ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

พาลภายใน

นับแต่โบราณมาผู้เฒ่าผู้แก่ที่เจนโลก
มักเขียนข้อคิดเตือนใจ
จากประสบการณ์ของท่านไว้เสมอๆ ว่า

การยืมเงินแล้วไม่คืน
คำพูดให้ร้ายลับหลัง
ความอิจฉาริษยา
การฉีกหน้าทำลายชื่อเสียงผู้อื่น
การอวดโอ่ให้ผู้อื่นรู้ว่ามีเงินมาก

นิสัยเสียเล็กๆ น้อยๆ ทั้งห้าอย่างนี้
ต้องระวังให้ดี อย่าให้เผลอมีขึ้นมาในตัวเราได้ 
เพราะถึงแม้เราจะไม่ได้ลุ่มหลงไปกับ
สุรา นารี พาชี กีฬาบัตร
อันเป็นอบายมุขภายนอก
แต่ถ้าเรามีนิสัยเสียแบบนี้อยู่ข้างในตัว
ก็จะไม่มีเพื่อนดีๆ คนไหนอยากจะเป็นเพื่อนกับเรา

เมื่อไม่มีเพื่อนดีๆ อยากคบหา
ไม่มีเพื่อนดีๆ ให้การสนับสนุนเรา
แล้วเราจะสร้างความดีไปตลอดรอดฝั่งได้อย่างไร

พระบรมศาสดาตรัสว่า 
อบายมุขที่ร้ายแรงที่สุด
คือการคบคนพาลเป็นมิตร

แต่เราต้องไม่ลืมว่า
คนพาลที่ล่อลวงให้เรา
ทำชั่วได้เลวร้ายที่สุด
ทำลายอนาคตให้ดับสิ้นได้เร็วที่สุด
ทำลายเพื่อนที่ดีให้เลิกคบกันไปได้เร็วที่สุด
ไม่ใช่พาลภายนอก แต่เป็น
พาลภายใน
นั่นก็คือนิสัยที่ไม่ดีในตัวเรา
ไม่ใช่แค่อบายมุขทั่วไป
ที่ทำให้หมดอนาคตเท่านั้น

แม้แต่นิสัยไม่ดีบางอย่าง
ที่ดูเล็กน้อยแต่โทษร้ายแรง
ที่ชอบทำอยู่ทุกวันๆ เพื่อระบายอารมณ์
ถ้าหากไม่รีบแก้ไข ก็อาจจะให้โทษภัย
ที่รุนแรงยิ่งกว่าอบายมุขทั่วไปเสียอีก 

ดังนั้น การไม่ฝึกหัดขัดเกลานิสัยดีๆ ให้ตัวเอง
การไม่ขจัดนิสัยไม่ดีเล็กๆ น้อยๆ ที่ชอบนินทาว่าร้าย ชอบเอาเปรียบผู้อื่น หรือการมีนิสัยที่ชอบหลอกตัวเองให้เป็นมิจฉาทิฐินั่นแหละ
นิสัยไม่ดีเหล่านี้ แท้จริงคือพาลภายใน 
คืออบายมุขที่ทำไปไม่รู้ตัวอยู่ทุกวัน 
คือปากทางแห่งความหายนะที่ร้ายแรงที่สุด
ที่เราสร้างขึ้นมาทำลายตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ที่สำคัญก็คือ เมื่อปล่อยปละละเลยไว้นานวันเข้า ก็มักจะไม่มีใครกล้าเตือน 
เพราะไม่เหลือเพื่อนดีๆ ในชีวิตแล้วนั่นเอง 
ดังนั้น ถ้าปล่อยตัวเองไว้แบบนี้
แล้วจะสร้างบารมีไปตลอดรอดฝั่งได้อย่างไร
-----------------------
1 กรกฎาคม 2564
22.30 น.

cr. https://www.facebook.com/tchinungkuro/posts/4644553235573442

ไม่มีความคิดเห็น