ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

ลุงเตชวัน มณีวรรณวรวุฒิ อดีตสามเณรจุลณี เล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ ตอนที่ 2


ลุงเตชวัน มณีวรรณวรวุฒิ อดีตสามเณรจุลณี เล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ ตอนที่ 2

นี่ตอนท่านสอนใหม่ๆ สอนไป ก็ทำวิชชาไป ท่านสอนอยู่เรื่อยๆ หลวงพ่อท่านจะเอาใจใส่ดูแลลูกวัดอย่างใกล้ชิด ในวันพระท่านก็จะลงปาติโมกข์ พอลงปาติโมกข์เสร็จก็อบรมพระเณร ถ้าไม่อบรมตอนนี้ ก็จะมีตอนเช้าไปฉันที่ศาลา ก่อนจะเข้าโบสถ์ไหว้พระ

ผมอาศัยอยู่กับพระครูพิพัฒน์ธรรมคณีในโบสถ์ ทีนี้รู้สึกว่ามันคับแคบก็เลยออกมานอนกับเณรองค์หนึ่งซึ่งบวชทีหลัง แล้วหลวงพ่อก็สั่งให้มาทำวิชชาด้วยกันนะ ๒ องค์เป็นเพื่อนกัน ปกติก่อนจะนอนก็ต้องกันมุ้งแล้วสวดมนต์นั่งสมาธิ มีอยู่วันหนึ่งวันนั้นเณรองค์นี้ที่มาอยู่ทีหลังไม่ได้กันมุ้ง ขี้เกียจ ก็นอนเลย พอต่อมาหลวงพ่อฉันเช้าเสร็จท่านก็มาสวดมนต์ในโบสถ์แล้วก็ขึ้นอบรม ท่านพูดเลยว่า

“ เมื่อคืนนี้..มีอัศจรรย์ ทำไมน้อ มันไม่สวดมนต์ ไม่นั่งสมาธิ เสร็จแล้วพอจะนอนมันก็ไม่กันมุ้งกันอีก เณรอีกองค์ก็บอกให้เขากันมุ้ง แต่มันกลับเอาตีนกันมุ้งชะนี่

”โอ้โอ...ตอนนั้นเป็นเณรกลัวเลย เพราะหลวงพ่อท่านรู้ ทีหลังเราก็ไม่กล้า ท่านพระครูพิพัฒน์ธรรมคณี จะเอาคำพูดที่หลวงพ่อพูดในโบสถ์มาเตือนพระเตือนเณร เรื่องของเณรที่ต้มข้าวต้มกินก็มีนะ เป็นเณรในกุฏิเนกขัมมะ แอบไปเที่ยวด้วย “ เหลืองไม่อยู่ส่วนเหลือง ต้มข้าวต้มกินยังไม่พอ ยังไปดูหนังชะอีก ” หลวงพ่อท่านจะเอามาตักเตือนในโบสถ์ แต่ไม่บอกว่าใคร ใครทำคนนั้นก็รู้เอง ท่านก็ว่า “ แล้วอย่างนี้ ศีลมันจะเหลือรึ ยังไม่พอไปดูหนังอีก ” แล้วผิดศีลข้อไหนอีก ท่านก็ไล่ดูเลยนะ ผิดศีลข้อไหนบ้าง เณรรู้มั้ย ไม่มีใครกล้าตอบเลย ถ้าทำอีกนะหลวงพ่อจะเรียกออกมาประกาศชื่อให้พระ และญาติโยมได้รู้ ผมโดนหลวงพ่อเตือนตรงๆ อยู่ครั้งหนึ่ง

วันนั้นหลวงพ่อไม่อยู่ พระครูฯก็ไม่อยู่ เราก็แอบไปปีนชมพู่มะเหมี่ยวตอนกลางคืน กัดไปแล้วนะด้วยความหิว พอเคี้ยวไปคำสองคำ ก็มาคิดว่า เอ๊ะ...เราจะกินดีมั้ยนะ พอคิดได้ เราก็โยนชมพู่ทิ้ง ที่เคี้ยวอยู่ก็กลืนลงไป ต่อมาหลวงพ่อท่านลงรับแขกท่านก็มองหน้าผม คือผมจะมีหน้าที่คอยปูอาสนะให้หลวงพ่อ ตอนที่ท่านจะรับแขก พอแขกไปหมดแล้ว ท่านก็พูด ตอนนั้นมียายอยู่ ๒ คน ยังไม่กลับ ท่านเอี้ยวตัวหันมาทางผม แล้วพูดว่า

“ เมื่อคืนนี้เอ็งไปปีนชมพู่ใช่ไหมวะ แหมพอเอ็งกินเข้าไปแล้ว เอ็งนึกได้ก็ค่อยทิ้ง แล้วอย่างนี้ที่กลืนๆ ลงไป ศีลมันจะเหลือหรือวะ ” ท่านพูดอย่างนี้เลยเหมือนท่านอยู่ในเหตุการณ์เลย ผมนี้หน้าชา อายโยมมากเป็นหนเดียวเท่านั้นที่ทำ
โดย : สิงหล เพจบุคคลยุคต้นวิชชา

ไม่มีความคิดเห็น