ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

ป้าจินตนา โอสถ เล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ ตอนที่ 2

ป้าจินตนา โอสถ เล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ ตอนที่ 2

หมออยู่กับคณะทำวิชชา สมัยก่อนจะได้ยินแต่เสียงท่าน เป็นช่องเล็กๆ หลวงพ่อสั่งอะไรก็ทางช่องเล็กๆ ช่องขนาดจานลอดได้ แยกกันระหว่างพระกับชี แล้วนั่งสมาธิ จะมีเป็นเวร เวร ๑ เวร ๒ เวร ๓ หมออยู่เวรที่ ๒ ตั้งแต่ ๒ ทุ่มถึง ๒ ยาม สมัยนั้นรู้สึกจะ พ.ศ.๒๔๙๓ หลังสงครามโลกแล้ว

คณะทำวิชชาชุด ๑ ก็มีแม่ชีถนอม แม่ชีถนอมนะท่านเก่งมาก ตอนนี้เสียแล้ว แม่ชีได้ย้ายไปอยู่อ่างทองตั้งสำนัก ตอนนี้ยังมีสำนักอยู่ ตรงข้ามกับวัดท้องคุ้ง ชุดหนึ่งจะมีหัวหน้าคนเดียว แม่ชีจันทร์อยู่รุ่นแรก มีแม่ชีจันทร์ แม่ชีรัมภา แม่ชีทวีพร อยู่เวร ๑ แม่ชีรัมภาเป็นคนดีมาก แม่ชีชั้นก็ดีมาก แม่ชีชั้นรักหมอมาก คือคนแก่นะมีอะไรก็ให้ท่านหน่อย เดี๋ยวท่านก็เมตตา สมัยก่อนเวรหมอมีแม่ชีถนอม เวรหมอมีมากสุด แต่ไม่ค่อยมีใครกลับมาวัดกันคือออกไปแล้วก็ไปเลย ไม่กลับมาทำบุญที่วัดอีก แล้วชีวิตก็ลำบากหลวงพ่อท่านเห็นว่า เออ...สมาธิ ใช้ได้ ก็ตั้งเป็นอาจารย์สอนธรรมะ ไปสอนที่สุพรรณ มาวัดก็เอาข้าวสารมาให้ มีชื่อเสียงเรียงนามขึ้นมาก็เพราะเขานับถือหลวงพ่อวัดปากน้ำ บอกเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ ใครๆก็เลื่อมใส

เราก็ไปนั่งสอนธรรมะ คนเฒ่าคนแก่เขาก็มา สมัยก่อนเสือใต้ปล้นจี้กัน หมอกำลังนั่งสมาธิอยู่ มาล่ะถามว่า "คนที่ถูกจับไปจะตายหรือเป็น”เราดู เราก็บอก... คนที่ถูกจับไปนี้ตาบอดนี่ ไม่ตายหรอก... อีกทีหนึ่ง วัวควายหาย กำลังสอนๆ อยู่นะ "แม่ชีวัวหายตั้งแต่หัวค่ำ ยังไม่เจอนะ"เราก็ดิ่งเข้าไปในสมาธิ กายซ้อนกายเข้าไปในกายมนุษย์ กายทิพย์ กายพรหม กายอรูปพรหม กายธรรมไปจนถึงกายอรหันต์ ขยายออกไปตอนนั้นเชี่ยวชาญมาก มองไป "วัวตัวนี้มอๆ ใช่ไหม" สีมันไม่ดำนะ ขาวๆ นะ มันติดอยู่ในป่าช้า อยู่ตรงนั้นนะไปหาเถอะ

ส่วนมากเขาเชื่อนะ คนแก่คนเฒ่ามานั่ง คราวนี้แหวนหาย เราก็นั่งๆ เอ๊ะ...รู้สึกว่าเห็นอยู่ในกอหญ้านะ สีแดงเหรอ ไปหาตรงนั้นก็เจอ วิชชาของหลวงพ่อนี่ขลังมาก สมาธิตอนเด็กๆ พูดแล้วก็อัศจรรย์ พอทำอยู่กับหลวงพ่อตรึกอะไรก็ไปได้เลย ตอนนี้สู้ตอนนั้นไม่ได้ พอตอนเช้าๆ ออกมาทานข้าว คนในโรงครัวกับคนทำวิชชาเขาจะแยกกัน ...ขณะที่เราเดิน จิตจะสว่างหมดจะเห็นดวงใสอยู่ในกาย จะมองเห็นหน้าคนไม่ชัด ใจจะติดอยู่แต่ข้างใน หลวงพ่อท่านเห็นว่า หมอเป็นเด็กฉลาดและคล่องแคล่วในตอนแรกเลยนั้น ท่านให้ไปฝึกแก้โรคที่ตรงประชาสัมพันธ์

ฝึกแก้โรคก็ไม่ยากหรอก ท่านบอกว่าพวกนี้มันมีเหตุมาหลายอย่าง มนุษย์เรามี ๒ สาย คือ สายดำกับสายขาว สายขาวคือสายธรรมะของเรา ก็พยายามให้แสงสว่างให้มีความสว่างไสวอยู่ตลอดเวลา สายดำของเขา เขาก็ลั่ง ให้ทำบาปยิ่งทำเลวร้ายสกปรกโสมม ไปผิดศีล ผิดธรรม เขายิ่งชอบมากเลย สายดำเขาให้กำลังความชั่วอย่างนี้ แต่สายเราสายขาวก็ให้กำลังแต่ธาตุธรรมฝ่ายดี

เราหลวงพ่อจะแยกธาตุ ท่านจะบอกว่าสายดำมันมาแยกอย่างนี้นะ จะเกิดอะไรขึ้นมาท่านก็ให้ช่วยทำให้สว่างไสว ให้แม่ชีช่วยทำด้วย แต่ที่นี้แม่ชีน้อยเหลือเกิน มีแค่ ๓๐-๔o คน ไม่พอ เพราะการทำวิชชาต้องใช้คนเยอะ เวลาทำวิชชาใช่ว่าใจทุกคนจะนิ่งแน่นตลอดหมดทุกคน สามารถดิ่งไปได้เรื่อยๆ มีที่หลับที่ตื่นก็มี หลวงพ่อท่านก็จะคอยปลุก คือท่านจะเรียกเรียกที่ไรตื่นทุกที ได้ยินทุกที หลวงพ่อเหมือนท่านจะไม่ได้หลับเลย อยู่ทุกกะ และได้ยินเสียงท่านตลอด คนที่จะมาแก้โรคในสมัยนั้น จะมาส่งกระดาษให้หลวงพ่อ หลวงพ่อก็สั่งว่าดูแลให้ด้วยนะ แก้ให้ด้วย ต่ออายุให้ด้วย ก็ทำกันเลย ทุกคนช่วยกันทำ ทำกันหลายๆ คนมีพลัง ตอนเย็นที่ข้างนอกห้องทำวิชชา ถ้าไม่เจอหลวงพ่อก็จะมีแม่ชีนั่งแก้ โดยขอบารมีหลวงพ่อ อย่างบางคนปวดหัว เราก็นั่งเอากายในกายซ้อนที่เขา แล้วก็แก้ ไปแก้ในเหตุ

Cr : สิงหล เพจ : บุคคลยุคต้นวิชชา

ไม่มีความคิดเห็น