พอครบกำหนดที่แม่คลอด แม่กับน้องที่อยู่ในท้องก็เสียชีวิต ตอนแม่เสียลำบากมาก แม้แต่โลงศพก็เอาเตียงนอนมาทำโลง ลูกร้องไห้ระงม แม่เสียก็เหมือนแพแตก ชีวิตก็ระหกระเหิน น้องที่เหลือก็ยังเล็กๆ หมอกำลังเรียนอยู่ ป.๔ การเรียนก็จำเป็นต้องหยุดชะงัก แต่เป็นคนชอบทำบุญ หลังจากแม่เสียก็ทำบุญมาก ทำบุญใส่บาตร สมัยก่อนต่างจังหวัดเขามีกาเกี่ยวพันกับเรื่องข้าว นี้เราก็ลองไปทำการค้าขายข้าว รับสีข้าว ข้าวเปลือก ๑๐ถัง จะได้ข้าวสาร ๔ ถัง ครึ่งถังนั้นคือส่วนต่างที่เราจะได้มา ทำจนเหนื่อยมาก แจวเรือคนเดียวนะ จ้างเด็กมาคนหนึ่งอายุ ๑๒ ขวบ ส่วนหมออายุย่างเข้า ๑๔ ลำบากมาก ทีนี้เรือล่มเพราะคลื่นเรือใหญ่ ข้าวหายหมดทั้ง ๒ ครั้ง แล้วต้องใช้หนี้เขาอีก เราก็สู้ต่อไปไม่ท้อแท้ทำจนใช้หนี้เขาหมดก็แทบแย่ บางครั้งเรือไปติดผักตบกว่าจะถึงบ้านก็เที่ยงคืนก็มี อาหารการกินไม่ต้องพูดถึง ข้าวเปล่ากับน้ำปลาก็นับว่าดีที่สุดแล้ว จิตใจครุ่นคิดอยู่แต่ว่าอยากจะบวชชีดีกว่า สมัยเด็กนั้นนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาก
อยู่มาวันหนึ่งเรือมาติดอยู่หน้าวัดป่าพฤกษ์ อ.บางปลาม้า ก็มาเจอแม่ชีคนหนึ่ง แม่ชีกล่าวถึงธรรมะ กล่าวถึงหลวงพ่อวัดปากน้ำว่า วัดปากน้ำนะมีแม่ชีมากมาย จึงอยากจะบวช มากับเพื่อน ๒ คน เพื่อนจะพาสามีมาเข้าเป็นทหารที่กรุงเทพฯ นั่งเรือมากับเขา มีกำนันมาด้วย กำนันนี่จะเอาหมอมาขายไม่จริงใจที่จะให้เราบวช เราก็ขอบารมีของพระพุทธเจ้า ตอนเด็กๆ นึกถึงพระพุทธเจ้า ทั้งที่ไม่รู้จักว่าพระพุทธเจ้าท่านคือใคร แล้วขอให้มาถึงวัดปากน้ำ ภรรยาของกำนันก็มองหมอ แล้วก็ว่าหน้าตาอย่างหมอนี้ยังเด็กไม่น่าจะบวชชี น่าจะอยู่ทางโลก ไปพักบ้านคุณนายที่เทเวศน์ ลูกชายของคุณนายเป็นกัปตันเดินเรือ เขาอยากให้หมอแต่งงานกับลูกชายเขา หมอก็บอกว่า ถ้าจะแต่งขอให้บวชสัก ๑๕ วัน แต่ในใจคิดว่า บวชแล้วจะไม่สึกแน่นอนจะเกาะผ้าขาว จะอยู่กับหลวงพ่อ พูดอ้อนวอนจนเขาใจอ่อน เสร็จแล้วก็บอกให้กำนันพาไปส่งที่วัดปากน้ำ แต่กำนันหลอกพาเลี้ยวลดคดเคี้ยวในใจตอนนั้นคิดถึงแต่หลวงพ่อ ทั้งที่ไม่รู้จัก "หลวงพ่อช่วยลูกด้วย" ลูกนี่แย่แล้ว เพราะกำนันบอกให้เป็นเมียน้อยเขาดีกว่า จะได้อยู่อย่างสบาย(สมัยนั้นกำนันเป็นคนมีอิทธิพลมาก) ก็นึกให้หลวงพ่อช่วยลูกด้วย ให้ดลใจให้เขาไปส่งให้ถึงด้วย หมอยกมือไหว้อ้อนวอนแล้ว อ้อนวอนอีกจนกำนันแกใจอ่อน ผลที่สุดก็พามาส่งถึงวัดปากน้ำ
สมัยก่อนหลวงพ่อลำบากนะ มีศาลาก็เก่ามาก มีโรงครัวเล็กๆกุฏิก็ไม่มี หาพระองค์ไหนที่จะเหมือนหลวงพ่อไม่มีเลย ท่านเป็นพ่อในสายธรรมจริงๆ ท่านเมตตาคนยากคนจน ท่านต้อนรับ พอไปถึงท่านแล้วท่านก็ถาม "ลูกมาจากไหน" ก็บอกว่ามาจากสุพรรณ กำนันเขามาส่ง เมียกำนันเขาก็นัดให้ไปเจอที่บ้านคุณนาย ให้มาบวชแค่ ๑๕ วันเท่านั้นแล้วให้สึก พอมาถึงหลวงพ่อ ก็นั่งสมาธิ จิตใจก็บริสุทธิ์ เหมือนกับขึ้นสวรรค์ นั่งสมาธิไป ๗ วันก็เห็นแสงสว่าง แล้วฉันเห็นแม่ที่ตายไปเหมือนกับเรานั่งสมาธิ แล้วจิตล่องลอยไปเห็น แม่นุ่งเสื้อผ้าสีขาว ตอนแม่เสียนั้นหมออายุประมาณ ๑๓ ปี มาบวชก็เห็นหน้าแม่ เห็นว่าแม่คลอดลูกตายและไปอยู่กับน้องที่ตายด้วย
พอไปเล่าให้พ่อฟังพ่อก็บอกว่า เหมือนกับที่พ่อฝัน อยู่ในสภาพเดียวกันเลย ตอนที่ไปเห็นแม่นั้นแม่ชีคุมไป แม่ชีจะสอนธรรมะ หลวงพ่อให้ไปนั่งกับแม่ชีรู้สึกจะเป็นแม่ชีล้อม พอได้ธรรมะแล้วหลวงพ่อก็บอกว่า "เอ็งได้ธรรมะ เอ็งพยายามนะ"
โดยมากหลวงพ่อจะพูด เอ็งมึงกูนะ เป็นภาษาโบราณ หมอเป็นคนแจวเรือเก่ง แม่ชีเลยให้หมอเป็นคนแจวเรือขยันไปแจวเรือแต่เช้าไปกับคุณแม่ท้วม แจวเรือไปซื้อกับข้าวมาถวายพระ แล้วสายๆหน่อย ก๋วยเตี๋ยวเรือก็มา ก็ไปซื้อมาถวายหลวงพ่อ หลวงพ่อจะถามเรื่อยว่า "ปฏิบัตินะลูกนะพยายามนะ นั่งถึงไหน ให้ดิ่งจิตให้แน่วแน่" สมัยก่อนจะมีสอนธรรมะบนศาลา ศาลาเก่ามาก จุคนได้เป็นร้อยๆ คนเยอะมากเลย มาจากทุกหนทุกแห่ง แล้วก็มีโรงครัวเก่า ถึงอย่างนั้นหลวงพ่อยังเลี้ยงพระได้เยอะ ศาลาที่ฉันภัตตาหารสมัยก่อนเป็นโรงครัวเก่า แต่ทีนี้โรงครัวเก่าก็ไปติดริมแม่น้ำ ตรงศาลามีศาลาเล็กๆ มีเรือจอด แล้วศาลาอีกหลังถัดไปก็เก่ามากเลย ตรงที่หลวงพ่อรับแขกตอนนี้เป็นประชาสัมพันธ์ของวัดปากน้ำ พอหมออยู่ครบ ๑๕ วัน เขาก็มาตามให้สึก ทั้งกำนัน เมียกำนัน กับลูกคุณนาย เขาชี้หน้าด่าว่า ไหนจะบวชแค่ ๑๕ วัน เราก็ปล่อยให้เขาด่า แล้วก็ภาวนาให้หลวงพ่อช่วย ขณะนั้นแม่ชีท้วมมองเห็นพอดี แม่ชีท้วมรู้นิสัยหมอว่าไม่อยากสึก ท่านก็เรียกหมอเข้าไปหา แล้วให้รีบไปประเคนอาหารพระ ทำให้เราได้โอกาสขอตัวออกมา
หลวงพ่อตั้งชื่อให้ใหม่ตั้งแต่มาถึง ชื่อว่าจินตนา ชื่อเล่นแต่ก่อนชื่อว่า ทุกข์ แม่เป็นคนจีนพูดไทยไม่ได้ พ่อเป็นคนไทยไปแต่งงานกับแม่ที่ซัวเถา หลวงพ่อพอเห็นว่าเราจะไม่สึก แล้วสติปัญญาก็ดี หลังจากช่วยแม่ชีท้วมอยู่ที่โรงครัวได้ ๑ พรรษาท่านก็ให้ไปเข้าทำวิชชา
Cr : สิงหล เพจ : บุคคลยุคต้นวิชชา
ไม่มีความคิดเห็น