัฒนธรรมในองค์กรเราเองก็อาจจะทำให้บริษัทพัฒนาไปได้ไกลต่อไปก็เป็นได้.

Cr : dhammakaya.network

ไม่มีความคิดเห็น