นักขัตตชาดก พระบรมศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภอาชีวกคนหนึ่ง จะไปขอกุลธิดานางหนึ่งในกรุงสาวัตถีให้กับบุตรชายของตน นัดหมายวันกันว่า ในวันโน้น จักมารับเอาตัวไป ครั้นถึงวันนัด แต่ถูกทักว่าฤกษ์ไม่ดี จึงไม่ไป ทำให้การเตรียมการทั้งหลายถูกยกเลิก ฝั่งเจ้าสาวจึงได้ยกบุตรสาวให้กับเมืองอื่น ในวันนั้นชาวเมืองทั่งสองฝ่ายโต้เถียงกันไป โต้เถียงกันมา อยู่อย่างนี้ ก็พอดีมีบุรุษผู้เป็นบัณฑิตชาวเมืองคนหนึ่ง ได้ยินชาวเมืองเหล่านั้นกล่าวว่า พวกเราถามอาชีวกแล้ว จึงไม่มาเพราะฤกษ์ไม่ดี ก็พูดว่า ฤกษ์จะมีประโยชน์อะไร เพราะการได้เจ้าสาวก็เป็นฤกษ์อยู่แล้ว มิใช่หรือ? ดังนี้แล้ว กล่าวคาถานี้ ความว่า “ประโยชน์ผ่านพ้นคนโง่ ผู้มัวคอยฤกษ์ยามอยู่ ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดวงดาวทั้งหลาย จักทำอะไรได้ ”
การได้เจ้าสาวนั้นเป็นฤกษ์ที่ดีแล้ว มีแต่คนเขลาเท่านั้นที่คอยดูฤกษ์อยู่ ดวงดาวทั้งหลายจะทำอะไรได้ เพราะฤกษ์แห่งประโยชน์นั้นเกิดขึ้นแล้ว เวลาบุรุษศรัทธาว่าจะออกบวช ฤกษ์นั้นก็ถึงพร้อมด้วยศรัทธาและความถึงพร้อม
ณ ปัจจุบันนี้ ในสถานการณ์ Covid-19 ทุกฤกษ์คือฤกษ์ไม่ดี และดี ถ้าเห็นแก่ประโยชน์ทุกเวลาก็สมควรแก่การงาน ทุกเวลาก็เป็นฤกษ์ที่ดี
ใน สิงคาลกสูตร ได้กล่าวถึงโทษของการเกียจคร้าน
ดูกรคฤหบดีบุตร โทษในการประกอบเนืองๆ ซึ่งความเกียจคร้าน 6 ประการเหล่านี้ คือ
มักให้อ้างว่าหนาวนัก แล้วไม่ทำการงาน 1
มักให้อ้างว่าร้อนนัก แล้วไม่ทำการงาน 1
มักให้อ้างว่าเวลาเย็นแล้ว แล้วไม่ทำการงาน 1
มักให้อ้างว่ายังเช้าอยู่ แล้วไม่ทำการงาน 1
มักให้อ้างว่าหิวนัก แล้วไม่ทำการงาน 1
มักให้อ้างว่าระหายนัก แล้วไม่ทำการงาน 1
เมื่อเขามากไปด้วยการอ้างเลศ ผลัดเพี้ยนการงานอยู่อย่างนี้ โภคะที่ยังไม่เกิดก็ไม่เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้วก็ถึงความสิ้นไป ดูกรคฤหบดีบุตร โทษ 6 ประการในการประกอบเนืองๆ ซึ่งความเกียจคร้านเหล่านี้แล ฯ
หลายคนนอกจากรอฤกษ์แล้วก็รออารมณ์ด้วย ทำให้สิ่งที่ควรทำไม่ได้ทำ สิ่งที่ไม่ควรทำก็เอามาทำก่อน เพราะอารมณ์ยังไม่ถึง ถ้าเราพร้อมฤกษ์นั้นก็ถึงพร้อม มีแต่เราตั้งใจจะพร้อม
หลายครั้งรออารมณ์ทำให้สิ่งที่ควรทำเคลื่อนไป ควรดูกาลว่าเหมาะสมไหม ดูอารมณ์ของเขาว่าเหมาะสมไหม ไม่ใช่ดูฤกษ์ยามหรือดวงดาว เมื่อถึงความว่าเป็นประโยชน์ ประโยชน์ก็เกิดขึ้นแก่ฤกษ์นั้น ความพร้อมไม่มีในโลก มีแต่ความพร้อมในวันไม่พร้อม จงทำตัวให้พร้อม ไม่ว่าใครจะพร้อมแต่เราพร้อมแล้วทุกอย่างจะเกิดขึ้นสมดังใจหมาย
ประเด็น มีการแข่งขันวอลเล่บอลเนชั่นส์ลีกที่ประเทศอิตาลี มีนักกีฬาหญิงไทยที่ถูกวางตัวไว้ติด Covid-19 จึงต้องเรียกตัว 6 คนในตำนาน มีเวลาซ้อมเพียง 3 วันก่อนแข่ง นัดที่เล่นกับจีนเป็นการแข่งขันที่น่าประทับใจ นักวอลเล่บอลหญิงจีนมีความสูงเฉลี่ย 186 เซนติเมตร ส่วนนักวอลเล่บอลหญิงไทยมีความสูงเฉลี่ย 176 เซนติเมตร ผลการแข่งขันออกมาแพ้อย่างสมศักดิ์ศรี เล่นกันสุดตัว ประทับใจความไม่พร้อมแต่ลุยเมื่อนักกีฬาตัวจริงป่วย การขานรับเมื่อเราไม่พร้อม มีธรรมะอะไรสอดคล้องบ้าง
ขยายความจากพระอาจารย์สัจจาธิโก
ความไม่เกียจคร้าน ความไม่รอฤกษ์ยาม เมื่อรู้ว่าควรต้องทำก็ทำ สงเคราะห์เข้าการมีวิริยะ คือการมีความเพียร ไม่รออารมณ์ ไม่รอฤกษ์ยาม ความไม่พร้อมเกิดขึ้นด้วยเหตุปัจจัยต่างๆ เรามีสิทธิ์ทำตัวเราให้พร้อม เคสนักกีฬาทีมชาติ ไม่มีข้ออ้าง ข้อแม้และเงื่อนไขเมื่อต้องทำ ทำให้เราดึงศักยภาพของตัวเองออกมาได้ แม้ครั้งนี้การแข่งขันจะไม่ชนะ
แต่สิ่งที่ชนะใจคือไม่มีข้ออ้าง ข้อแม้และเงื่อนไข หลายครั้งเราไม่พร้อม เพราะกลัวอาย กลัวดูไม่ดี กลัวดูแพ้ พอคนอื่นทำได้ รู้งี้เราควรจะทำดีกว่า เห็นผลงานของคนอื่นแล้ว เราเองก็คิดได้ แต่เราไม่ทำ
มีคำกล่าวว่า 100 คนคิด 10 คนทำ 1 คนสำเร็จ
ใน 100 คน มี 10 คนเท่านั้นที่ลงมือทำ และมี 1 คนเท่านั้นที่พยายามอย่างต่อเนื่อง การที่เราได้ลงสนามเต็มที่อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าเราลองทำ ไม่มีเราที่เตรียมตัวดีกว่านี้ในอดีต มีแต่เราไม่เตรียมตัว วันนี้อย่ารอฤกษ์ยาม รู้ว่าควรขวนขวายก็ควรทำ ดวงต่างๆไม่มีอิทธิพลสู้เท่ามานะตน เด็กที่เกิดวันที่ไม่ดีอาจสำเร็จในชีวิต การถือฤกษ์ยามไม่ใช่เรื่องประเด็นหลักในการดำเนินชีวิต หากเรามีเบอร์สวย ชื่อดี แต่นอนอยู่บ้าน การเป็นมงคลทำให้เราเห็นว่า มงคลเกิดขึ้นเพราะเราให้ความหมายและขวนขวายกระทำ
สิ่งที่จะชนะความกลัวคือความกล้า แม้แต่ความกลัวตายยังเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นเอง เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะเจออะไร ความกลัวทุกอย่างบนโลกใบนี้คือการปรุงแต่ง ต้องอาศัยความกล้า กล้าที่จะตัดสินใจรับผิดชอบไม่ว่ามันจะออกมาเป็นเช่นไร มันก็คือเรา เมื่อเรากล้าได้แบบนั้น ความพร้อมก็บังเกิดได้ในวินาทีนั้นเช่นกัน
สรุปพอสังเขปโดย นวลพรรณ
Cr ; เพจ สัจจาธิโก
.jpg)
ไม่มีความคิดเห็น