ค้นหาบล็อกนี้

Page Nav

HIDE

Grid

GRID_STYLE

Hover Effects

TRUE

Gradient Skin

{fbt_classic_header}

Update News:

latest

ป้าจินตนา โอสถ เล่าเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ ตอนที่ 1

หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เปรียบประดุจร่มโพธิ์แก้วทีให้ความร่มเย็น แก่ทุกชีวิตที่ได้เข้ามาอาศัยใต้บารมีท่าน เปลี่ยนชีวิต จากผู้ทุกข์ยากให้มีความสุขในเส้นทางอันดีงาม ความเมตตาของท่าน ไม่มีประมาณ ทุกคนที่มาเจอท่านต่างก็รู้สึกว่า เหมือนได้พบบิดาบังเกิดเกล้าที่เคยพลัดพรากจากกันมานานแสนนาน ดังชีวิตของคุณหมอจินตนา โอสถ แพทย์แผนโบราณ วัย ๗o ปี ที่ยึดมั่นในความดีงาม และธรรมะที่หลวงพ่อได้พร่ำสอน กล่าวได้ว่าการได้ชีวิตที่เปี่ยมสุข เพราะหลวงพ่อวัดปากน้ำ เป็นผู้ให้ชีวิตอย่างแท้จริง ก่อนที่จะมาพบหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น ตอนเป็นเด็กลำบากมาก กำพร้าแม่ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ ๒ ตอนนั้นลำบากมาก ตอนนั้นรู้สึกว่าแม่อายุ ๔o กว่าปี ก็มาเสียชีวิต แม่มีลูกทั้งหมด ๑๑ คน แม่ป่วย เป็นโรคหัวลูกบิด พยายามรักษา ค่าเข็มฉีดยาเข็มละ ๑๕๐ บาท สมัยนั้นแพงมากนะ

พอครบกำหนดที่แม่คลอด แม่กับน้องที่อยู่ในท้องก็เสียชีวิต ตอนแม่เสียลำบากมาก แม้แต่โลงศพก็เอาเตียงนอนมาทำโลง ลูกร้องไห้ระงม แม่เสียก็เหมือนแพแตก ชีวิตก็ระหกระเหิน น้องที่เหลือก็ยังเล็กๆ หมอกำลังเรียนอยู่ ป.๔ การเรียนก็จำเป็นต้องหยุดชะงัก แต่เป็นคนชอบทำบุญ หลังจากแม่เสียก็ทำบุญมาก ทำบุญใส่บาตร สมัยก่อนต่างจังหวัดเขามีกาเกี่ยวพันกับเรื่องข้าว นี้เราก็ลองไปทำการค้าขายข้าว รับสีข้าว ข้าวเปลือก ๑๐ถัง จะได้ข้าวสาร ๔ ถัง ครึ่งถังนั้นคือส่วนต่างที่เราจะได้มา ทำจนเหนื่อยมาก แจวเรือคนเดียวนะ จ้างเด็กมาคนหนึ่งอายุ ๑๒ ขวบ ส่วนหมออายุย่างเข้า ๑๔ ลำบากมาก ทีนี้เรือล่มเพราะคลื่นเรือใหญ่ ข้าวหายหมดทั้ง ๒ ครั้ง แล้วต้องใช้หนี้เขาอีก เราก็สู้ต่อไปไม่ท้อแท้ทำจนใช้หนี้เขาหมดก็แทบแย่ บางครั้งเรือไปติดผักตบกว่าจะถึงบ้านก็เที่ยงคืนก็มี อาหารการกินไม่ต้องพูดถึง ข้าวเปล่ากับน้ำปลาก็นับว่าดีที่สุดแล้ว จิตใจครุ่นคิดอยู่แต่ว่าอยากจะบวชชีดีกว่า สมัยเด็กนั้นนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาก

อยู่มาวันหนึ่งเรือมาติดอยู่หน้าวัดป่าพฤกษ์ อ.บางปลาม้า ก็มาเจอแม่ชีคนหนึ่ง แม่ชีกล่าวถึงธรรมะ กล่าวถึงหลวงพ่อวัดปากน้ำว่า วัดปากน้ำนะมีแม่ชีมากมาย จึงอยากจะบวช มากับเพื่อน ๒ คน เพื่อนจะพาสามีมาเข้าเป็นทหารที่กรุงเทพฯ นั่งเรือมากับเขา มีกำนันมาด้วย กำนันนี่จะเอาหมอมาขายไม่จริงใจที่จะให้เราบวช เราก็ขอบารมีของพระพุทธเจ้า ตอนเด็กๆ นึกถึงพระพุทธเจ้า ทั้งที่ไม่รู้จักว่าพระพุทธเจ้าท่านคือใคร แล้วขอให้มาถึงวัดปากน้ำ ภรรยาของกำนันก็มองหมอ แล้วก็ว่าหน้าตาอย่างหมอนี้ยังเด็กไม่น่าจะบวชชี น่าจะอยู่ทางโลก ไปพักบ้านคุณนายที่เทเวศน์ ลูกชายของคุณนายเป็นกัปตันเดินเรือ เขาอยากให้หมอแต่งงานกับลูกชายเขา หมอก็บอกว่า ถ้าจะแต่งขอให้บวชสัก ๑๕ วัน แต่ในใจคิดว่า บวชแล้วจะไม่สึกแน่นอนจะเกาะผ้าขาว จะอยู่กับหลวงพ่อ พูดอ้อนวอนจนเขาใจอ่อน เสร็จแล้วก็บอกให้กำนันพาไปส่งที่วัดปากน้ำ แต่กำนันหลอกพาเลี้ยวลดคดเคี้ยวในใจตอนนั้นคิดถึงแต่หลวงพ่อ ทั้งที่ไม่รู้จัก "หลวงพ่อช่วยลูกด้วย" ลูกนี่แย่แล้ว เพราะกำนันบอกให้เป็นเมียน้อยเขาดีกว่า จะได้อยู่อย่างสบาย(สมัยนั้นกำนันเป็นคนมีอิทธิพลมาก) ก็นึกให้หลวงพ่อช่วยลูกด้วย ให้ดลใจให้เขาไปส่งให้ถึงด้วย หมอยกมือไหว้อ้อนวอนแล้ว อ้อนวอนอีกจนกำนันแกใจอ่อน ผลที่สุดก็พามาส่งถึงวัดปากน้ำ

สมัยก่อนหลวงพ่อลำบากนะ มีศาลาก็เก่ามาก มีโรงครัวเล็กๆกุฏิก็ไม่มี หาพระองค์ไหนที่จะเหมือนหลวงพ่อไม่มีเลย ท่านเป็นพ่อในสายธรรมจริงๆ ท่านเมตตาคนยากคนจน ท่านต้อนรับ พอไปถึงท่านแล้วท่านก็ถาม "ลูกมาจากไหน" ก็บอกว่ามาจากสุพรรณ กำนันเขามาส่ง เมียกำนันเขาก็นัดให้ไปเจอที่บ้านคุณนาย ให้มาบวชแค่ ๑๕ วันเท่านั้นแล้วให้สึก พอมาถึงหลวงพ่อ ก็นั่งสมาธิ จิตใจก็บริสุทธิ์ เหมือนกับขึ้นสวรรค์ นั่งสมาธิไป ๗ วันก็เห็นแสงสว่าง แล้วฉันเห็นแม่ที่ตายไปเหมือนกับเรานั่งสมาธิ แล้วจิตล่องลอยไปเห็น แม่นุ่งเสื้อผ้าสีขาว ตอนแม่เสียนั้นหมออายุประมาณ ๑๓ ปี มาบวชก็เห็นหน้าแม่ เห็นว่าแม่คลอดลูกตายและไปอยู่กับน้องที่ตายด้วย

พอไปเล่าให้พ่อฟังพ่อก็บอกว่า เหมือนกับที่พ่อฝัน อยู่ในสภาพเดียวกันเลย ตอนที่ไปเห็นแม่นั้นแม่ชีคุมไป แม่ชีจะสอนธรรมะ หลวงพ่อให้ไปนั่งกับแม่ชีรู้สึกจะเป็นแม่ชีล้อม พอได้ธรรมะแล้วหลวงพ่อก็บอกว่า "เอ็งได้ธรรมะ เอ็งพยายามนะ"

โดยมากหลวงพ่อจะพูด เอ็งมึงกูนะ เป็นภาษาโบราณ หมอเป็นคนแจวเรือเก่ง แม่ชีเลยให้หมอเป็นคนแจวเรือขยันไปแจวเรือแต่เช้าไปกับคุณแม่ท้วม แจวเรือไปซื้อกับข้าวมาถวายพระ แล้วสายๆหน่อย ก๋วยเตี๋ยวเรือก็มา ก็ไปซื้อมาถวายหลวงพ่อ หลวงพ่อจะถามเรื่อยว่า "ปฏิบัตินะลูกนะพยายามนะ นั่งถึงไหน ให้ดิ่งจิตให้แน่วแน่" สมัยก่อนจะมีสอนธรรมะบนศาลา ศาลาเก่ามาก จุคนได้เป็นร้อยๆ คนเยอะมากเลย มาจากทุกหนทุกแห่ง แล้วก็มีโรงครัวเก่า ถึงอย่างนั้นหลวงพ่อยังเลี้ยงพระได้เยอะ ศาลาที่ฉันภัตตาหารสมัยก่อนเป็นโรงครัวเก่า แต่ทีนี้โรงครัวเก่าก็ไปติดริมแม่น้ำ ตรงศาลามีศาลาเล็กๆ มีเรือจอด แล้วศาลาอีกหลังถัดไปก็เก่ามากเลย ตรงที่หลวงพ่อรับแขกตอนนี้เป็นประชาสัมพันธ์ของวัดปากน้ำ พอหมออยู่ครบ ๑๕ วัน เขาก็มาตามให้สึก ทั้งกำนัน เมียกำนัน กับลูกคุณนาย เขาชี้หน้าด่าว่า ไหนจะบวชแค่ ๑๕ วัน เราก็ปล่อยให้เขาด่า แล้วก็ภาวนาให้หลวงพ่อช่วย ขณะนั้นแม่ชีท้วมมองเห็นพอดี แม่ชีท้วมรู้นิสัยหมอว่าไม่อยากสึก ท่านก็เรียกหมอเข้าไปหา แล้วให้รีบไปประเคนอาหารพระ ทำให้เราได้โอกาสขอตัวออกมา

หลวงพ่อตั้งชื่อให้ใหม่ตั้งแต่มาถึง ชื่อว่าจินตนา ชื่อเล่นแต่ก่อนชื่อว่า ทุกข์ แม่เป็นคนจีนพูดไทยไม่ได้ พ่อเป็นคนไทยไปแต่งงานกับแม่ที่ซัวเถา หลวงพ่อพอเห็นว่าเราจะไม่สึก แล้วสติปัญญาก็ดี หลังจากช่วยแม่ชีท้วมอยู่ที่โรงครัวได้ ๑ พรรษาท่านก็ให้ไปเข้าทำวิชชา

Cr : สิงหล เพจ : บุคคลยุคต้นวิชชา

ไม่มีความคิดเห็น