อย่างเรื่องดับดาวนี่เป็นของเล่น เรียกฝนก็ได้ พายุมันจะเกิดเราจะไม่ให้เกิดก็ได้ พระพุทธเจ้าตรัสบอกพระอานนท์ว่า พระโมคคัลลานะเก่งทางฤทธิ์นะ พระสารีบุตรเก่งทางธรรมะมีปัญญา พระอรหันต์แต่ละองค์เก่งไม่เหมือนกัน
อย่างองคุลีมาล ฆ่าคนเป็นหมื่นเป็นแสน ตัดนิ้วมือสร้างเวรกรรมเพราะอยากเป็นเจ้าโลก อยากสำเร็จทุกอย่าง จนเกือบจะฆ่าแม่ พระพุทธเจ้าไปห้ามไว้ องคุลีมาลวิ่งไล่ตามพระพุทธเจ้า บอกให้หยุดก่อนๆ พระองค์ก็บอกว่า
"เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด"
องคุลีมาลคิดว่า จะหยุดได้ยังไง วิ่งตามเท่าไหร่ก็ไม่ทัน พระพุทธเจ้า ท่านหยุดฆ่าคน หยุดความเลวความชั่ว และใจท่านหยุดแล้ว พอองคุลีมาลได้ฟังธรรมก็เกิดดวงตาเห็นธรรม ทิ้งมีดขอบวช
องคุลีมาลจากโจรมาเป็นคนดี เป็นพระอรหันต์ ตอนแรกคนก็เกลียด พากันขว้างปาหินใส่ บางคนก็กลัวมีผู้หญิงคนหนึ่ง วิ่งหนีท่านแล้วไปติดอยู่ที่รั้ว เป็นผู้หญิงท้องแก่ ท่านก็ตั้งสัจจอธิษฐานว่า
ข้าพเจ้าเลิกแล้วจากความชั่ว จากการเบียดเบียน ขอน้องหญิงจงคลอดด้วยความสวัสดิภาพ
ผู้หญิงคนนั้นก็คลอดลูกอย่างง่ายดาย
วิชชาธรรมกายนี้เป็นของจริงไม่ใช่ของเล่น หลวงพ่อบอกว่า
"หยุดนั่นแหละ เป็นตัวสำเร็จ"
เราเคยคิดว่า
"เอ...หลวงพ่อเรานี่ เก่งนี่หว่าท่านมีดีแต่ท่านไม่อวด"
เวลาท่านสอน เราก็นั่งฟัง
"มึงไม่ต้องพูด กูรู้"
หลวงพ่อพูดให้เราได้ยิน แหม! หลวงพ่อผมไมได้ว่าอะไรหลวงพ่อสักหน่อย จิตใจเรานับถือท่าน ศรัทธาท่าน ศรัทธาเกิดขึ้น บารมีเราก็แก่ขึ้น คนเราถ้าไม่มีศรัทธา บารมีไม่มีหรอก ความนับถือ ความเลื่อมใส ต้องประกอบด้วยการปฏิบัติจริง นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
หลวงพ่อวัดปากน้ำให้เชื่อเหตุ เชื่อผล อย่าไปเชื่อเพราะคำโกหกว่า เขาคนโน้นเก่ง คนนี้เก่ง ต้องไปดูว่าเขาเก่งยังไง ธรรมะนั้นมี ๓ อย่าง คือกุสลาธรรมา อกุสสราธรรมา อัพยากตาธรรมา บางทีเราเคืองเขา น้อยอกน้อยใจนี่ เป็นอกุศล บางทีอยู่เฉยๆ ก็คิดอยากจะทำบุญ นี่ใจเป็นกุศล บางครั้งก็รู้สึกเฉยๆ เรื่องนี้ พญามารเขาไม่ให้รู้หรอก รู้แล้วตาย หลวงพ่อบอกว่า
"ช่างมันเถอะ เกิดมาทั้งที ถ้าไม่ดีก็อยู่ไมได้ เกิดมาหาแก้วเจอแก้วแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม"
ท่านสอนให้เราเข้าใจตัวเอง รู้จักตัวเอง คนเราถ้าไม่เข้าใจตัวของตัวเองแล้ว ยังใช้ไม่ได้ ก็เหมือนกับคนเราถ้าไม่รู้ว่าเราคือใคร มายังไง ที่เป็นตัวตนอยู่นี้มาทำไม ท่านบอกว่า ตัวเรามีธาตุทั้ง ๔ คือดิน น้ำ ลม ไฟ ธาตุทั้ง ๔ มาประชุมรวมกัน เกิดมาเป็นตัวเป็นตน เผาแล้วก็จะเป็นเถ้าธุลี ไม่ใช่ตัวของเรา
แต่ตัวจริงของเรานั้นมีอยู่ข้างใน ตัวเรามี ๑๘ กาย กายฝัน กายละเอียด เรียงกันไปเยอะๆ เลย คนเราถ้าตาย กายข้างนอกก็ตายไป แต่กายข้างในไม่ตาย พูดแล้วก็เหมือนโกหก ถ้าไปเห็นแล้วมันจึงจะคุยกันได้ สมมติว่าเราฝัน ตัวฝันนั่นแหละสำคัญ เราต้องรู้แจ้งเห็นจริงในตัวเรา ว่าเรามีอะไรในตัวเรา เราไม่เชื่อตัวเราแล้วเราจะไปเชื่อใคร แกล้งเขาก็ได้ แกล้งตัวเองก็ได้ ตัวเราเองทั้งนั้น สรุปความแล้วมันมีเหตุ มีผลเกิดกับตัวเรา
หลวงพ่อวัดปากน้ำ จะบอกให้ภาวนาไปเรื่อยๆ สัมมาอะระหังๆๆ แล้วก็จะไปตกบ่อของใจ บ่อกว้างๆ กว้างมากเลย จิตตกอยู่ในตัวเรา ตัวเราค่อยๆ สว่างๆ ไปเรื่อยๆ เห็นทุกดวงและเห็นในสิ่งที่เราไม่เคยเห็น
เขาบอกว่าอันนี้ไม่จริงนะ ถ้าไม่ทำแล้วจะไปรู้ได้อย่างไร มันต้องทำถึงจะรู้ เราจะเห็นตัวเรา ตอนนั้นมันจะขยายไปก่อน พอเราตกหลุมจะขยายออกไป เรามีสติสัมปชัญญะ ก็จะเห็นจุดเล็กอยู่ตรงนี้เอง เห็นตัวเอง แล้วไม่คิดอะไร เราก็นั่งดูไป ทำไมมีหลายๆ ตัว หลายๆ กาย มีไปเรื่อยๆ เราเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น
อย่างเช่นญาติหรือผีก็เห็น "มาไงนะ" เขาถาม "ก็นั่งสมาธิมาเนี้ย" เขาเดินเป็นแถวตายนาทีหนึ่งเยอะ บางคนก็พิการไป บางคนก็สภาพต่างๆ กัน จะมีศาลาพักคน บางคนหิวน้ำ แต่ไม่มีน้ำกิน หิวข้าวแต่ไม่มีข้าวกิน เพราะไม่ได้ทำบุญมา คนนี้บาปหนัก บาปหนา เหมือนตีตั๋ว เราจะเห็นพี่ป้าน้าอา ว่าทรมานขนาดไหน
วิชชาธรรมกายเป็นวิชชาที่หลวงพ่อท่านค้นพบขึ้นมา จากสิ่งที่มีมาก่อน
หลวงพ่อท่านศึกษามาจากพระพุทธเจ้า คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไม่เคยโกหกใคร
Cr : สิงหล
เพจ : บุคคลยุคต้นวิชชา
ไม่มีความคิดเห็น